ระนอง - มูลนิธิสงเคราะห์เด็กของสภากาชาดไทย ร่วมกับห้างแว่นท็อปเจริญ กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ และจังหวัดระนอง จัดโครงการแว่นตาผู้สูงวัยในสมเด็จพระเทพรัตนฯ
วันนี้ (20 ก.ค.54) นายวันชาติ วงษ์ชัยชนะ ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง เป็นประธานเปิดโครงการแว่นตาผู้สูงวัยในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งมูลนิธิสงเคราะห์เด็กของสภากาชาดไทย ร่วมกับห้างแว่นท็อปเจริญ และกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ และจังหวัดระนอง จัดขึ้น ที่หอประชุมอำเภอกระบุรี มีนางไอริน จิตต์การุญราษฎร์ ผู้ประสานงานโครงการ นางสว่างศรี วงษ์ชัยชนะ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดระนอง นางนนทินี เพ็ชญไพศิษฎ์ หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายเลิศปัญญา บูรณบัณฑิต รองอธิบดีกรมพัฒนาสังคมฯ นายบุญส่ง ไตรภูธร ผู้แทนห้างแว่นท็อปเจริญ และหัวหน้าส่วนราชการ
รวมทั้งผู้สูงวัยที่ได้รับการคัดเลือกเข้าร่วมโครงการร่วมในพิธี สำหรับจังหวัดระนองมีผู้สูงวัยที่มีปัญหาทางสายตาได้รับการคัดเลือกร่วมโครงการจำนวน 400 คน โอกาสนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง ได้มอบแว่นตาให้ผู้สูงวัย เพื่อเป็นตัวอย่างจำนวน 10 ราย ส่วนที่เหลือมีการตรวจวัดสายตาประกอบแว่นแล้วจะมอบให้ในโอกาสต่อไป โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น
ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง กล่าวว่า สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงห่วงใยพสกนิกร โดยเฉพาะผู้สูงวัยที่ประสบปัญหาทางด้านสายตา เพราะทำให้เป็นอุปสรรคต่อการประกอบอาชีพเลี้ยงตนเองและลูกหลาน จึงทรงมีพระราชดำริจัดโครงการแว่นตาผู้สูงวัยในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งมูลนิธิสงเคราะห์เด็กของสภากาชาดไทย ได้ดำเนินการร่วมกับห้างแว่นท็อปเจริญ ออกตรวจวัดสายตาประกอบแว่นเพื่อมอบให้ผู้สูงวัยทั่วประเทศทุกจังหวัด นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้
นายบุญส่ง ไตรภูธร ผู้แทนห้างแว่นท็อปเจริญ กล่าวว่า โครงการ แว่นตาผู้สูงวัยในสมเด็จพระเทพรัตนฯ มีระยะเวลาดำเนินการ 5 ปี ปีนี้เป็นปีที่ 3 ตั้งเป้าให้ความช่วยเหลือผู้สูงวัยอายุ 45 ปีขึ้นไปกว่า 7,000 คน เฉลี่ยจังหวัดละ 400 คน โดยห้างแว่นท็อปเจริญจะดำเนินงานตรวจวัดสายตาประกอบแว่นใหม่ให้ฟรีโดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ พร้อมเครื่องมือที่ทันสมัย สำหรับผู้สูงวัยที่มีอาการทางสายตา และไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยการตัดแว่น
เช่นมีอาการต้อกระจก เป็นต้นจะได้ส่งตัวไปรักษายังศูนย์รักษาตา ท็อปเจริญจักษุ ปีละ 100 ดวงตา โดยไม่คิดค่าบริการรักษาด้วย จะมุ่งเน้นการขยายพื้นที่ให้ความช่วยเหลือผู้สูงวัยในจังหวัดห่างไกลและถิ่นทุรกันดาร เพื่อสนองพระราชดำริในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี นับตั้งแต่ได้เริ่มดำเนินงานมาตั้งแต่เดือนมกราคม 2552 จนถึงปัจจุบันมีผู้สูงวัยได้รับการช่วยเหลือแล้วกว่า 17,000 คน