ฉะเชิงเทรา - แม่เฒ่าลูก 11 แปดริ้ว คว้ารางวัลแม่ดีเด่นแห่งชาติ สาขาความมีมานะอดทน หลังเลี้ยงลูกทั้ง 11 คน ได้ดีประสบความสำเร็จอย่างถ้วนหน้า เผย สอนลูกให้รู้จักสู้ชีวิต มีความมานะอดทน เพื่อก้าวสู้ความสำเร็จในวันข้างหน้า
วันนี้ (2 ส.ค.) เวลา 15.00 น. นายกิตติ ทรัพย์วิสุทธิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา กล่าวเปิดเผยว่า ในปีนี้ คณะกรรมการพิจารณาได้คัดเลือก แม่เฒ่าวัย 88 ปี ชาว อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา ให้ได้รับรางวัลแม่ดีเด่นแห่งชาติ ประจำปี 2554 ประเภทแม่ผู้มีความมานะอดทน ขยันหมั่นเพียร จากสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในบรมราชูปถัมภ์ คือ นางกิมลุ้ย แซ่ตั๊น (ไทยดำรงค์) อยู่บ้านเลขที่ 57/1 ม.1 ต.บางสวน อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นผู้ที่มีความพยายามมุมานะ เลี้ยงลูกทั้ง 11 คน จนประสบความสำเร็จในชีวิตกันได้ อย่างครบถ้วนทุกคน
โดยบุตรหลายคนนั้น ประสบความสำเร็จในการประกอบอาชีพการงานอย่างสูงสุด จนเติบโตในด้านการประกอบอาชีพ และสามารถเป็นเจ้าของกิจการในธุรกิจขนาดใหญ่ ที่มีมูลค่าหลายร้อยล้านบาท โดยเป็นเจ้าของบริษัททั้งขนาดใหญ่ และขนาดกลางหลายบริษัท ส่วนอีกหลายรายยังเป็นเจ้าของกิจการส่วนตัวอยู่ในพื้นที่
นอกจากนี้ ยังมีบางรายที่ยังคงยึดอาชีพเกษตรกรรม ซึ่งเป็นอาชีพหลักดั้งเดิมของครอบครัว แต่ก็ไม่ได้มีฐานะยากลำบากแต่อย่างใด และยังสามารถส่งเสียลูกๆ ที่อยู่ในชั้นหลานจนเรียนจบการศึกษาในขั้นสูงสุด และมีอาชีพการงานที่มั่นคงทั้งในสายงานราชการ รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชน
สำหรับพิธีประทานโล่รางวัล จะมีขึ้นในงานวันแม่แห่งชาติ ในวันศุกร์ที่ 12 ส.ค.54 ที่อาคารใหม่ สวนอัมพร โดยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ เสด็จแทนพระองค์ ทรงเปิดงานวันแม่แห่งชาติ พร้อมประทานโล่เกียรติคุณ และพระบรมฉายาลักษณ์พระราชทาน แก่ผู้มีอุปการคุณ และผู้ได้รับรางวัลดีเด่น สาขาต่างๆ ด้วย
ด้าน นางกิมลุ้ย กล่าวว่า ที่ผ่านมา ได้สอนลูกทุกๆ คน ให้รู้จักสู้ชีวิต มีความมุมานะอดทน เพื่อที่จะก้าวเดินไปสู่ความสำเร็จในวันข้างหน้า และมักเน้นย้ำกับลูกๆ อยู่เสมอว่า พ่อแม่นั้นสามารถเลี้ยงให้ลุกโตได้ในวัยเด็ก แต่เมื่อโตขึ้นแล้วก็ต้องรู้จักทำมาหากินกันเอง
ขณะเดียวกัน ก็มักจะสอนลูกอยู่เสมอว่าให้มีเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน อย่าดูถูกคนอื่นที่ด้อยกว่า ให้รู้จักเผื่อแผ่ และหมั่นทำบุญทำกุศล และให้ทาน เพื่อเสริมสร้างบารมีชีวิตให้กับตนเอง
ในขณะที่พวกเขายังเด็ก เราก็ต้องทนลำบาก ด้วยการปลูกผัก ปลูกหมาก และมะพร้าว เก็บใส่เรือพายไปส่งขายยังตลาดสด ในเขตตัวเมืองฉะเชิงเทราที่อยู่ห่างไกลหลายสิบ กม.เป็นประจำทุกวัน โดยต้องตื่นนอนกันตั้งแต่เช้าตู่ ช่วงระหว่างตี 4 ถึงตี 5 ช่วยกันกับพ่อบ้าน เพื่อออกไปเก็บพืชผักในสวน ไปส่งขายให้ทันเวลาตลาดเช้า ในหารายได้เลี้ยงลูกๆ จนเติบโตกันขึ้นมาถึงวันนี้