พ่อค้ากัมพูชา แห่ซื้อหมูจากเวียดนาม หลังหมูไทยราคาพุ่งไม่หยุด

ศูนย์ข่าวศรีราชา - ผู้ค้าหมูบริเวณแนวชายแดนกัมพูชา โอดราคาหมูแพงทำยอดขายต่อวันเหลือเพียง 10 ตัว ขณะที่ราคาหมูเป็นที่พุ่งสูงถึงกิโลกรัมละ 81-83 บาท ทำคู่ค้ากัมพูชา หันซื้อหมูจากประเทศเวียดนามที่มีราคาขายถูกกว่ากิโลกรัมละ 5-10 บาทแทน

นายทวี อินทรเกสร พ่อค้าขายหมูชำแหละและไก่ บริเวณตลาดชายแดนบ้านหาดเล็ก กล่าวถึงผลกระทบจากราคาหมูที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องว่า ในระยะ 1 เดือนที่ผ่านมาราคาหมูเป็นหน้าฟาร์มที่พุ่งสูงถึงกิโลกรัมละกว่า 70 กว่าบาท ทำให้เมื่อนำมาขายปลีกราคาขายจะอยู่ที่กิโลกรัมละ 130-140 บาท โดยหมูเนื้อแดงขณะนี้อยู่ที่ กิโลกรัมละ 140 บาท แต่ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาราคาหมูหน้าฟาร์มกลับปรับราคาขึ้นถึง 81 บาทต่อกิโลกรัม ผลที่ตามมาก็คือผู้บริโภค ต้องรับภาระราคาเนื้อหมูที่แพงขึ้น

“ผลที่ตามมานอกจากค่าแรงจะสูงขึ้นตามต้นทุนหมู ที่ผู้ค้าใหญ่อย่างซีพี ซึ่งเป็นผู้ค้าทั้งเนื้อหมูและเนื้อไก่ปรับราคาขึ้นแล้ว ราคาขายปลีกก็ต้องปรับตาม ทำให้ขณะนี้พ่อค้า- แม่ค้าจากกัมพูชาซึ่งเคยซื้อเนื้อหมูจากประเทศไทยได้หันไปซื้อหมูชำแหละราคาถูกจากประเทศเวียดนามแทน ทั้งนี้แม้หมูจากประเทศเวียดนามจะตัวเล็กและคุณภาพเนื้อสู้เนื้อหมูจากไทยไม่ได้ แต่ราคาขายที่ถูกกว่ากันถึงกิโลกรัมละ 5-10 บาท ก็ทำให้ผู้บริโภคก็หันไปซื้อหมูจากประเทศเวียดนามมากขึ้น ทำให้พ่อค้าเนื้อหมูในประเทศไทยโดยเฉพาะบริเวณแนวชายแดนที่เคยขายได้วันละ 10-15 ตัว ก็ลดเหลือเพียง 5-10 ตัวต่อวัน”
นายทวี ยังกล่าวอีกว่า สิ่งที่รัฐบาลควรจะเร่งแก้ไขโดยด่วนคือการห้ามส่งออกหมูไปยังประเทศกัมพูชา หลังการส่งออกหมูด้านอำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ในขณะนี้มีมากถึง 2,000 -3,000 ตัวต่อวันหรือมากกว่า ทำให้หมูของไทยไม่พอบริโภค ซึ่งขณะนี้ในพื้นที่จังหวัดตราดได้มีการสั่งห้ามส่งออกหมูไปยังประเทศกัมพูชาแล้ว และปัจจุบันผู้บริโภคทั้งชาวไทยและชาวกัมพูชา ได้หันมาซื้อไก่เพื่อการบริโภคมากขึ้นเนื่องจากมีราคาถูกลง โดยขณะนี้ราคาไก่หน้าฟาร์มอยู่ที่ 44 บาทต่อกิโลกรัม ส่วนราคาขายปลีกอยู่ที่ 62 บาทต่อกิโลกรัม ราคาขายส่ง 58 บาทต่อกิโลกรัม