เพชรบุรี - ปฏิบัติการค้นหาเฮลิคอปเตอร์ “แบล็กฮอว์ก” กับ 9 ชีวิตที่อยู่ในเครื่องเข้าวันที่ 3 เป็นไปอย่างเข้มข้น เผยอากาศวันนี้ค่อนข้างปิดและมีเมฆหมอกจำนวนมาก ขณะเดียวกันมีรายงานว่า 9 คนที่ไปกับ “แบล็กฮอว์ก” มีผู้รอดชีวิต ขณะที่ กองทัพปูนบำเหน็จพิเศษ 8 ขั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการค้นหาเฮลิคอปเตอร์แบล็กฮอว์กที่ตกหายเมื่อวันที่ 19 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งวันนี้ (21 ก.ค.) เข้าสู่วันที่ 3 แล้วสำหรับการค้นหา ซึ่งเมื่อเช้าวันนี้ พล.ท.อุดมเดช สีตบุตร แม่ทัพภาคที่ 1 เปิดเผยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่เดินเท้ากำลังเดินใกล้ถึงจุดพิกัดที่ ฮ.ตกแล้ว และคาดว่าในวันนี้จะสามารถดำเนินการค้นหาได้สำเร็จ
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ชุดเคลื่อนที่เร็วจากกรมป้องกันและบรรเทาสาธาณภัย และ ตชด. จังหวัดกาญจนบุรี ได้มีการจัดชุดพยาบาลและเสบียงอาหารที่จะใช้บรรเทาชีวิตในช่วงระยะเวลา 3 วันที่จะต้องปฏิบัติภารกิจอยู่ในป่า โดยจะมีการนำเฮลิคอปเตอร์จากกองทัพอากาศ ฮ.เกษตร และ ฮ.ของกรมทรัพย์ที่จะนำกำลังพลไปปล่อยลงบริเวณจุดเนิน 900 เพื่อที่จะเดินเท้าไปยังจุดต้นน้ำเพชร ซึ่งจะต้องใช้ระยะเวลาในการเดินเท้าโดยใช้เวลานาน 3-4 ชั่วโมง เพื่อจะเดินเท้าไปยังจุด 1,100 เมตร
แต่ทั้งนี้ต้องดูจากสภาพอากาศว่าจะเอื้ออำนวยหรือไม่ ซึ่งวันนี้อากาศค่อนข้างปิดและมีเมฆ หมอกจำนวนมาก นอกจากนี้ยังสั่งการให้ดำเนินการทำลานจอดเฮลิคอปเตอร์เพิ่มอีกจุดที่อยู่บริเวณจุดเนิน 900 ให้มากที่สุดเพื่อที่จะได้สะดวกในการนำกำลังพลไปลงในการสนับสนุนค้นหาในครั้งนี้ด้วย
พร้อมกันนี้ได้มีการนำฬ่อจำนวน 14 ตัวจากกองพันสัตว์ต่าง กรมการสัตว์ทหารบกจังหวัดเชียงใหม่ขึ้นรถเพื่อนำไปสนับสนุนในการแบกขนสัมภาระโดยนำไปปล่อยยังจุดเขาพะเนินทุ่งแล้วเดินเท้าไปพร้อมกับกำลังเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปสนับสนุนกำลังโดยมีการนำกะเหรี่ยงที่เชี่ยวชาญเส้นทางเป็นผู้นำทางไป
ล่าสุด มีข่าวออกมาว่าทั้ง 9 คนที่สูญหายไปกับเฮลิคอปเตอร์แบล็กฮอว์กมีผู้รอดชีวิต ซึ่งขณะนี้อยู่ในความควบคุมของเจ้าหน้าที่ทหารพม่า โดยทางพม่าต้องการให้เจ้าหน้าที่ระดับสูงของไทยเข้าไปเจรจา ซึ่งก็ยังไม่แน่ชัดว่าข่าวลือดังกล่าวเป็นจริงหรือไม่
สำหรับการค้นหายังเป็นไปอย่างต่อเนื่องแต่เป็นไปด้วยความยากลำบากที่มีทั้งการค้นหาด้วยเฮลิคอปเตอร์และการค้นหาด้วยการเดินเท้า
นายบุญธรรม ชาวกะเหรี่ยงหัวหน้าชุดกระเหรี่ยงนำทาง เปิดเผยว่า เหตุการณ์แบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้น แต่เมื่อเกิด ตนในฐานะที่เป็นคนไทยคนหนึ่งก็อยากช่วยเหลือเต็มที่ เมื่อได้รับการร้องขอจากหน่วยงานราชการจึงระดมกำลังชาวกระเหรี่ยง ซึ่งชำนาญทางและเคยใช้เส้นทางเดินป่าเป็นประจำ เพราะทำไร่และพักอาศัยอยู่ห่างจากจุดที่คาดว่าเกิดเหตุเพียง 8 กิโลเมตรเท่านั้น มาช่วยเหลืออย่างเต็มที่
