xs
xsm
sm
md
lg

น้ำป่าจากชายแดนทะลัก “บ้านป่าละอูหัวหิน” 6 หมู่บ้านชาวบ้าน-นักเรียนเดือดร้อนหนัก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ประจวบคีรีขันธ์ - ชาวบ้านป่าละอู ตำบลห้วยสัตว์ใหญ่ และตำบลบึงนคร หัวหิน ประจวบคีรีขันธ์ กว่า 1,500 คน ซึ่งอยู่ในจุดบริเวณแม่น้ำปราณไหลผ่านในพื้นที่แถบภูเขาที่ห่างไกลความเจริญได้รับความเดือดร้อน หลังเกิดฝนตกหนักในเทือกเขาตะนาวศรี หลายวันติดต่อกันส่งผลเกิดน้ำป่าไหลทะลักจากต้นแม่น้ำเพชรบุรีจุดที่เฮลิคอปเตอร์ตกในป่าแก่งกระจาน น้ำป่าทะลักไหลลงแม่น้ำปราณบุรี กลางดึก ทำให้เส้นทางการคมนาคมถูกตัดขาด ชาวบ้านเด็กนักเรียนต้องอาศัยเรือท้องแบนชักรอกข้ามแม่น้ำเข้าออกหมู่บ้าน

วันนี้ (3 ส.ค.) นายสมชาย บำรุงทรัพย์ นายอำเภอหัวหิน, นายเอกธนา ลิ้มเสรี นายกองค์การบริหารส่วนตำบลห้วยสัตว์ใหญ่ และปลัดอำเภอหัวหิน พร้อมเจ้าหน้าที่สถานีกาชาดหัวหินเฉลิมพระเกียรติ กิ่งกาชาดอำเภอหัวหิน เจ้าหน้าที่ชุดก็ชีพกู้ภัย อบต.ห้วยสัตว์ใหญ่ ต้องเร่งนำเครื่องอุปโภค บริโภค และยาสามัญประจำบ้านกว่า 1,500 ชุด เดินทางเข้าพื้นที่บ้านป่าละอู ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เป็นการเร่งด่วน ซึ่งชาวบ้าน 3 หมู่บ้านของตำบลห้วยสัตว์ใหญ่ หมู่ 4 บ้านห้วยผึ้ง กว่า 30 ครอบครัว 150 คน , หมู่ 3 บ้านป่าละอู กว่า 62 ครอบครัว 150 คน, หมู่ 11 บ้านปากคลอง กว่า 10 ครัวเรือน 50 คนได้รับความเดือนร้อนอย่างหนัก

เนื่องจากสะพานข้ามแม่น้ำปราณ หลายจุดถูกน้ำป่าจากเทือกเขาตะนาวศรีชายแดนไทย-พม่า จากป่าแก่งกระจานต้นแม่น้ำเพชรแถบจุดที่เฮลิคอปเตอร์ทหารตกไหลทะลักลงสู่แม่น้ำปราณบุรี ไหลผ่านพื้นที่ป่าละอูกลางดึก จนทำให้สะพานหลายจุดได้รับความเสียหาย จนชาวบ้านไม่สามารถเดินทางเข้าออกหมู่บ้านได้ โดยเฉพาะเด็กนักเรียน ทำให้อำเภอหัวหิน อบต.ห้วยสัตว์ใหญ่ กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ของตำบลห้วยสัตว์ใหญ่ ต้องนำเรือท้องแบนของศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 4 ประจวบคีรีขันธ์ มาใช้เชือกผูกติดรอกใช้วิธีสาวเชือกแทนการใช้เครื่องยนต์เนื่องจากกระแสน้ำเชี่ยวกราดมาก เพื่อรับส่งชาวบ้าน และเด็กนักเรียนทั้งช่วงเช้าและเย็น

