ศรีสะเกษ -ชาวพุทธศรีสะเกษนับพันแห่ไปปฏิบัติธรรมเบื้องหน้าพระแก้วมรกตจำลององค์ใหญ่ที่สุดในโลก ขณะที่ราคาดอกบัวพุ่งพวดจากราคามัดละ 10 บาท ขึ้นเป็น 30 บาท รับวันอาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา
เมื่อเวลา 14.00 น.วันนี้ (14 ก.ค.)ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดป่าขันติธรรม บ้านยาง ต.ยาง อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ ปรากฏว่า ได้มีบรรดาพุทธศาสนิกชนชาว จ.ศรีสะเกษ และจากทั่วประเทศจำนวนประมาณ 1,000 คน พากันไปปฏิบัติธรรม เนื่องในวันอาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา เบื้องหน้าองค์พระแก้วมรกตจำลององค์ใหญ่ที่สุดในโลก
ทุกคนจะพากันนุ่งขาวห่มขาวนั่งวิปัสนากัมมัฎฐานและสวดมนต์ภาวนาถือศีล โดยมี หลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก ประธานสงฆ์วัดป่าขันติธรรม และประธานมูลนิธิส่งเสริมคุณธรรมและคุณภาพชีวิต พร้อมด้วยคณะสงฆ์ นำพุทธศาสนิกชนปฏิบัติธรรม โดยมีการบวชชีพราห์ม และจัดทำพิธีทำบุญตักบาตรข้าวสาร อาหารแห้ง ในวันที่ 15 ก.ค.54 เวลา 07.00 น.ที่บริเวณลานธรรม หน้าองค์พระแก้วมรกตจำลององค์ใหญ่ที่สุดในโลก
หลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก ประธานสงฆ์วัดป่าขันติธรรม และประธานมูลนิธิส่งเสริมคุณธรรมและคุณภาพชีวิต กล่าวว่า การจัดพิธีถวายเทียนพรรษาและพิธีทอดถวายมหาสังฆทานในครั้งนี้ เป็นการจัดขึ้นเพื่อเป็นการสืบสานวัฒนธรรมประเพณีวันอาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา ซึ่งเป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา เพื่อให้พุทธศาสนิกชนชาว จ.ศรีสะเกษ และชาวไทยทั่วประเทศ ได้มีจุดรวมธรรมะ เป็นจุดศูนย์กลางในการปฏิบัติธรรม
อีกทั้งการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อให้มีพระพลานามัยที่สมบูรณ์แข็งแรง หายจากอาการพระประชวรโดยเร็วอีกด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ที่ตลาดสดเทศบาล 1 ต.เมืองเหนือ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นตลาดจำหน่ายดอกไม้สดใหญ่ที่สุดของ จ.ศรีสะเกษ ปรากฏว่า ราคาดอกไม้สด โดยเฉพาะอย่างยิ่งดอกบัวและดอกกล้วยไม้ ได้มีการปรับราคาสูงขึ้นกว่าเดิมเป็นอย่างมาก โดยปกติดอกบัว 1 มัด มี 3 ดอก จะขายเพียง 10 บาท ราคาก็ได้พุ่งสูงขึ้นถึงมัดละ 30 บาท
ขณะที่ดอกบัว 1 ดอก ซึ่งมีการนำเอาธูปเทียนมามัดเข้าด้วยกัน สำหรับนำเอาไปใช้ในการเวียนเทียน จากเดิมมัดละ 5 บาท ขึ้นราคาเป็น 10 บาท ส่วนดอกกล้วยไม้ จากเดิมมัดละ 10 บาท ก็ขึ้นราคาเป็นมัดละ 20 บาท ซึ่งแม้ว่าจะมีการขึ้นราคา แต่ก็ยังขายได้ดีมาก มีบรรดาประชาชนชาวศรีสะเกษพากันมาหาซื้อ เพื่อไปทำบุญที่วัดใกล้บ้านกันอย่างคึกคัก
นางบุญส่ง ทิพย์เลิศ อายุ 62 ปี เจ้าของร้านจ้อนดอกไม้ กล่าวว่า เรื่องราคาดอกไม้สดขึ้นราคานี้ ตนเห็นว่าเป็นเรื่องปกติทุกปี ทั้งนี้ เนื่องจากเมื่อเข้าสู่ช่วงเทศกาลสำคัญ ดอกไม้ที่ตนสั่งซื้อมาจากปากคลองตลาดกรุงเทพฯก็จะมีราคาแพง ดังนั้น ตนก็จำเป็นที่จะต้องขึ้นราคาขายปลีกสูงขึ้นตามไปด้วย
อีกทั้งขณะนี้พื้นที่ในการปลูกดอกไม้หลายแห่งในประเทศไทยกำลังประสบปัญหาน้ำท่วม ทำให้สวนดอกไม้ได้รับความเสียหายและดอกไม้ขาดตลาด จึงทำให้ต้องมีการปรับราคาขายดอกไม้ให้สูงมากขึ้นกว่าเดิมนั่นเอง แต่ตนเชื่อว่าอีกไม่นาน พอผ่านช่วงเทศกาลนี้ไปแล้วราคาดอกไม้ก็จะกลับเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจเช่นเดิม
