ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิด โชว์การกู้และทำลายในพื้นที่กวาดล้าง

ศูนย์ข่าวศรีราชา - ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดกองทัพเรือ นำสื่อ,NGO และส่วนราชการ ชมการปฏิบัติการกู้ระเบิดและทำลายในพื้นที่กวาดล้าง เผยรอบปี 54 มีประชาชนได้รับผลกระทบ 13 รายจากการเก็บกู้ล่าช้า

ที่บริเวณบ้านสะพานหิน ตำบลแหลมกลัด อำเภอเมือง จังหวัดตราด พล.ท.อรรณพ ศิริศักดิ์ หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ (หน.ศทช. ศบท. บก.ทท.) พร้อมด้วย น.อ.บำรุงรัก สรุคคานนท์ ผู้บังคับหน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดด้านมนุษยธรรมกองทัพเรือ (ผบ.นปท.ทร.) และเจ้าหน้าที่ ได้นำคณะสื่อมวลชน องค์กรภาคเอกชน ส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทั้งในจังหวัดตราด และจังหวัดจันทบุรี จำนวน 100 คนเดินทางเข้าร่วมชมการทำลายวัตถุระเบิดในพื้นที่กวาดล้าง MF-268-04 บ้านสะพานหิน ตำบลแหลมกลัด อำเภอเมือง จังหวัดตราด

โดยหัวหน้าชุดเก็บกู้ระเบิด ได้อธิบายถึงภารกิจการเก็บกู้ระเบิดในพื้นที่ MF -268-04 เนื้อที่กว่า 2 ล้านตารางเมตร ซึ่งสามารถเก็บกู้และทำลายทุ่นระเบิดดักรถถังได้ 24 ทุ่น ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล 378 ทุ่น สรรพาวุธระเบิดที่ยังไม่ระเบิด 270 ลูก และสามารถทำให้เป็นพื้นที่ปลอดภัยได้ 850,000 ตารางเมตร

จากนั้นชุดเก็บกู้ระเบิดได้ทำการสาธิตการเก็บกู้ระเบิดตามขั้นตอนและทฤษฎีที่ได้การอบรมมา หลังพบว่าที่ผ่านมาเป็นไปด้วยความล่าช้าแม้จะพบวัตถุระเบิดแล้ว แต่ก็ต้องทำตามทฤษฎีเพื่อความปลอดภัย ทำให้การปฏิบัติการเก็บกู้วัตถุระเบิดและคืนพื้นที่ปลอดภัยให้กับประชาชนเป็นไปด้วยความล่าช้า ซึ่งทางศูนย์ฯ ได้ปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานเพื่อให้ทันกับข้อตกลงร่วมสหประชาชาติ

ขณะที่ พล.ท.อรรถนพ กล่าวว่า ภารกิจของศูนย์ฯ ได้ดำเนินการตามพันธกิจอนุสัญญาว่าด้วยการห้ามใช้ สะสมผลิตและโอนการทำลายทุ่นระเบิดสังหารบุคคลประเทศไทย และได้ดำเนินการใน 4 พันธกิจ ทั้งการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบถึงอันตราย ช่วยเหลือผู้ประสบภัย และทำลายทุ่นระเบิดให้หมดสิ้นใน 10 ปี รวมทั้งไม่ต้องทำลายทุ่นระเบิดสังหารบุคคลที่สะสมไว้ให้หมดไปใน 4 ปี อย่างไรก็ตาม ปัญหาการเก็บกู้ทำลายเป็นไปด้วยความล่าช้าเพราะใช้วิธีการตามหลักวิชาการ จึงจำเป็นต้องมีการปรับแผนการทำงานใหม่ โดยใช้การประสานข้อมูลกับท้องถิ่นที่อยู่ในพื้นที่ด้วย

"ในช่วง 1-2 ปี ที่ผ่านมามีประชาชนได้รับผลกระทบจากทุ่นระเบิดจำนวน 53 คน ขณะที่ปี 2554 มีจำนวน 13 ราย และได้มีการคืนพื้นที่ให้กับประชาชนไปแล้วทั้งในจังหวัดจันทบุรี ตราด และจังหวัดสระแก้ว ซึ่งประชาชนในพื้นที่ชายแดนที่พบทุ่นระเบิดต้องแจ้งให้เจ้าหน้าที่ของศูนย์ทราบโดยทันที"พล.ท.อรรถนพ กล่าว