ลำปาง - ชาวบ้านกว่า 60 คน โร่เข้าร้องตำรวจ หลังถูกอดีต อสม.ภายในหมู่บ้านหลอกนำเอกสารไปซื้อจักรยานยนต์รวม 61 คันมูลค่าเกือบ 5 ล้านบาท และเครื่องใช้ไฟฟ้าอีกเพียบ แต่ไม่ยอมส่ง จนถูกตามทวงหนี้ เรื่องถึงแดง
นายทวี เกี๋ยงแก้ว อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 92 ม.1 บ้านหัวฝาย ต.บ้านดง อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง ซึ่งเป็นผู้พิการ พร้อมด้วยเพื่อนบ้านอีก 4 คน ได้ทยอยเข้าให้ปากคำต่อ พ.ต.ท.ชุมพล จันทร์ศักดิ์ ร้อยเวร สภ.แม่เมาะ ตลอดบ่ายวานนี้ (26 ก.ค.) หลังถูกพนักงานของร้านรัตนโกสินทร์พานิช และร้านกิตติศักดิ์พานิช ตามทวงหนี้ค้างซื้อรถจักรยานยนต์ ซึ่งเจ้าตัวไม่เคยซื้อ และเป็นผู้พิการมีรายได้เพียงเดือนละ 500 บาทจากเงินเบี้ยยังชีพเท่านั้น
เช่นเดียวกับเพื่อนบ้านที่มาให้ปากคำต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจในวันเดียวกัน เพราะกลัวความผิดหากทางร้านฟ้องร้องโดยที่พวกเขาไม่มีส่วนรู้เห็นใดๆ
พ.ต.ท.ชุมพลกล่าวว่า ได้รับแจ้งจากชาวบ้านในตำบลบ้านดง รวม 4 หมู่บ้านประกอบด้วย บ้านหมู่1 หัวฝาย บ้านหมู่ 2 บ้านดง บ้านหมู่ 3 ท่าสี และบ้านหมู่ 8 หัวฝายหล่ายทุ่ง รวม 45 คน ซึ่งยังไม่รวมที่อื่นๆ คาดจะมีกว่า 60 รายว่า ถูกนางสุวรรณา วงศ์แก้วมูล อายุ 34 ปี อยู่บ้านหมู่ 1 หัวฝาย ซึ่งเป็นอดีต อสม.ประจำหมู่บ้าน ไปซื้อรถจักรยายนต์ยี่ฮ้อฮอนด้าเวฟ 110 รุ่นใหม่ รวม 61 คัน คันละ 72,000 บาท รวมมูลค่าทั้งสิ้น 4,392,000 บาท โดยวางเงินดาวน์ 3,900 บาท และต้องผ่อนเดือนละ 1,820 บาท แต่ขาดส่ง 2 เดือน ทางร้านค้าผู้จำหน่าย จึงให้พนักงานมาตามเก็บเงิน ทั้งนี้ ยังไม่รวมเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ ที่นางสุวรรณานำเอกสารไปซื้ออีกจำนวนหนึ่งด้วย
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญผู้เสียหายทยอยมาให้ปากคำวันละ 5 ราย จนกว่าจะครบ พร้อมแบ่งกลุ่มผู้เสียหายไว้ 4 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มที่ถูกหลอกเอาเอกสารส่วนตัวไปทำสัญญาเช่าซื้อจักรยานยนต์ หรือเครื่องใช้ไฟฟ้า 2.กลุ่มที่ถูกลักเอกสารส่วนตัว โดยอาศัยความสัมพันธ์แล้วนำไปทำนิติกรรม 3.กลุ่มเจ้าตัวมอบเอกสารแล้วลงลายมือชื่อกำกับรับรองถูกต้อง โดยผู้นำไปปิดบังข้อมูลว่าจะนำไปค้ำประกันสินค้า แต่กลับนำไปเป็นผู้เช่าซื้อ และ 4.กลุ่มเจ้าตัวยินยอมให้เอกสารไปทำนิติกรรมโดยได้รับค่าตอบแทน
หลังจากสอบปากคำทั้งหมดจนครบก็จะได้เชิญทางร้านค้าและผู้ที่ถูกนำเอกสารไปใช้ซื้อสินค้ามาพูดคุยกันอีกครั้ง ก่อนที่จะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อผู้ที่กระทำผิดต่อไป