เมื่อเวลา 14.00 น.วันนี้ (14 ก.ค.)ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดป่าขันติธรรม บ้านยาง ต.ยาง อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ ปรากฏว่า ได้มีบรรดาพุทธศาสนิกชนชาว จ.ศรีสะเกษ และจากทั่วประเทศจำนวนประมาณ 1,000 คน พากันไปปฏิบัติธรรม เนื่องในวันอาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา เบื้องหน้าองค์พระแก้วมรกตจำลององค์ใหญ่ที่สุดในโลก
ทุกคนจะพากันนุ่งขาวห่มขาวนั่งวิปัสนากัมมัฎฐานและสวดมนต์ภาวนาถือศีล โดยมี หลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก ประธานสงฆ์วัดป่าขันติธรรม และประธานมูลนิธิส่งเสริมคุณธรรมและคุณภาพชีวิต พร้อมด้วยคณะสงฆ์ นำพุทธศาสนิกชนปฏิบัติธรรม โดยมีการบวชชีพราห์ม และจัดทำพิธีทำบุญตักบาตรข้าวสาร อาหารแห้ง ในวันที่ 15 ก.ค.54 เวลา 07.00 น.ที่บริเวณลานธรรม หน้าองค์พระแก้วมรกตจำลององค์ใหญ่ที่สุดในโลก
หลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก ประธานสงฆ์วัดป่าขันติธรรม และประธานมูลนิธิส่งเสริมคุณธรรมและคุณภาพชีวิต กล่าวว่า การจัดพิธีถวายเทียนพรรษาและพิธีทอดถวายมหาสังฆทานในครั้งนี้ เป็นการจัดขึ้นเพื่อเป็นการสืบสานวัฒนธรรมประเพณีวันอาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา ซึ่งเป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา เพื่อให้พุทธศาสนิกชนชาว จ.ศรีสะเกษ และชาวไทยทั่วประเทศ ได้มีจุดรวมธรรมะ เป็นจุดศูนย์กลางในการปฏิบัติธรรม
อีกทั้งการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อให้มีพระพลานามัยที่สมบูรณ์แข็งแรง หายจากอาการพระประชวรโดยเร็วอีกด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ที่ตลาดสดเทศบาล 1 ต.เมืองเหนือ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นตลาดจำหน่ายดอกไม้สดใหญ่ที่สุดของ จ.ศรีสะเกษ ปรากฏว่า ราคาดอกไม้สด โดยเฉพาะอย่างยิ่งดอกบัวและดอกกล้วยไม้ ได้มีการปรับราคาสูงขึ้นกว่าเดิมเป็นอย่างมาก โดยปกติดอกบัว 1 มัด มี 3 ดอก จะขายเพียง 10 บาท ราคาก็ได้พุ่งสูงขึ้นถึงมัดละ 30 บาท
ขณะที่ดอกบัว 1 ดอก ซึ่งมีการนำเอาธูปเทียนมามัดเข้าด้วยกัน สำหรับนำเอาไปใช้ในการเวียนเทียน จากเดิมมัดละ 5 บาท ขึ้นราคาเป็น 10 บาท ส่วนดอกกล้วยไม้ จากเดิมมัดละ 10 บาท ก็ขึ้นราคาเป็นมัดละ 20 บาท ซึ่งแม้ว่าจะมีการขึ้นราคา แต่ก็ยังขายได้ดีมาก มีบรรดาประชาชนชาวศรีสะเกษพากันมาหาซื้อ เพื่อไปทำบุญที่วัดใกล้บ้านกันอย่างคึกคัก
นางบุญส่ง ทิพย์เลิศ อายุ 62 ปี เจ้าของร้านจ้อนดอกไม้ กล่าวว่า เรื่องราคาดอกไม้สดขึ้นราคานี้ ตนเห็นว่าเป็นเรื่องปกติทุกปี ทั้งนี้ เนื่องจากเมื่อเข้าสู่ช่วงเทศกาลสำคัญ ดอกไม้ที่ตนสั่งซื้อมาจากปากคลองตลาดกรุงเทพฯก็จะมีราคาแพง ดังนั้น ตนก็จำเป็นที่จะต้องขึ้นราคาขายปลีกสูงขึ้นตามไปด้วย
อีกทั้งขณะนี้พื้นที่ในการปลูกดอกไม้หลายแห่งในประเทศไทยกำลังประสบปัญหาน้ำท่วม ทำให้สวนดอกไม้ได้รับความเสียหายและดอกไม้ขาดตลาด จึงทำให้ต้องมีการปรับราคาขายดอกไม้ให้สูงมากขึ้นกว่าเดิมนั่นเอง แต่ตนเชื่อว่าอีกไม่นาน พอผ่านช่วงเทศกาลนี้ไปแล้วราคาดอกไม้ก็จะกลับเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจเช่นเดิม