เพลิงไหม้คลังเก็บน้ำมันใช้แล้วโรงงานในเครือสหพัฒน์

ศูนย์ข่าวศรีราชา - เพลิงไหม้คลังเก็บน้ำมันใช้แล้ว ในเครือสหพัฒน์ หลังช่างตัดเหล็กเข้าไปรื้อส่วนอาคารเก่า ซึ่งสะเก็ดไฟตกใส่ถังน้ำมันจึงเกิดไฟไหม้ แต่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้โดยไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ

วันนี้ (15 ก.ค.) พ.ต.ท.ประพันธ์ วังคะออม สารวัตรเวร สภ.หนองขามได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ภายในสวนอุตสาหกรรมเครือสหพัฒน์ศรีราชา โดยเพลิงไหม้ภายในโกดังของบริษัทพีซีบีเซ็นเตอร์ จำกัดเลขที่ 684-685 ถ.สุขาภิบาล 8 หมู่ 11 ต.หนองขามอ.ศรีราชา จ.ชลบุรี

โดยเพลิงลุกไหม้โหมรุนแรง มีกลุ่มควันสีดำพวยพุ่งปกคลุมทั่วสวนอุตสาหกรรมเครือสหพัฒน์หลังทราบเหตุจึงรายงานให้ พ.ตอ.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผกก.สภ.หนองขาม นายวิชัย สัมพันธรัตน์ นายอำเภอศรีราชา ทราบพร้อมร่วมเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุและประสานไปยังหน่วยดับเพลิงเทศบาลนครแหลมฉบัง เทศบาลตำบลเจ้าพระยาสุรศักดิ์ เทศบาลเมืองศรีราชาให้นำรถดับเพลิงมาร่วมดับเพลิง

โดยในที่เกิดเหตุพบเพลิงไหม้ภายในตัวอาคาร และมีเสียงระเบิดเป็นระยะและมีกลิ่นสารเคมีโชยออกมาคลุ้งไปทั่วระยะรัศมี 3 กิโลเมตรโดยบริษัท พีซีบีเซ็นเตอร์ จำกัด นั้น ได้ปิดกิจการไปแล้วหลังที่ได้เกิดเพลิงไหม้ไปแล้วครั้งหนึ่งเมื่อวันที่ 24 มิ.ย.53โดยในครั้งนี้ได้มีช่างรับเหมาเคลื่อนย้ายอุปกรณ์ภายในโกดังและอุปกรณ์สำนักงานให้คนงานเข้าไปเชื่อมตัดเหล็กอุปกรณ์สำนักงานและอุปกรณ์คอมพิวเตอร์

ภายในโกดังยังมีอุปกรณ์สายไฟ ถังใส่สารเคมี ถังไฟเบอร์ กระดาษและพลาสติกอยู่จำนวนมากซึ่งช่างเชื่อมที่ทำงานคงประมาททำให้สะเก็ดไฟหล่นใส่อุปกรณ์ที่เป็นเชื้อเพลิงอย่างดีเหล่านี้จึงเกิดเพลิงลุกไหม้อย่างรวดเร็ว

นายศักดิ์ชัย แสนกล้า อายุ 26 ปี พนักงานบริษัท Bangkok Recycle eeuse เผยว่า ทางบริษัทฯ ได้รับการว่าจ้างจากบริษัท พีซีดี ให้มาทำการรื้อถอนโรงงานดังกล่าว โดยมีพนักงานเข่ามาทำงาน จำนวน 30 คน โดยโรงงานดังกล่าว เคยถูกไฟไหม้ไปแล้วครั้งหนึ่ง เมื่อเดือนมิถุนายน 2553 ที่ผ่านมา โดยในระหว่างที่ทำการรื้อถอน สะเก็ดไฟที่ใช้ตัดเหล็กอาจจะกระเด็นตกลงไปในถังเก็บน้ำมันที่ใช้แล้ว จนเกิดเพลิงไหม้ดังกล่าว

โดยในช่วงแรกพนักงานได้ช่วยกันดับ แต่ไม่สามารถดับได้ เนื่องจากมีวัสดุที่เป็นเชื้อไฟเป็นจำนวนมาก จึงต้องประสานรถดับเพลิงมาช่วยกันดับในครั้งนี้ ซึ่งใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง ก็สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ ซึ่งก็ไม่ใครได้อันตรายหรือบาดเจ็บ

นายสิทธิศักดิ์ รูปพรม ช่างเชื่อม กล่าวว่า ในช่วงที่เพลิงเกิดลุกไหม้คนงานทั้งหมดได้ออกมานั่งรับประทานอาหารที่โรงอาหารได้เพียง 15 นาทีก็พบว่ามีกลุ่มควันพวยพุ่งออกมาจากตัวโกดังแล้วจึงได้พากันวิ่งไปดูพบว่าเพลิงลุกไหม้ในโกดังรุนแรงขึ้น เนื่องจากมีสิ่งของที่เป็นเชื้อเพลิงอย่างดีจึงได้พากันนำถังออกซิเจน และถังแก๊สที่อยู่ใกล้เคียงที่เกิดเพลิงไหม้ออกมาแล้วพากันหนีเอาตัวรอดออกมาอยู่ห่างๆ โดยรถดับเพลิงกว่า 10 คันมาร่วมกันดับเพลิง ซึ่งเพลิงลุกไหม้กว่า 1 ชม.จึงสงบลงทางตำรวจจึงเชิญตัวช่างเชื่อมของบริษัทรับเหมาไปสอบสวนหาสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้ เพื่อหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ส่วนค่าเสียหายในเบื้องต้นประมาณ 3 ล้านบาท