ศูนย์ข่าวศรีราชา - สภาทนายความ ส่งเรื่องตรวจสอบโรงเรียนสว่างบริบูรณ์ เมืองพัทยา หลังเจ้าของบ้านติดโรงเรียนร้องทำกิจกรรมวช่วงเช้าหน้าเสาธงส่งเสียงดังรบกวน ขณะที่ชาวบ้านรายอื่นๆออกโรงต้านพร้อมวอนผู้ร้องให้ยุติการกระทำ เพราะกิจกรรมของโรงเรียนในช่วงเช้าใช้เวลาเพียงสั้นๆ และยังถือเป็นเรื่องของการส่งเสริมให้เยาวชนรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
นางอรุณรัตน์ สวัสดิ์ชุติตระกูล ผู้อำนวยการโรงเรียนสว่างบริบูรณ์ พัทยา ซึ่งตั้งอยู่ในซอยเนินพลับหวาน หมู่ 5 ตำบลหนองปรือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี เปิดเผยว่า ขณะนี้โรงเรียนได้รับหนังสือแจ้งจากสภาทนายความเพื่อให้ดำเนินการตรวจสอบปัญหาและสอบถามความคิดเห็นจากประชาชนในละแวกใกล้เคียงโรงเรียน หลังที่ผ่านมาสภาทนายความได้รับการร้องเรียนจากประชาชนรายหนึ่งที่พักอาศัยอยู่ใกล้กับโรงเรียนว่า การจัดกิจกรรมหน้าเสาธงก่อนเข้าห้องเรียนในช่วงเช้าของโรงเรียนกินเวลานาน 30-45 นาทีนาที รวมทั้งทางโรงเรียนยังใช้เครื่องขยายเสียงส่งเสียงดังรบกวน ถือว่าเข้าข่ายผิดกฎหมายเกี่ยวกับการสร้างความเดือดร้อนรำคาญ
พร้อมระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นมาเป็นเวลานาน ขณะที่ผู้ร้องพักอาศัยมาอยู่ก่อนที่โรงเรียนจะเปิดการเรียนการสอน และที่ผ่านมาเคยร้องขอให้ทางโรง เรียนแก้ไขปัญหามาหลายครั้งแล้ว
“เรื่องนี้ได้เคยไปเจรจากับผู้ร้องมาแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งก็คิดว่าเรื่องจะยุติ เพราะทางโรงเรียนก็พยายามลดระดับของเสียงลงแล้ว แต่ก็ยังถูกร้องเรียนอีกและทางสภาทนายความก็ได้ส่งหนังสือมาให้ทางโรงเรียน ตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งขณะนี้ทางโรงเรียนก็ได้มอบหมายให้ทนายความทำการรวบรวมเอกสาร และสอบถามความคิดเห็นของประชาชนในละแวกใกล้เคียงว่ามีภาวะปัญหาในลักษณะดังกล่าวหรือไม่ จากนั้นก็จะได้ทำการเสนอเรื่องต่อสภาทนายความอีกครั้งภายในเดือนกันยายนนี้”
นางอรุณรัตน์ ยังกล่าวทิ้งท้ายว่าทางโรงเรียนไม่มีเจตนาที่จะสร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับประชาชนหรือชุมชนในพื้นที่ใกล้เคียง และก็พยายามแก้ไขหลังโดนตรวจสอบมาแล้วหลายครั้ง ทั้งจากกระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน รวมถึงสภาทนายความ แต่กิจกรรมในช่วงเช้าก็ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญเพราะเป็นการฝึกวินัย และส่งเสริมให้เด็กมีความรู้สึกรักชาติ ศาสนา และพระมหา กษัตริย์ ซึ่งทางโรงเรียนก็คงต้องทำการปรับลดเวลาและแก้ไขปัญหาเรื่องเสียงอีกครั้ง
ด้านนางเล็กไน้ แซ่ลี้ ชาวบ้านรายหนึ่งซึ่งมีที่พักติดกับโรงเรียนเช่นกัน ให้ความเห็นว่า เสียงเด็กนักเรียนทำกิจกรรมในช่วง เช้าไม่ดังเท่าที่ควร และยังไม่ได้รบกวนอะไร ทั้งๆที่บ้านของตนนั้นอยู่ระหว่างโรงเรียนสว่างและโรงเรียนบ้านเนินพลับหวาน