ด้านนายสุนันท์ อรุณนพรัตน์ อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานหลังจากที่นำเฮลิคอปเตอร์ของกรมทรัพย์ขึ้นบินเพื่อนำกำลังพลไปปล่อยยังจุดเนิน 900 เพื่อจะสนับสนุนกำลังในการทำลานจอดเฮลิคอปเตอร์ใหม่บริเวณจุดเนิน 500 ที่ห่างจากจุดเนิน 900 ประมาณ 1 กิโลเมตร ซึ่งสภาพอากาศขณะนี้ยังปิดและมีฝนตกอย่างหนัก จึงไม่สามารถนำกำลังไปสมทบได้ ทำให้ต้องขนกำลังกลับมายังที่ทำการอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน และคงต้องรอชุดเดินเท้าที่มีทั้งหมด 6 ชุดที่เดินเท้าล่วงหน้า
ได้ยินเสียงปืน 5 นัดระหว่างเข้าค้นหา
เวลา 13.15 น.ศูนย์ประสานงานกู้ภัยเฮลิคอปเตอร์ตก ซึ่งตั้งอยู่ที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานได้รับแจ้งทางวิทยุสื่อสารจากซึ่งเดินจากพะเนินทุ่งไปยังลาน 900 เมตร ว่าขณะเดินอยู่ที่จุดพิกัด NQ 331/168 ซึ่งก่อนถึงลาน 900 เมตรได้ยินเสียงปืนดังขึ้น จำนวน 5 นัด เบื้องต้นยังไม่มีการรายงานข้อมูลเพิ่มเติมว่าดังมาจากทิศทางใด
เวลา 13.30 น.กองพันสัตว์ต่าง กรมการสัตว์ทหารบก ได้นำฬ่ออีกจำนวน 8 ตัวขึ้นรถ ยีเอ็มซี ขนาดใหญ่นำไปปล่อยยังจุดเขาพะเนินทุ่งเพื่อนำไปสนับสนุนในการแบกขนสัมภาระพร้อมกับกำลังเจ้าหน้าที่ที่จะเข้าไปสนับสนุนอีก 1 ชุด
เวลา 14.00 น.รับแจ้งจากชุดลาดตระเวนรวมเจ้าหน้าที่ 13 นายซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่อุทยาน 5 นาย เจ้าหน้าที่ทหาร 8 นาย ว่าได้เดินทางไปถึงยังพิกัดที่ 246/120 ซึ่งเป็นจุดที่คาดว่าเฮลิคอปเตอร์ตกในครั้งแรก และอยู่ในฝั่งพม่า แต่ก็ไม่พบเฮลิคอปเตอร์แบล๊กฮอว์กแต่อย่างใด
มีรายงานข่าวว่า เมื่อเวลา 15.30 น.ทหารพม่า 7 นายได้เดินเท้าเข้ามาถึงยังบริเวณจุดเหนือระดับน้ำทะเล 1,100 เมตรเพื่อเข้ามาสนับสนุนกำลังทหารไทยในการช่วยค้นหาเฮลิคอปเตอร์แบล็กฮอว์กที่ตกในครั้งนี้ด้วย
ปูนบำเหน็จพิเศษ 8 ขั้น 5 นายทหาร ฮ.ตก
ด้าน พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า กองทัพบกจัดพิธีรดน้ำศพทหาร 5 นาย เสียชีวิตจากอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ตกที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ณ วัดทุ่งลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี พร้อมมอบเงินช่วยเหลือ 2,200,000-3,300,000 บาท ตามสิทธิของแต่ละนาย พร้อมปูนบำเหน็จพิเศษ 8 ขั้น และได้รับพระราชทานยศ ดังนี้ พ.ต.กิติภูมิ เอกพันธ์ และ พ.ต.เกียรติศักดิ์ จีนเอี่ยม เลื่อนยศเป็น พล.ต. สำหรับ ร.ท.ปรัชญา นวลศรี จ.ส.อ.รังสรรค์ ชลสายบัว และ จ.ส.อ.ณรงค์เดช พงศ์นุ่มกูล ได้เลื่อนยศเป็น พ.อ.
ทั้งนี้ กองทัพบก ยืนยันการให้ความช่วยเหลือครอบครัวทุกด้านอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นเงินทุนการศึกษารายปี เบี้ยยังชีพรายเดือน รวมถึงการบรรจุทายาทเข้ารับราชการ อีกทั้งความช่วยเหลืออื่นๆ ตามความเหมาะสมต่อไป