ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปราบยาเสพติดภาค 5 ระบุ ยาเสพติดภาคเหนือตอนบนยังระบาดหนัก พบมีร่วม 6,000 หมู่บ้าน/ชุมชนจากทั้งหมด 8,000 หมู่บ้าน ที่มีคนเข้าไปพัวพันกับยาเสพติด ทั้งการเป็นผู้ค้าและผู้เสพ นอกจากนี้ มีข้อมูลเจ้าหน้าที่รัฐจำนวนมากเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด กำลังเร่งทำการตรวจสอบอย่างละเอียด พร้อมจับตาดูพฤติกรรมใกล้ชิด ขณะเดียวกัน หวังรัฐบาลสนับสนุนเครื่องเอกซเรย์ช่วยเจ้าหน้าที่เพิ่มประสิทธิภาพทำงานสกัดกั้นยาเสพติด
นายพรเทพ เอี่ยมประไพ ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.)ภาค 5 เปิดเผยว่า ปัจจุบันสถานการณ์การแพร่ระบาดของยาเสพติดยังคงมีความรุนแรงอยู่และจำเป็นที่ต้องติดตามเฝ้าระวัง ป้องกันและปราบปรามอย่างเข้มข้น โดยจากข้อมูลพบว่าทุกวันนี้ในพื้นที่ 8 จังหวัดภาคเหนือ มีหมู่บ้าน ชุมชนจำนวนมากถึงประมาณ 6,000 หมู่บ้าน จากทั้งหมดประมาณ 8,000 หมู่บ้าน ที่คนในหมู่บ้านเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติดในทางใดทางหนึ่ง ทั้งเป็นผู้เสพหรือผู้ค้า ซึ่งความรุนแรงของปัญหาดังกล่าวนี้ถือว่าเข้าขั้นวิกฤตแล้ว และจะต้องมีการเร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าวนี้อย่างเร่งด่วนที่สุด
ทั้งนี้ นายพรเทพ ระบุว่า สาเหตุที่ทำให้ยาเสพติดยังคงมีการแพร่ระบาดอย่างหนักนั้น เนื่องมาจากความต้องการของนักเสพในประเทศยังคงมีสูงมาก โดยยาเสพติดที่ถูกลักลอบส่งเข้ามาแม้จะมีจำนวนมากเท่าไรก็ตาม หากเล็ดลอดเข้าไปสู่ท้องตลาดได้แล้วก็จะถูกซื้อไปจนหมด ทำให้มีการทะลักเข้ามาของยาเสพติดอย่างต่อเนื่องตามความต้องการบริโภคของนักเสพ ประกอบกับทางกลุ่มผู้ผลิตยาเสพติดในแหล่งผลิตนอกประเทศก็มีกำลังผลิตอย่างไม่จำกัดด้วย จึงปัญหาที่น่าหนักใจอย่างมากและทำให้เจ้าหน้าที่ต้องทำงานอย่างหนักในการสกัดกั้นป้องกันปราบปราม
ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 5 ยังเปิดเผยด้วยว่า จากข้อมูลการเฝ้าระวัง รวมทั้งเบาะแสการร้องเรียนของประชาชน ตลอดจนข้อมูลที่ได้รับรายงานจากหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง พบว่ามีข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติดเป็นจำนวนมาก ซึ่งเวลานี้กำลังทำการตรวจสอบข้อมูลอย่างละเอียดเพื่อให้เกิดความชัดเจน และมีการเฝ้าจับตาติดตามดูพฤติกรรมอย่างใกล้ชิด โดยหากพบมีการกระทำผิดก็จะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด ไม่มีข้อยกเว้น
ขณะเดียวกัน นายพรเทพ กล่าวว่า การทำงานของเจ้าหน้าที่ในการป้องกันปราบปรามและสกัดกั้นปัจจุบันยังมีปัญหาอุปสรรคและข้อจำกัดอยู่มาก ซึ่งอยากจะได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลมากกว่านี้ โดยเฉพาะในเรื่องอุปกรณ์เครื่องมือที่ทันสมัยสำหรับการนำมาใช้ทำงานในการสกัดกั้น เพราะทุกวันนี้การทำงานของเจ้าหน้าที่ต้องอาศัยกำลังคนและประสบการณ์เป็นหลัก ทำให้อาจจะยังไม่เกิดประสิทธิภาพเต็มที่ ดังนั้น หากมีอุปกรณ์เครื่องมือที่ทันสมัยมาใช้งาน โดยเฉพาะเครื่องเอ็กซ์เรย์ยาเสพติด น่าจะช่วยให้การทำงานเกิดประสิทธิภาพสูงขึ้น แม้อุปกรณ์ดังกล่าวอาจจะมีมูลค่าสูงก็ตาม
