จันทบุรี - สถานการณ์ไข้เลือดออกเมืองจันท์พุ่ง พบระยะห่าง 3 เดือนมีผู้ป่วยเพิ่มถึง 300 คน ขณะที่สาธารณสุขจันทบุรีเตือน 4 อำเภอ ที่ระบาดหนักเร่งควบคุม ขอความร่วมมือจากประชาชนเข้มข้นมาตรการ 5 ป.
นายแพทย์กฤษณ์ ปาลสุทธิ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดจันทบุรี เผยว่า ขณะนี้สถานการณ์โรคไข้เลือดออกของจังหวัดจันทบุรี ตั้งแต่ต้นปีถึงวันที่ 1 มกราคม - 20 กรกฎาคม 2554 มีผู้ป่วยแล้ว 449 ราย อัตราป่วย 88.25 ต่อแสนประชากร ยังไม่พบผู้เสียชีวิต อัตราป่วยสูงสุด ใน 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมือง อำเภอโป่งน้ำร้อน อำเภอสอยดาว และอำเภอท่าใหม่
จากสถิติครั้งที่ผ่านมาตั้งแต่ต้นปีนี้ จนถึงวันที่ 20 พฤษภาคม 2554 มีผู้ป่วยเพียง 148 ราย ซึ่งจากตัวเลขพบว่าระยะเวลาห่างเพียง 3 เดือน จังหวัดจันทบุรีมีผู้ป่วยไข้เลือดออกเพิ่มขึ้นถึง 301 ราย โดยเฉพาะในเด็กเล็กและวัยรุ่น ซึ่งแพทย์เตือนช่วงนี้ถ้ามีไข้สูงเกิน 2 วันอย่าซื้อยากินเอง ให้รีบไปหาหมอ ขอความร่วมมือประชาชนยึดหลัก 5 ป. ปิด-เปลี่ยน-ปล่อย-ปรับปรุง-ปฏิบัติ อย่างต่อเนื่อง
นายแพทย์กฤษณ์กล่าวอีกว่า อาการที่สำคัญจะมีไข้สูงประมาณ 3-4 วัน อาจมีอาการปวดท้อง อาเจียน ช็อคและเสียชีวิตในที่สุด จึงขอฝากเตือนประชาชนว่าในฤดูการระบาดของโรคไข้เลือดออก หากมีไข้สูงเกินกว่า 2 วัน ขอให้นึกถึงโรคไข้เลือดออกและรีบไปพบแพทย์โดยเร็ว
ส่วนการทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายเป็นมาตรการที่ดีที่สุดและได้ผลที่สุด เพราะเป็นการกำจัดที่แหล่งต้นตอของโรคโดยตรง ยึดหลัก 5 ป. ปิดฝาภาชนะ, เปลี่ยนน้ำในภาชนะ, ปล่อยปลาหางนกยูง, ปรับปรุงสิ่งแวดล้อมให้สะอาด, ปฏิบัติเป็นนิสัยต่อเนื่องเป็นประจำเพื่อตัดวงจร ชีวิตของยุง
ด้าน นายเสริม อุ่นชู นายอำเภอท่าใหม่ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุข ได้นำ กลุ่ม อสม. กลุ่มสตรี ผู้นำชุมชน ผู้นำท้องถิ่น นักเรียน คณะครู อาจารย์ ร่วมเดินรณรงค์ป้องกันโรคไข้เลือดออก พร้อมทั้งแจกจ่ายทรายอะเบทให้กับทุกชุมชน ในเขตตำบลตะกาดเง้า หลังจากที่อำเภอท่าใหม่ มีผู้ป่วยไข้เลือดออกเป็นอันดับ 4 ของจังหวัด จำนวน 47 ราย ซึ่งการรณรงค์ในครั้งนี้ ได้รับความร่วมมือจากทุกบ้านช่วยกันกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายในบ้านของตนเป็นอย่างดี ซึ่งคาดว่าจะช่วยยับยั้งการระบาดของโรคไข้เลือดออกได้ในระดับหนึ่งเท่านั้น
นายแพทย์กฤษณ์ ปาลสุทธิ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดจันทบุรี เผยว่า ขณะนี้สถานการณ์โรคไข้เลือดออกของจังหวัดจันทบุรี ตั้งแต่ต้นปีถึงวันที่ 1 มกราคม - 20 กรกฎาคม 2554 มีผู้ป่วยแล้ว 449 ราย อัตราป่วย 88.25 ต่อแสนประชากร ยังไม่พบผู้เสียชีวิต อัตราป่วยสูงสุด ใน 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมือง อำเภอโป่งน้ำร้อน อำเภอสอยดาว และอำเภอท่าใหม่
จากสถิติครั้งที่ผ่านมาตั้งแต่ต้นปีนี้ จนถึงวันที่ 20 พฤษภาคม 2554 มีผู้ป่วยเพียง 148 ราย ซึ่งจากตัวเลขพบว่าระยะเวลาห่างเพียง 3 เดือน จังหวัดจันทบุรีมีผู้ป่วยไข้เลือดออกเพิ่มขึ้นถึง 301 ราย โดยเฉพาะในเด็กเล็กและวัยรุ่น ซึ่งแพทย์เตือนช่วงนี้ถ้ามีไข้สูงเกิน 2 วันอย่าซื้อยากินเอง ให้รีบไปหาหมอ ขอความร่วมมือประชาชนยึดหลัก 5 ป. ปิด-เปลี่ยน-ปล่อย-ปรับปรุง-ปฏิบัติ อย่างต่อเนื่อง
นายแพทย์กฤษณ์กล่าวอีกว่า อาการที่สำคัญจะมีไข้สูงประมาณ 3-4 วัน อาจมีอาการปวดท้อง อาเจียน ช็อคและเสียชีวิตในที่สุด จึงขอฝากเตือนประชาชนว่าในฤดูการระบาดของโรคไข้เลือดออก หากมีไข้สูงเกินกว่า 2 วัน ขอให้นึกถึงโรคไข้เลือดออกและรีบไปพบแพทย์โดยเร็ว
ส่วนการทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายเป็นมาตรการที่ดีที่สุดและได้ผลที่สุด เพราะเป็นการกำจัดที่แหล่งต้นตอของโรคโดยตรง ยึดหลัก 5 ป. ปิดฝาภาชนะ, เปลี่ยนน้ำในภาชนะ, ปล่อยปลาหางนกยูง, ปรับปรุงสิ่งแวดล้อมให้สะอาด, ปฏิบัติเป็นนิสัยต่อเนื่องเป็นประจำเพื่อตัดวงจร ชีวิตของยุง
ด้าน นายเสริม อุ่นชู นายอำเภอท่าใหม่ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุข ได้นำ กลุ่ม อสม. กลุ่มสตรี ผู้นำชุมชน ผู้นำท้องถิ่น นักเรียน คณะครู อาจารย์ ร่วมเดินรณรงค์ป้องกันโรคไข้เลือดออก พร้อมทั้งแจกจ่ายทรายอะเบทให้กับทุกชุมชน ในเขตตำบลตะกาดเง้า หลังจากที่อำเภอท่าใหม่ มีผู้ป่วยไข้เลือดออกเป็นอันดับ 4 ของจังหวัด จำนวน 47 ราย ซึ่งการรณรงค์ในครั้งนี้ ได้รับความร่วมมือจากทุกบ้านช่วยกันกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายในบ้านของตนเป็นอย่างดี ซึ่งคาดว่าจะช่วยยับยั้งการระบาดของโรคไข้เลือดออกได้ในระดับหนึ่งเท่านั้น
