จันทบุรี - ตำรวจเมืองจันทบุรีสกัดจับรถกระบะ หลังพบมีสาวใหญ่แต่งตัวเลียบแบบพระสงฆ์ และทำร้ายทุบตีสามเณรที่นั่งมาด้วยกันกลาง 3 แยกไฟแดงวัดไผ่ล้อม ก่อนที่สาวใหญ่ จะร่ายเวชมนต์ พนมมือด่าทอเจ้าหน้าที่ตำรวจ
วันนี้ (14 ก.ค.) เจ้าหน้าที่วิทยุสถานีตำรวจภูธรเมืองจันทบุรีได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีสาวใหญ่เพี้ยนแต่งตัวเป็นพระและทำร้ายทุบตีสามเณรที่นั่งรถกระบะ นิสสัน สีบรอนด์ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน โดยขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจตู้ยาม 3 แยกวัดไผ่ล้อม สกัดจับรถกระบะคันดังกล่าวเพื่อดำเนินการตรวจสอบโดยด่วน
หลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจประจำตู้ยาม 3 แยกวัดไผ่ล้อม อำเภอเมือง จันทบุรี ได้มีการออกมาดสกัดจับรถกระบะ นิสสัน สีบรอนด์ ตามที่ได้รับแจ้งมาเมื่อเข้าตรวจสอบพบสาวใหญ่แต่งตัวเป็นพระตามที่ได้รับแจ้งจริง ตรวจสอบในรถกระบะพบสามเณร 1 รูป อยู่ในรถกระบะ นิสสัน สีบรอนด์ หมายเลขทะเบียน บน.4403 ระยอง คันดังกล่าวด้วย
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญตัวสาวใหญ่ ที่แต่งตัวเป็นพระออกมาจากรถกระบะ เพื่อสอบสวนที่ตู้ยามวัดไผ่ล้อม แต่สาวใหญ่กับไม่พอใจเกิดอาการเพี้ยนร่ายเวชมนต์ และพนมมือด่าทอเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างรุนแรง และขว้างปาสิ่งของเครื่องใช้ไปกลางถนน เดือดร้อนเจ้าหน้าที่ตำรวจและประชาชนต้องวิ่งไปเก็บสิ่งของมาให้ จากนั้นสาวใหญ่ได้ถอดชุดพระกองไว้ที่หน้าตู้ยาม พร้อมทั้งขว้างสิ่งของใส่ประชาชน และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มายืนมุ่งดูเหตุการณ์ พร้อมกับร่ายเวชมนต์ด่าทอประชาชนที่มายืนดูเหตุการณ์
ต่อมาทราบชื่อสาวใหญ่เพี้ยนรายนี้ชื่อ นางรัตนาพร ไม่ทราบนามสกุล อายุ 32 ปี ไม่ทราบบ้านเลขที่ เนื่องจากพูดจาไม่รู้เรื่อง ส่วนสามเณร ที่นั่งรถมากับสาวใหญ่เพี้ยนรายนี้ ทราบชื่อ สามเณรอภิเดช แก้วเกตุ อยู่วัดกระโดน อำเภอแกลง จังหวัดระยอง
จากการสอบถามสามเณรอภิเดช ทราบว่า นางรัตนาพร สาวใหญ่รายนี้ ได้ไปทำบุญที่วัด บ่อยครั้งจนสามเณรอภิเดช นับถือเหมือนแม่บุญธรรม และนางรัตนาพร ได้ชักชวนให้สามเณรอภิเดช นั่งรถมาเป็นเพื่อน เพื่อที่จะไปทำธุระที่จังหวัดจันทบุรี โดยหลังจากนั่งรถมาจากจังหวัดระยอง นางรัตนาพร ก็มีอารมณ์ดีและมีการแต่งตัวปกติเหมือนคนทั่วไป
จนมาถึงจังหวัดจันทบุรีแล้วจะกลับไปจังหวัดระยอง นางรัตนาพร เกิดอาการเพี้ยนขึ้นมาโดยการบอกให้สามเณรอภิเดชนั่งรออยู่ในรถก่อน และหลังจากกลับออกจากการไปทำธุระเสร็จก็เห็น นางรัตนาพรแต่งตัวเป็นพระโดยห่มจีวรพระ หรือ ชุดพระมาสวมใส่เต็มยศ โดยสามเณรอภิเดชไม่ทราบว่า นางรัตนาพรไปเอาชุดพระมาจากที่ไหน
จากนั้นนางรัตนาพรได้ขับรถกระบะผ่านมาที่เกิดเหตุที่เป็นสามแยกไฟแดง จึงได้สอบถามว่าแต่งตัวอย่างนี้ทำไม ทำให้นางรัตนาพร ไม่พอใจและเกิดอาการเพี้ยนด่าสามเณรอภิเดช ว่าเรื่องของกู้และใช้ฝามือทุบตีและตบหัวสามเณรอภิเดชหลายครั้ง จนมีชาวบ้านมาเห็นเหตุการณ์ จึงได้โทรศัพท์แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสกัดจับดังกล่าว
ในเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการประสานให้รถโรงพยาบาลพระปกเกล้าจันทบุรีมารับตัวไปสงบสติอารมณ์พร้อมกับมีการนำตัวไปตรวจอาการว่าเพี้ยนจริงหรือไหมอย่างไรต่อไป ส่วนสามเณรอภิเดช ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการพาไปจำวัดที่วัดไผ่ล้อม จังหวัดจันทบุรีก่อน ก่อนที่จะติดต่อให้เจ้าอาวาสวัดกระโดน จังหวัดระยองมารับตัวกลับไป
