เลย - ดีเอสไอแจงคดีโกงแชร์ล็อตเตอรี่คืบหน้าไปมาก ส่วนความเสียหายเฉพาะกลุ่มหัวหน้าสายมีมูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท เดินหน้าอายัดทรัพย์ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องแล้วทั้งทองคำ ที่ดิน เครื่องประดับหวังเฉลี่ยคืนให้ผู้เสียหายให้ได้มากที่สุด ทั้งยังค้านประกันตัว-ขอศาลฝากขัง”นิกกี้”กับ ผู้จัดการสหกรณ์ครูสามัญ รอบที่ 3
วันนี้( 15 ส.ค.) ที่ศาลากลางจังหวัดเลย พ.อ.ปิยะวัฒน์ กิ่งเกตุ ผู้บัญชาการสำนักคดีอาญาพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) แถลงความคืบหน้าคดีโกงแชร์ล็อตเตอรี่ในจังหวัดเลย โดยกล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 3 สัปดาห์ที่ตนและเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษเข้ามาดำเนินสืบสวน สอบสวนคดีนี้ มีความคืบหน้าไปอย่างน่าพอใจ ได้เชิญผู้บริหารสหกรณ์ออมทรัพย์ครูเลย และสหกรณ์ออมทรัพย์ครูสามัญศึกษา จ.เลย เข้าให้ข้อมูลอย่างต่อเนื่อง กว่า 16 ราย
นอกจากนี้ยังมีหัวหน้าสายที่เข้าให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่อีก 26-27 ราย จากทั้งหมดประมาณ 40 ราย รวมมูลค่าเสียหายในส่วนเฉพาะหัวหน้าสาย จำนวนกว่า 1,000 ล้านบาท ขณะนี้ได้สอบสวนหาพยานหลักฐานเพื่อหาผู้กระทำผิดเพิ่มเติม และอายัดทรัพย์สินต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดทั้งหมด ซึ่งส่วนใหญ่เป็นที่ดิน ทองคำ และเครื่องประดับ
หากพบว่ามีการยักย้ายถ่ายเทก็ถือว่ามีความผิดฐานฟอกเงินตามกฎหมาย ซึ่งทรัพย์สินเหล่านี้จะนำมาเฉลี่ยคืนให้ผู้เสียหายให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
พ.อ.ปิยะวัฒน์ กล่าวอีกว่าส่วนผู้ต้องหาที่ถูกควบคุมตัวไว้ในเรือนจำจังหวัดเลยสองรายคือ น.ส.กัลยาณี แก้วโวหาร หรือนิกกี้ ยี่ปั้วรายใหญ่ และนางสุฎาภรณ์ นครธรรม ผู้จัดการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูกรมสามัญศึกษา จ.เลย ขณะนี้ได้ครบกำหนดฝากขังรอบแรกแล้ว แต่ทางเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษจะเข้ายื่นคัดค้านการประกันตัว และขอให้ศาลฝากขังผู้ต้องหาทั้งสองคนต่อไปอีก เพราะเกรงว่าหากปล่อยตัวไปจะไปสร้างความเสียหายต่อการรวบรวมพยานหลักฐาน และอาจมีบางรายหลบหนีไปอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน
ซึ่งทราบว่ามีการไปสร้างบ้าน และซื้อรถยนต์อยู่ในประเทศนั้นด้วย หลังจากนี้ตนและเจ้าหน้าที่ก็จะเร่งสรุปสำนวนส่งมอบให้อัยการสั่งฟ้องให้เร็วที่สุด ก่อนครบกำหนดฝากขังรอบสุดท้าย ยืนยันว่าผู้ต้องหาจะไม่ได้มีเพียงแค่สองคนนี้แน่นนอน.