กาญจนบุรี - กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม เดินหน้ารับฟังความคิดเห็นดันเส้นทางรถไฟสายมรณะ กาญจนบุรี เป็นมรดกโลก
เมื่อเวลา 10.30 น.วันนี้ (17 ส.ค.) นายณฐพลษ์ วิเชียรเพริศ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้เป็นประธานในการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นกรณีทางรถไฟสายมรณะเป็นมรดกโลก โดยมีนายธราพงศ์ ศรีสุชาติ ผู้อำนวยสำนักโบราณคดี กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม ผศ.ดร.ปัญญา การพานิช อธิการบดี ม.ราชภัฏกาญจนบุรี และนักวิชาการ ผู้แทนองค์กรเอกชน ผู้แทน อปท.และประชาชนที่มีส่วนได้เสียประมาณ 100 คน ร่วมประชุมเพื่อแสดงความคิดเห็นที่ห้องประชุมศรีภัฏ ม.ราชภัฏกาญจนบุรี
โดย นายธราพงศ์ ศรีสุชาติ ผู้อำนวยสำนักโบราณคดี กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยเกี่ยวกับคณะทำงานได้วางกรอบการศึกษารวมรวมข้อมูลเพื่อผลักดันเส้นทางรถไฟสายมรณะ เป็นมรดกโลกว่า ทางกรมศิลปากรให้จังหวัดกาญจนบุรีและม.ราชภัฏกาญจนบุรีเป็นหลัก ในการดำเนินการรับฟังความคิดเห็น ข้อมูลเชิงวิชาการเกี่ยวกับการก่อสร้างเส้นทางรถไฟสายมรณะ โดยศึกษาตั้งแต่สถานีหนองปลาดุก อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรีไปจนถึง ด่านเจดีย์สามองค์ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรีทะลุไปจนถึงเมืองตันบูซายัต ในสหภาพพม่า
โดยศึกษาทั้งเส้นทางแต่ในส่วนการนำเสนอขึ้นทะเบียนมรดกโลกนั้นจะเสนอแค่จาก สถานีหนองปลาดุกไปถึงแค่ด่านเจดีย์สามองค์ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรีเท่านั้น ส่วนที่ต่อจากชายแดนไทย-พม่า ไปถึงที่สถานีตันบูซายัต จะเป็นเรื่องที่ทางสหภาพพม่าหากมีความพร้อมและต้องการที่จะเสนอเป็นมรดกโลก เพิ่มเติมก็เป็นสิทธิ์ของทางสหภาพพม่าดำเนินการ โดยเราจะเสนอขึ้นทะเบียนเฉพาะในส่วนที่อยู่ในประเทศไทยเท่านั้น
ส่วนข้อกังวลเกี่ยวกับผลกระทบกับชุมชนรอบข้างไม่มี เพราะเราจะเสนอใช้แต่เส้นทางรถไฟเท่านั้น โดยมีเฉพาะในส่วนพื้นที่สำคัญที่สะพานข้ามแม่น้ำแควและบริเวณทางเลียบเขาที่ถ้ำกระแซเท่านั้นจึงไม่กระทบกับวิถีชีวิตและชุมชนตลอดเส้นทางสาย
ส่วน นายณฐพลษ์ วิเชียรเพริศ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ว่า จังหวัดกาญจนบุรีมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะได้มีส่วนร่วมในการผลักดันเส้นทางรถไฟสายมรณะไปสู่ความเป็นมรดกโลก ที่ทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมซึ่งตนพร้อมที่จะให้ความร่วมมือและประสานงานในทุกด้าน เพราะจะเป็นอีกส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ในการพัฒนาจังวัดกาญจนบุรีสู่การเป็นเมืองท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และวัฒนธรรมอย่างยั่งยืนอย่างแท้จริง ซึ่งทั้งนี้หมายรวมถึงการบูรณาการด้านการท่องเที่ยว เพื่อนำไปสู่ความเป็นสากลเพราะเส้นทางรถไฟสายมรณะถือเป็นแหล่งประวัติศาสตร์ที่เป็นที่ที่รู้จักของประชาชนทัวโลก
โดยเฉพาะในส่วนของสะพานข้ามแม่น้ำแควและสุสานสหประชาชาติ รวมถึงเส้นทางเลียบเขาที่บริเวณถำกระแซ อ.ไทรโยค นั้น ถือว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดกาญจนบุรี จากเดิมที่เรามีทุ่งใหญ่นเรศวรเป็นมรดกโลกแล้วหากมีเส้นทางรถไฟสายมรณะเป็นมรดกโลกอีกชิ้นหนึ่งก็จะทำให้กาญจนบุรีได้มีสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญในระดับโลกที่จะเป็นสิ่งดึงดูดให้นักท่องเที่ยวมาท่องเที่ยวในประเทศไทย และกาญจนบุรี เพิ่มมากขึ้นต่อไป