เช่นเดียวกับนางอัญชนา ศรีสุนทร ชาวบ้านอีกรายที่บอกว่าได้ยินเสียงการทำกิจกรรมในทุกเช้าแต่ก็เข้าใจว่าเป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมให้เด็กมีวินัยและรักชาติ จึงไม่ได้ติดใจอะไร และอยากให้เรื่องดังกล่าวยุติมากกว่า
นางอรุณรัตน์ สวัสดิ์ชุติตระกูล ผู้อำนวยการโรงเรียนสว่างบริบูรณ์ พัทยา ซึ่งตั้งอยู่ในซอยเนินพลับหวาน หมู่ 5 ตำบลหนองปรือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี เปิดเผยว่า ขณะนี้โรงเรียนได้รับหนังสือแจ้งจากสภาทนายความเพื่อให้ดำเนินการตรวจสอบปัญหาและสอบถามความคิดเห็นจากประชาชนในละแวกใกล้เคียงโรงเรียน หลังที่ผ่านมาสภาทนายความได้รับการร้องเรียนจากประชาชนรายหนึ่งที่พักอาศัยอยู่ใกล้กับโรงเรียนว่า การจัดกิจกรรมหน้าเสาธงก่อนเข้าห้องเรียนในช่วงเช้าของโรงเรียนกินเวลานาน 30-45 นาทีนาที รวมทั้งทางโรงเรียนยังใช้เครื่องขยายเสียงส่งเสียงดังรบกวน ถือว่าเข้าข่ายผิดกฎหมายเกี่ยวกับการสร้างความเดือดร้อนรำคาญ
พร้อมระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นมาเป็นเวลานาน ขณะที่ผู้ร้องพักอาศัยมาอยู่ก่อนที่โรงเรียนจะเปิดการเรียนการสอน และที่ผ่านมาเคยร้องขอให้ทางโรง เรียนแก้ไขปัญหามาหลายครั้งแล้ว
“เรื่องนี้ได้เคยไปเจรจากับผู้ร้องมาแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งก็คิดว่าเรื่องจะยุติ เพราะทางโรงเรียนก็พยายามลดระดับของเสียงลงแล้ว แต่ก็ยังถูกร้องเรียนอีกและทางสภาทนายความก็ได้ส่งหนังสือมาให้ทางโรงเรียน ตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งขณะนี้ทางโรงเรียนก็ได้มอบหมายให้ทนายความทำการรวบรวมเอกสาร และสอบถามความคิดเห็นของประชาชนในละแวกใกล้เคียงว่ามีภาวะปัญหาในลักษณะดังกล่าวหรือไม่ จากนั้นก็จะได้ทำการเสนอเรื่องต่อสภาทนายความอีกครั้งภายในเดือนกันยายนนี้”
นางอรุณรัตน์ ยังกล่าวทิ้งท้ายว่าทางโรงเรียนไม่มีเจตนาที่จะสร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับประชาชนหรือชุมชนในพื้นที่ใกล้เคียง และก็พยายามแก้ไขหลังโดนตรวจสอบมาแล้วหลายครั้ง ทั้งจากกระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน รวมถึงสภาทนายความ แต่กิจกรรมในช่วงเช้าก็ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญเพราะเป็นการฝึกวินัย และส่งเสริมให้เด็กมีความรู้สึกรักชาติ ศาสนา และพระมหา กษัตริย์ ซึ่งทางโรงเรียนก็คงต้องทำการปรับลดเวลาและแก้ไขปัญหาเรื่องเสียงอีกครั้ง
ด้านนางเล็กไน้ แซ่ลี้ ชาวบ้านรายหนึ่งซึ่งมีที่พักติดกับโรงเรียนเช่นกัน ให้ความเห็นว่า เสียงเด็กนักเรียนทำกิจกรรมในช่วง เช้าไม่ดังเท่าที่ควร และยังไม่ได้รบกวนอะไร ทั้งๆที่บ้านของตนนั้นอยู่ระหว่างโรงเรียนสว่างและโรงเรียนบ้านเนินพลับหวาน
เช่นเดียวกับนางอัญชนา ศรีสุนทร ชาวบ้านอีกรายที่บอกว่าได้ยินเสียงการทำกิจกรรมในทุกเช้าแต่ก็เข้าใจว่าเป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมให้เด็กมีวินัยและรักชาติ จึงไม่ได้ติดใจอะไร และอยากให้เรื่องดังกล่าวยุติมากกว่า