ด้าน นายธานี สิงหเสณี ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 4 บ้านห้วยผึ้ง กล่าวว่า ช่วงนี้เกิดฝนตกหนักบริเวณชายแดนไทย-พม่า มาหลายวัน ทำให้เกิดน้ำป่าไหลทะลักเป็นสีโคลนขุ่นมาจากต้นน้ำเพชรบุรี จนมาถึงแม่น้ำปราณบุรี กลางดึกอย่างรุนแรง แต่โชคดีบ้านเรือนและชาวบ้านปลอดภัย เนื่องจากได้รับการแจ้งเตือนจากหอกระจายข่าวของ อบต.ห้วยสัตว์ใหญ่ ตอนนี้ถึงแม้ระดับน้ำจะเริ่มลดลงบ้างแต่ก็ยังไม่ประมาทยังคงจัดเวรยามคอยดูระดับน้ำในแม่น้ำปราณในหลายจุดของหมู่บ้าน เพราะหากมีน้ำเป็นสีโคลนขุ่นอีกก็ต้องแจ้งเตือนให้ชาวบ้านรับทราบเพื่อความปลอดภัย

ปัญหาของหมู่บ้านห้วยผึ้ง ชาวบ้านเกือบ 200 คน ซึ่งประกอบอาชีพทำการเกษตรทำไร่สับปะรดและพืชสวน ไม่สามารถนำผลผลิตออกไปขายในเมือง เด็กนักเรียนก็เข้าออกลำบาก เพราะสะพานปูนที่ข้ามแม่น้ำปราณ พังถูกน้ำป่าถล่มตั้งแต่คราวเกิดพายุลินดา เมื่อปี 2546 จนถึงปัจจุบันนี้ไม่มีหน่วยงานของภาครัฐที่เกี่ยวข้องเข้ามาจัดสร้างให้ใหม่

ทั้งนี้ เคยทำเรื่องเสนอ และแจ้งหน่วยงานจนชาวบ้านเกิดความเบื่อหน่าย และมาลงขันสร้างสะพานกันเองเพื่อทุกคนเด็กจะได้เข้าออกในหมู่บ้านได้ แต่วันนี้ก็มาพังหมดจนต้องใช้เรือท้องแบนชักรอกเข้าออก อยากฝากถึงรัฐบาลใหม่ช่วยดำเนินการก่อสร้างสะพานใหม่ให้ชาวบ้านหมู่ผึ้งด้วย “ผมสงสารลูกหลานที่เข้าออกด้วยความยากลำบากในช่วงเกิดน้ำป่า”

นายสมชาย บำรุงทรัพย์ นายอำเภอหัวหิน กล่าวว่า หลังจากสำรวจพื้นที่ที่ถูกน้ำป่าไหลทะลักในเบื้องต้นมีชาวบ้านในตำบลห้วยสัตว์ใหญ่ 3 หมู่บ้าน และในตำบลบึงนครอีก 2 หมู่บ้านคือที่หมู่ 11 บ้านแพรกตระคร้อ หมู่ 5 บ้านบึงนคร หมู่ 6 บ้านท่าไม้ลาย รวม 2 ตำบลกว่า 1,500 คนได้รับความเดือดร้อนเนื่องจากไม่สามารถออกมาหาซื้ออาหาร

ส่วนเด็กนักเรียนเข้าออกลำบาก เนื่องจากเส้นทางคมนาคมส่วนใหญ่เป็นทางไหลผ่านของแม่น้ำปราณบุรี เมื่อเกิดน้ำป่าทำให้ไหลทะลักและท่วมสูงบางจุดทำให้สะพานขาด ชาวบ้านจึงไม่สามารถสัญจรเข้าออกได้ จึงต้องใช้วิธีนำถุงยังชีพมาให้ชาวบ้านตามจุดต่างๆ อย่างไรก็ตามเบื้อต้นให้ทางองค์การบริหารส่วนตำบลห้วยสัตว์ใหญ่ เร่งจัดหาเสื้อชูชีพมาไว้สำหรับเด็กนักเรียน และชาวบ้าน ที่ต้องขึ้นเรือท้องแบนดึงรอก เนื่องจากเป็นห่วงในความปลอดภัย

รวมไปถึงบางจุด ทั้งกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ในพื้นที่ พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดกู้ชีพกู้ภัย อบต.ห้วยสัตว์ใหญ่ เร่งระดมจัดสร้างสะพานไม้ไผ่ เพื่อให้ชาวบ้านสัญจรไปมาเป็นการชั่วคราวแล้วในเบื้องต้นที่หมู่ 3 บ้านป่าละอู ขณะนี้ยังไม่มีรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บแต่อย่างใด ซึ่งในช่วงเย็นวันนี้ จะระดมเครื่องอุปโภคบริโภค ยาสามัญประจำบ้าน เข้าไปช่วยเหลือชาวบ้านที่ประสบอุทกภัยน้ำท่วมต่อในตำบลบึงนคร เนื่องจากเส้นทางการคมนาคมถูกตัดขาดเหมือนกัน