วันนี้ (14 ก.ค.) เจ้าหน้าที่วิทยุสถานีตำรวจภูธรเมืองจันทบุรีได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีสาวใหญ่เพี้ยนแต่งตัวเป็นพระและทำร้ายทุบตีสามเณรที่นั่งรถกระบะ นิสสัน สีบรอนด์ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน โดยขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจตู้ยาม 3 แยกวัดไผ่ล้อม สกัดจับรถกระบะคันดังกล่าวเพื่อดำเนินการตรวจสอบโดยด่วน
หลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจประจำตู้ยาม 3 แยกวัดไผ่ล้อม อำเภอเมือง จันทบุรี ได้มีการออกมาดสกัดจับรถกระบะ นิสสัน สีบรอนด์ ตามที่ได้รับแจ้งมาเมื่อเข้าตรวจสอบพบสาวใหญ่แต่งตัวเป็นพระตามที่ได้รับแจ้งจริง ตรวจสอบในรถกระบะพบสามเณร 1 รูป อยู่ในรถกระบะ นิสสัน สีบรอนด์ หมายเลขทะเบียน บน.4403 ระยอง คันดังกล่าวด้วย
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญตัวสาวใหญ่ ที่แต่งตัวเป็นพระออกมาจากรถกระบะ เพื่อสอบสวนที่ตู้ยามวัดไผ่ล้อม แต่สาวใหญ่กับไม่พอใจเกิดอาการเพี้ยนร่ายเวชมนต์ และพนมมือด่าทอเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างรุนแรง และขว้างปาสิ่งของเครื่องใช้ไปกลางถนน เดือดร้อนเจ้าหน้าที่ตำรวจและประชาชนต้องวิ่งไปเก็บสิ่งของมาให้ จากนั้นสาวใหญ่ได้ถอดชุดพระกองไว้ที่หน้าตู้ยาม พร้อมทั้งขว้างสิ่งของใส่ประชาชน และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มายืนมุ่งดูเหตุการณ์ พร้อมกับร่ายเวชมนต์ด่าทอประชาชนที่มายืนดูเหตุการณ์
ต่อมาทราบชื่อสาวใหญ่เพี้ยนรายนี้ชื่อ นางรัตนาพร ไม่ทราบนามสกุล อายุ 32 ปี ไม่ทราบบ้านเลขที่ เนื่องจากพูดจาไม่รู้เรื่อง ส่วนสามเณร ที่นั่งรถมากับสาวใหญ่เพี้ยนรายนี้ ทราบชื่อ สามเณรอภิเดช แก้วเกตุ อยู่วัดกระโดน อำเภอแกลง จังหวัดระยอง
จากการสอบถามสามเณรอภิเดช ทราบว่า นางรัตนาพร สาวใหญ่รายนี้ ได้ไปทำบุญที่วัด บ่อยครั้งจนสามเณรอภิเดช นับถือเหมือนแม่บุญธรรม และนางรัตนาพร ได้ชักชวนให้สามเณรอภิเดช นั่งรถมาเป็นเพื่อน เพื่อที่จะไปทำธุระที่จังหวัดจันทบุรี โดยหลังจากนั่งรถมาจากจังหวัดระยอง นางรัตนาพร ก็มีอารมณ์ดีและมีการแต่งตัวปกติเหมือนคนทั่วไป
จนมาถึงจังหวัดจันทบุรีแล้วจะกลับไปจังหวัดระยอง นางรัตนาพร เกิดอาการเพี้ยนขึ้นมาโดยการบอกให้สามเณรอภิเดชนั่งรออยู่ในรถก่อน และหลังจากกลับออกจากการไปทำธุระเสร็จก็เห็น นางรัตนาพรแต่งตัวเป็นพระโดยห่มจีวรพระ หรือ ชุดพระมาสวมใส่เต็มยศ โดยสามเณรอภิเดชไม่ทราบว่า นางรัตนาพรไปเอาชุดพระมาจากที่ไหน
จากนั้นนางรัตนาพรได้ขับรถกระบะผ่านมาที่เกิดเหตุที่เป็นสามแยกไฟแดง จึงได้สอบถามว่าแต่งตัวอย่างนี้ทำไม ทำให้นางรัตนาพร ไม่พอใจและเกิดอาการเพี้ยนด่าสามเณรอภิเดช ว่าเรื่องของกู้และใช้ฝามือทุบตีและตบหัวสามเณรอภิเดชหลายครั้ง จนมีชาวบ้านมาเห็นเหตุการณ์ จึงได้โทรศัพท์แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสกัดจับดังกล่าว
ในเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการประสานให้รถโรงพยาบาลพระปกเกล้าจันทบุรีมารับตัวไปสงบสติอารมณ์พร้อมกับมีการนำตัวไปตรวจอาการว่าเพี้ยนจริงหรือไหมอย่างไรต่อไป ส่วนสามเณรอภิเดช ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการพาไปจำวัดที่วัดไผ่ล้อม จังหวัดจันทบุรีก่อน ก่อนที่จะติดต่อให้เจ้าอาวาสวัดกระโดน จังหวัดระยองมารับตัวกลับไป