หนองคาย - ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดหนองคาย ประสานความร่วมมือหน่วยงานในกระทรวงยุติธรรมและทำความเข้าใจถึงเจตนารมณ์ของพระราชบัญญัติศาลฉบับใหม่ที่มีผลบังคับใช้แทนฉบับเก่า
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 26 ก.ค. 54 ที่ห้องประชุมทับทิม โรงแรมแกรนด์พาราไดซ์ อ.เมืองหนองคาย นายไพศิษฐ์ รักกิจศิริกุล ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดหนองคาย เป็นประธานเปิดโครงการส่งเสริมการประสานงานความร่วมมือด้านการยุติธรรมของหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรม
ทั้งนี้ เนื่องจากได้มีการประกาศใช้พระราชบัญญัติศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ.2553 ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 22 พ.ค.2554 เป็นต้นไป และมีผลให้พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลเยาวชนและครอบครัว และวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ.2534 ถูกยกเลิกไป ซึ่งพระราชบัญญัติฉบับใหม่ได้มีการปรับปรุงบทบัญญัติกฎหมายและด้านการปฏิบัติงานในกระบวนการยุติธรรมสำหรับเด็กและเยาวชนในวงกว้าง
ดังนั้น ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดหนองคายจึงจัดโครงการนี้ขึ้นเพื่อสร้างความเข้าใจเจตนารมณ์ของกฎหมาย ร่วมแก้ไขขัดข้องในการดำเนินการระหว่างหน่วยงาน นำมาสู่ความร่วมมือด้านการยุติธรรมแก่ศาลยุติธรรมและพัฒนากระบวนการยุติธรรมอย่างเป็นระบบ ก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนผู้รับบริการ โดยมีหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรมร่วมโครงการ รวม 60 คน.
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 26 ก.ค. 54 ที่ห้องประชุมทับทิม โรงแรมแกรนด์พาราไดซ์ อ.เมืองหนองคาย นายไพศิษฐ์ รักกิจศิริกุล ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดหนองคาย เป็นประธานเปิดโครงการส่งเสริมการประสานงานความร่วมมือด้านการยุติธรรมของหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรม
ทั้งนี้ เนื่องจากได้มีการประกาศใช้พระราชบัญญัติศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ.2553 ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 22 พ.ค.2554 เป็นต้นไป และมีผลให้พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลเยาวชนและครอบครัว และวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ.2534 ถูกยกเลิกไป ซึ่งพระราชบัญญัติฉบับใหม่ได้มีการปรับปรุงบทบัญญัติกฎหมายและด้านการปฏิบัติงานในกระบวนการยุติธรรมสำหรับเด็กและเยาวชนในวงกว้าง
ดังนั้น ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดหนองคายจึงจัดโครงการนี้ขึ้นเพื่อสร้างความเข้าใจเจตนารมณ์ของกฎหมาย ร่วมแก้ไขขัดข้องในการดำเนินการระหว่างหน่วยงาน นำมาสู่ความร่วมมือด้านการยุติธรรมแก่ศาลยุติธรรมและพัฒนากระบวนการยุติธรรมอย่างเป็นระบบ ก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนผู้รับบริการ โดยมีหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรมร่วมโครงการ รวม 60 คน.