เมื่อเวลา 10.30 น.วันนี้ (17 ส.ค.) นายณฐพลษ์ วิเชียรเพริศ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้เป็นประธานในการจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นกรณีทางรถไฟสายมรณะเป็นมรดกโลก โดยมีนายธราพงศ์ ศรีสุชาติ ผู้อำนวยสำนักโบราณคดี กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม ผศ.ดร.ปัญญา การพานิช อธิการบดี ม.ราชภัฏกาญจนบุรี และนักวิชาการ ผู้แทนองค์กรเอกชน ผู้แทน อปท.และประชาชนที่มีส่วนได้เสียประมาณ 100 คน ร่วมประชุมเพื่อแสดงความคิดเห็นที่ห้องประชุมศรีภัฏ ม.ราชภัฏกาญจนบุรี
โดย นายธราพงศ์ ศรีสุชาติ ผู้อำนวยสำนักโบราณคดี กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยเกี่ยวกับคณะทำงานได้วางกรอบการศึกษารวมรวมข้อมูลเพื่อผลักดันเส้นทางรถไฟสายมรณะ เป็นมรดกโลกว่า ทางกรมศิลปากรให้จังหวัดกาญจนบุรีและม.ราชภัฏกาญจนบุรีเป็นหลัก ในการดำเนินการรับฟังความคิดเห็น ข้อมูลเชิงวิชาการเกี่ยวกับการก่อสร้างเส้นทางรถไฟสายมรณะ โดยศึกษาตั้งแต่สถานีหนองปลาดุก อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรีไปจนถึง ด่านเจดีย์สามองค์ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรีทะลุไปจนถึงเมืองตันบูซายัต ในสหภาพพม่า
โดยศึกษาทั้งเส้นทางแต่ในส่วนการนำเสนอขึ้นทะเบียนมรดกโลกนั้นจะเสนอแค่จาก สถานีหนองปลาดุกไปถึงแค่ด่านเจดีย์สามองค์ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรีเท่านั้น ส่วนที่ต่อจากชายแดนไทย-พม่า ไปถึงที่สถานีตันบูซายัต จะเป็นเรื่องที่ทางสหภาพพม่าหากมีความพร้อมและต้องการที่จะเสนอเป็นมรดกโลก เพิ่มเติมก็เป็นสิทธิ์ของทางสหภาพพม่าดำเนินการ โดยเราจะเสนอขึ้นทะเบียนเฉพาะในส่วนที่อยู่ในประเทศไทยเท่านั้น
ส่วนข้อกังวลเกี่ยวกับผลกระทบกับชุมชนรอบข้างไม่มี เพราะเราจะเสนอใช้แต่เส้นทางรถไฟเท่านั้น โดยมีเฉพาะในส่วนพื้นที่สำคัญที่สะพานข้ามแม่น้ำแควและบริเวณทางเลียบเขาที่ถ้ำกระแซเท่านั้นจึงไม่กระทบกับวิถีชีวิตและชุมชนตลอดเส้นทางสาย
ส่วน นายณฐพลษ์ วิเชียรเพริศ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ว่า จังหวัดกาญจนบุรีมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะได้มีส่วนร่วมในการผลักดันเส้นทางรถไฟสายมรณะไปสู่ความเป็นมรดกโลก ที่ทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมซึ่งตนพร้อมที่จะให้ความร่วมมือและประสานงานในทุกด้าน เพราะจะเป็นอีกส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ในการพัฒนาจังวัดกาญจนบุรีสู่การเป็นเมืองท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และวัฒนธรรมอย่างยั่งยืนอย่างแท้จริง ซึ่งทั้งนี้หมายรวมถึงการบูรณาการด้านการท่องเที่ยว เพื่อนำไปสู่ความเป็นสากลเพราะเส้นทางรถไฟสายมรณะถือเป็นแหล่งประวัติศาสตร์ที่เป็นที่ที่รู้จักของประชาชนทัวโลก
โดยเฉพาะในส่วนของสะพานข้ามแม่น้ำแควและสุสานสหประชาชาติ รวมถึงเส้นทางเลียบเขาที่บริเวณถำกระแซ อ.ไทรโยค นั้น ถือว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดกาญจนบุรี จากเดิมที่เรามีทุ่งใหญ่นเรศวรเป็นมรดกโลกแล้วหากมีเส้นทางรถไฟสายมรณะเป็นมรดกโลกอีกชิ้นหนึ่งก็จะทำให้กาญจนบุรีได้มีสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญในระดับโลกที่จะเป็นสิ่งดึงดูดให้นักท่องเที่ยวมาท่องเที่ยวในประเทศไทย และกาญจนบุรี เพิ่มมากขึ้นต่อไป