เลย -อนาถ! พบครอบครัวยากจนเมืองเลย พ่อขืนใจลูกเลี้ยงพิการทางสมอง จนต้องติดคุก ทิ้งภรรยาหาเลี้ยงลูกตั้ง 3 คน ซ้ำผู้เป็นแม่เป็นโรคไตเรื้อรังทำงานรับจ้างไม่ไหว ต้องให้ลูกชายออกจากโรงเรียนมาหางานรับจ้างช่วยแม่ ขณะที่พ่อเลี้ยงที่ติดคุกอาสาเข้าร่วมโครงการสมานฉันท์เรือนจำเลยเพื่อจะได้หวนกลับมาเป็นเสาหลักให้ครอบครัวอีกครั้ง วอนผู้มีจิตศรัทธาบริจาคช่วยเหลือครอบครัว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามที่เรือนจำจังหวัดเลย ได้จัดทำโครงการราชทัณฑ์เชิงสมานฉันท์ระหว่างผู้ต้องขังกับครอบครัวผู้เสียหายโดย มีวัตถุประสงค์ให้ผู้ต้องขัง ที่มีความบาดหมาง หรือเคยกระทำผิดต่อครอบครัวผู้เสียหาย ที่สำนึกผิดแล้วได้ขอขมาต่อบุคคลในครอบครัว ถึงสิ่งที่ตนกระทำผิดลงไป เนื่องจากเมื่อผู้ต้องขังพ้นโทษเขาต้องกลับไปอยู่กับครอบครัว
แต่หากครอบครัวไม่ยอมรับให้กลับไปอยู่ร่วมครอบครัวเหมือนเดิมโอกาสที่ผู้ต้องขังจะทำผิดซ้ำก็อาจจะมีสูง เพราะครอบครัวเป็นสถาบันที่จะสร้างความมั่งคง สร้างกำลังใจให้แก่สมาชิกในครอบครัวได้
นช.สีลา นานวล เป็นผู้ต้องขังคดีข่มขืนกระทำชำเราบุตรตนเอง ซึ่งทราบภายหลังว่าเป็นลูกติดภรรยา มาสมัครเข้าร่วมโครงการ โดย นช.สีลา เล่าให้ฟังว่า เมื่อตนเองมาต้องโทษในเรือนจำก็รู้สึกผิดอยากจะขอโทษครอบครัวที่ได้กระทำผิดต่อภรรยาและบุตร เรือนจำจังหวัดเลย จึงได้แต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อพิจารณาว่าสมควรจะเข้าร่วมโครงการหรือไม่ คณะกรรมการก็เห็นชอบเพราะท้ายที่สุดแล้ว นช.สีลา ต้องกลับไปอยู่กับครอบครัว หรือหากไม่อยู่ก็จะต้องไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ น่าจะเป็นการยากเพราะอายุมากแล้ว และมีฐานะยากจน เมื่อมีผู้ต้องขังสมัครเข้าร่วมโครงการ เรือนจำจึงต้องมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ออกไปเยี่ยมครอบครัวผู้ต้องขัง
เจ้าหน้าที่เรือนจำจังหวัดเลย ได้ออกเยี่ยมครอบครัว พบ นางสุรินทร์ นานวล ซึ่งเป็นภรรยา อายุ 39 ปี ที่บ้านสาระแพ ต.นาแขม อ.เมือง จ.เลย มีอาชีพรับจ้างทั่วไป ถางหญ้า ทำสวน ได้เล่าให้ฟังว่า ตนเองมีลูกติดสามีมา 1 คน คือ นางสาวเอมอร อาจศิริ ซึ่งสติไม่สมประกอบ ตอนนั้นเอมอรอายุประมาณ 5 ขวบ ได้มาอยู่กันกับ นายสีลา นานวล สามีคนปัจจุบัน (ซึ่งติดคุกอยู่ที่เรือนจำ)
ต่อมา นางสุรินทร์ ก็มีบุตรชายกับ นายลีลา ชื่อ เด็กชายอมร นานวล อายุ 13 ปี และ มีเด็กหญิงศิริพร นานวล เมื่อประมาณ 2 ปีที่ผ่านมา ขณะที่นางสาวเอมอรเริ่มเป็นสาว อายุ 16 ปี มีรูปร่างมีสัดส่วน เป็นสาวเต็มตัว และมีประจำเดือนและไม่ได้เรียนหนังสือเนื่องจากพิการทางสมอง ตนเองสังเกตว่าท้องของลูกสาวโตขึ้นเรื่อยๆ จนผิดปกติเหมือนคนตั้งครรภ์จึงนำไปตรวจปรากฏว่าตั้งครรภ์จริง
เมื่อครบกำหนดคลอดเด็ก ทางบ้านก็ไม่สามารถนำไปโรงพยาบาลทัน เด็ก ก็ได้ คลอดเองที่หน้าบ้าน แต่ไม่มีใครยอมรับเป็นพ่อเด็ก
นางสุรินทร์ เล่าว่า ตนก็เริ่มสงสัยว่าใช่สามีเป็นคนกระทำหรือไม่ แต่สามีไม่ยอมรับ ปฏิเสธตลอดจนกระทั่งเด็กที่คลอดออกมาเป็นผู้ชายร่างสมบูรณ์สติสมประกอบทุกอย่าง ตนก็ตั้งชื่อว่า เด็กชายทินวัต นานวล หลังจากนั้นแพทย์จึงนำไปตรวจ ดีเอ็นเอ ปรากฏว่า เป็นสายพันธุกรรมเดียวกัน ดังนั้น นายสีลา จึงถูกจับกุมและต้องโทษที่เรือนจำหลังจากที่นายสีลาต้องโทษ ตนก็ขาดกำลังหลักในการหาเลี้ยงครอบครัวแต่ตนเองก็ป่วยเป็นโรคไตเรื้อรังปวดหลังจนปัจจุบันหลังงองุ้ม แต่ก็ต้องทนรับจ้างเพื่อนบ้านเพื่อนำเงินมาเลี้ยงลูกๆ อีก 4 ชีวิต
นางสุรินทร์ กล่าวว่า หาก นายสีลา สำนึกผิดก็อยากให้พ้นโทษเร็วๆ จะได้มาหาเลี้ยงลูกและครอบครัว ตอนนี้ต้องให้ลูกชายคนโตคือ เด็กชายอมร ออกจากโรงเรียน มาช่วยทำงาน หากปีหน้ายังไม่พ้นโทษก็จำเป็นต้องให้เด็กหญิงศิริพร อีกไม่นานก็จะต้องออกโรงเรียนมาช่วยดูแลน้องเช่นกัน เพราะตนไม่สามารถหาเลี้ยงลูกๆและหลานที่เพิ่งคลอด ซ้ำแม่เด็กคือ นางสาวเอมอรก็พิการทางสมอง
หากผู้มีจิตศรัทธาต้องการ ช่วยเหลือ กรุณา ติดต่อที่ เรือนจำจังหวัดเลย 042-811491 หรือ081-8716699 คุณพิมพ์บุญ พันสวัสดิวง หัวน้าผ่ายบริหาร เรือนจำจังหวัดเลย