จันทบุรี - คนร้ายเมืองจันท์ใช้รถยนต์กระบะพุ่งชนตู้เอทีเอ็มของธนาคารกรุงไทย ที่ตั้งอยู่หน้าร้านแม่วรรณาของฝาก ก่อนกวาดเงินสดกว่า 3 แสนบาทหลบหนี ขณะที่ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรีเร่งเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามคนร้ายให้ได้โดยเร็ว
เมื่อเวลา 08.25 น.วันนี้ (22 ก.ค.) พ.ต.ท.อดุลย์ ศรีธารา สารวัตรเวรสถานีตำรวจภูธรแหลมสิงห์ จังหวัดจันทบุรี ได้รับแจ้งจากนางอัญชรา พูนชัย เจ้าของร้านแม่วรรณาของฝากว่า มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนขับรถยนต์กระบะพุ่งเข้าชนตู้เอทีเอ็มของธนาคารกรุงไทย ที่ตั้งอยู่หน้าร้านโดยภายในตู้มีเงินสดกว่า 3 แสนบาท ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งเดินทางไปตรวจสอบ หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ พล.ต.ต.สุรพล วิรัตน์โยสินทร์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรีรับทราบ
จากนั้นได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พล.ต.ต.สุรพล วิรัตน์โยสินทร์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี ซึ่งพบนางอัญชรา พูนชัย อายุ 32 ปี ยืนรอให้การและได้นำเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบที่กิดเหตุ โดยพบรถยนต์กระบะยี่ห้อนิสสันบิ๊กเอ็มตอนเดียว สีแดง สภาพเก่า ประตูสองข้างสีเทา ไม่ทราบหมายทะเบียน ซึ่งคนร้ายใช้ก่อเหตุ ในสภาพด้านท้ายชนตู้เอทีเอ็มจนฝาครอบตู้เอทีเอ็มล้มพังเสียหาย ก่อนจะนำหีบเก็บเงินขึ้นรถอีกคันหลบหนีไป
นอกจากนั้น ในที่เกิดเหตุยังพบเศษไฟท้ายรถยนต์กระบะ และลอยเบรกของยางรถยนต์เจ้าหน้าที่จึงถ่ายรูปเก็บไว้เป็นหลักฐาน โดยเจ้าของร้านให้การเพิ่มเติมว่านายแซม ซึ่งเป็นชาวลาวและเป็นยามเฝ้าอยู่ที่ร้านแม่วรรณาของฝาก ได้เล่าว่า ในช่วงเวลา 02.00 น.ของคืนที่ผ่านมาคนร้าย 4 คนซึ่งมีอาวุธปืนและเหล็กแป๊บได้ขับรถยนต์เข้ามาที่หน้าร้านก่อนจะเดินสำรวจรอบร้านเพื่อหวังจะเข้าไปโจรกรรมตู้เซฟซึ่งอยู่ภายในร้าน แต่เนื่องจากทางร้านได้ล็อกกุญแจอย่างแน่นหนาคนร้ายจึงไม่สามารถลงมือได้ สุดท้ายได้พยายามที่จะหันไปก่อเหตุกับตู้เอทีเอ็ม แม้ตนจะพยายามเข้าไปห้ามปราม แต่เมื่อเห็นคนร้ายมีปืนและเหล็กจึงต้องวิ่งหนี หลังจากนั้นได้โทรศัพท์แจ้งเจ้าของร้านให้ทราบ
เบื้องต้น พล.ต.ต.สุรพล วิรัตน์โยสินทร์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี ได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในร้าน ซึ่งพบว่าคนร้ายมาด้วยกัน 4 คนแต่เห็นหน้าไม่ชัด ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่บริเวณตู้เอทีเอ็มของธนาคารกรุงไทย อีกครั้งเพื่อดูโฉมหน้าคนร้าย ก่อนจะเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมกันนี้ยังได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายหลบหนีเนื่องจากถือเป็นการกระทำที่อุกอาจ
เมื่อเวลา 08.25 น.วันนี้ (22 ก.ค.) พ.ต.ท.อดุลย์ ศรีธารา สารวัตรเวรสถานีตำรวจภูธรแหลมสิงห์ จังหวัดจันทบุรี ได้รับแจ้งจากนางอัญชรา พูนชัย เจ้าของร้านแม่วรรณาของฝากว่า มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนขับรถยนต์กระบะพุ่งเข้าชนตู้เอทีเอ็มของธนาคารกรุงไทย ที่ตั้งอยู่หน้าร้านโดยภายในตู้มีเงินสดกว่า 3 แสนบาท ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งเดินทางไปตรวจสอบ หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ พล.ต.ต.สุรพล วิรัตน์โยสินทร์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรีรับทราบ
จากนั้นได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พล.ต.ต.สุรพล วิรัตน์โยสินทร์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี ซึ่งพบนางอัญชรา พูนชัย อายุ 32 ปี ยืนรอให้การและได้นำเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบที่กิดเหตุ โดยพบรถยนต์กระบะยี่ห้อนิสสันบิ๊กเอ็มตอนเดียว สีแดง สภาพเก่า ประตูสองข้างสีเทา ไม่ทราบหมายทะเบียน ซึ่งคนร้ายใช้ก่อเหตุ ในสภาพด้านท้ายชนตู้เอทีเอ็มจนฝาครอบตู้เอทีเอ็มล้มพังเสียหาย ก่อนจะนำหีบเก็บเงินขึ้นรถอีกคันหลบหนีไป
นอกจากนั้น ในที่เกิดเหตุยังพบเศษไฟท้ายรถยนต์กระบะ และลอยเบรกของยางรถยนต์เจ้าหน้าที่จึงถ่ายรูปเก็บไว้เป็นหลักฐาน โดยเจ้าของร้านให้การเพิ่มเติมว่านายแซม ซึ่งเป็นชาวลาวและเป็นยามเฝ้าอยู่ที่ร้านแม่วรรณาของฝาก ได้เล่าว่า ในช่วงเวลา 02.00 น.ของคืนที่ผ่านมาคนร้าย 4 คนซึ่งมีอาวุธปืนและเหล็กแป๊บได้ขับรถยนต์เข้ามาที่หน้าร้านก่อนจะเดินสำรวจรอบร้านเพื่อหวังจะเข้าไปโจรกรรมตู้เซฟซึ่งอยู่ภายในร้าน แต่เนื่องจากทางร้านได้ล็อกกุญแจอย่างแน่นหนาคนร้ายจึงไม่สามารถลงมือได้ สุดท้ายได้พยายามที่จะหันไปก่อเหตุกับตู้เอทีเอ็ม แม้ตนจะพยายามเข้าไปห้ามปราม แต่เมื่อเห็นคนร้ายมีปืนและเหล็กจึงต้องวิ่งหนี หลังจากนั้นได้โทรศัพท์แจ้งเจ้าของร้านให้ทราบ
เบื้องต้น พล.ต.ต.สุรพล วิรัตน์โยสินทร์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี ได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในร้าน ซึ่งพบว่าคนร้ายมาด้วยกัน 4 คนแต่เห็นหน้าไม่ชัด ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่บริเวณตู้เอทีเอ็มของธนาคารกรุงไทย อีกครั้งเพื่อดูโฉมหน้าคนร้าย ก่อนจะเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมกันนี้ยังได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายหลบหนีเนื่องจากถือเป็นการกระทำที่อุกอาจ