อย่างไรก็ตาม ปัญหาสะพานปูนที่ขาดมานานเรื่องนี้ คาดว่า ต้องใช้งบประมาณหลายสิบล้านบาท ซึ่งจะแจ้งให้ทางจังหวัด และส่วนกลางที่รับผิดชอบให้ช่วยจัดหางบประมาณมาสร้างสะพานให้ชาวบ้านห้วยผึ้งต่อไป ส่วนสะพานของชาวบ้านขณะนี้ก็ได้งบประมาณของทางจังหวัดประจวบฯ มาดำเนินการปรับปรุงให้แล้ว

ขณะเดียวกัน นายเอกธนา ลิ้มเสรี นายก อบต.ห้วยสัตว์ใหญ่ กล่าวว่าภายมีการพยากรณ์อากาศของกรมอุตินิยมวิทยา ว่า จะมีพายุและฝนตกในช่วงระยะนี้ ทาง อบต.ห้วยสัตว์ใหญ่ ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยต่อดินโคลนถล่ม และยังอยู่ในแนวที่แม่น้ำปราณบุรี ไหลผ่านทั้งตำบลซึ่งที่ผ่านมาเคยมีประสบการณ์น้ำท่วมน้ำป่าไหลทะลักมาแล้ว และมีการฝึกกู้ชีพกู้ภัย

ดังนั้น จึงให้เจ้าหน้าที่ชุดก็ชีพกู้ภัย ของ อบต.ห้วยสัตว์ใหญ่ ที่ฝึกมาร่วมกับชาวบ้าน กำนัน- ผู้ใหญ่บ้าน ในพื้นที่ จัดเวรยามคอยตรวจเช็คดูระดับน้ำในแม่น้ำปราณบุรี สังเกตความเปลี่ยนแปลงของสีน้ำ ยิ่งพบน้ำขึ้นผิดปกติและน้ำในแม่น้ำเริ่มเปลี่ยนสีเป็นโคลน ก็จะใช้วิธีรถจักรยานยนต์แจ้งผู้นำชุมชนเปิดหวูด แจ้งเตือนทางหอกระจายข่าว เพื่อให้ชาวบ้านเตรียมความพร้อมขนข้าวของขึ้นที่สูง ทำให้ครั้งนี้น้ำป่าไหลทะลักเข้ามาจึงไม่มีชาวบ้านบาดเจ็บหรือเสียชีวิตแต่อย่างใด

เบื้องต้นอยู่ระหว่างสำรวจความเสียหาย ทั้งนี้ ได้รับแจ้งจาก จนท.น้ำตกป่าละอู ว่าขณะนี้น้ำป่าไหลทะลักเข้ามาจึงประกาศงดห้ามนักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวในน้ำตกป่าละอู จนกว่าระดับน้ำจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ซึ่งทาง อบต.ห้วยสัตว์ใหญ่ ก็มีเครือข่ายก็แจ้งไปยัง สื่อมวลชนที่อยู่ในตัวอำเภอ ททท.และสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวให้ได้ทราบทราบ สิ่งเหล่านี้เป็นการเตือนภัยเป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับพื้นที่ตำบลห้วยสัตว์ใหญ่

นายสมชาย บำรุงทรัพย์ นายอำเภอหัวหิน,นายเอกธนา ลิ้มเสรี นายก อบต.ห้วยสัตว์ใหญ่ และ จนท.สถานีกาชาดหัวหินเฉลิมพระเกียรติ นั่งเรือท้องแบบชักรอกข้ามแม่น้ำปราณบุรีที่น้ำป่าไหลทะลักเชี่ยวกราด จนทำให้สะพานขาดที่บ้านห้วยผึ้ง ตรวจสอบดูความแข็งแรงของรอกเพื่อให้ชาวบ้านและเด็กนักเรียนเข้าออกแทนสะพานในช่วงนี้









กำลังโหลดความคิดเห็น