อุตรดิตถ์ - พ่อเมืองอุตรดิตถ์ ออกประกาศเตือนให้ประชาชนเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน
วันนี้ (13 ก.ค.) นายโยธินศร์ สมุทรคีรีจ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ ได้รับแจ้งจาก กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้แจ้งการพยากรณ์อากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา คาดว่าตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 15 ก.ค.54 ร่องมรสุมพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือของประเทศไทย ประเทศลาวและประเทศเวียดนามตอนบนประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรง
ลักษณะเช่นนี้ทำให้ทั่วประเทศมีฝนกระจายถึงเกือบทั่วไป และมีฝนตกหนักบางแห่งโดยเฉพาะในภาคเหนือ ขอให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสียงภัย ตามที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ราบลุ่มบริเวณ จังหวัดแม่ฮ่องสอนเชียงราย เชียงใหม่ พะเยา น่าน ลำปาง ลำพูน แพร่ ตากและอุตรดิตถ์ ให้ระวังอันตรายจากสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากและน้ำล้นตลิ่งในระยะนี้
ทั้งนี้ เพื่อเตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาอันเกิดจากสภาวะอากาศดังกล่าว อาจสร้างความเสียหายให้แก่ชีวิต ทรัพย์สิน และผลิตผลทางการเกษตรของประชาชน ได้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแจ้งย้ำเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณที่ลาดเชิงเขา ที่ราบต่ำริมน้ำไหลผ่าน และพื้นที่เสี่ยงภัย ทราบเกี่ยวกับภัยอันเกิดจากฝนตกหนัก อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ให้ประชาชนเตรียมการป้องกัน และระมัดระวังอันตรายอันเกิดจากภัยธรรมชาติ โดยผ่านทางวิทยุกระจายเสียงประจำท้องถิ่น เสียงตามสาย หอกระจายข่าวประจำหมู่บ้านและเครือข่ายวิทยุสมัครเล่นสถานีโทรทัศน์และเคเบิลทีวีท้องถิ่น อย่างรวดเร็วและครอบคลุมทุกพื้นที่
พร้อมกับให้นายอำเภอ กำชับเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานเฝ้าเตรียมรับสถานการณ์ รวมทั้งให้ใช้ประโยชน์จาก “มิเตอร์เตือนภัย” ที่ประจำอยู่ในหมู่บ้าน แจ้งข้อมูลสถานการณ์ภัยที่เกิดขึ้นให้ศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจฯได้รับทราบโดยเร็ว เพื่อดำเนินการช่วยเหลือประชาชนให้ทันต่อสถานการณ์ดำเนินการตามขั้นตอนของแผนป้องกันภัยฯของอำเภอ ให้สามารถช่วยเหลือประชาชนหากเกิดสถานการณ์ขึ้นในพื้นที่ได้อย่างทันท่วงที หากพื้นที่ใดเสี่ยงที่จะเกิดภัยพิบัติให้พิจารณาอพยพประชาชนไปในที่ปลอดภัยด่วน และรายงานผลการปฏิบัติงานในการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ให้จังหวัดทราบ ภายใน 24 ชั่วโมง
ทั้งนี้ หากเกิดสาธารณภัยขึ้นในพื้นที่ ให้รายงานสถานการณ์และการให้ความช่วยเหลือ ในเบื้องต้นทราบทันทีเมื่อเกิดเหตุที่หมายเลขโทรศัพท์/โทรสาร 0-5541- 7989 และรายงานทุกระยะ จนกว่าสถานการณ์จะสิ้นสุด
วันนี้ (13 ก.ค.) นายโยธินศร์ สมุทรคีรีจ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ ได้รับแจ้งจาก กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้แจ้งการพยากรณ์อากาศของกรมอุตุนิยมวิทยา คาดว่าตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 15 ก.ค.54 ร่องมรสุมพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือของประเทศไทย ประเทศลาวและประเทศเวียดนามตอนบนประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรง
ลักษณะเช่นนี้ทำให้ทั่วประเทศมีฝนกระจายถึงเกือบทั่วไป และมีฝนตกหนักบางแห่งโดยเฉพาะในภาคเหนือ ขอให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสียงภัย ตามที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ราบลุ่มบริเวณ จังหวัดแม่ฮ่องสอนเชียงราย เชียงใหม่ พะเยา น่าน ลำปาง ลำพูน แพร่ ตากและอุตรดิตถ์ ให้ระวังอันตรายจากสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากและน้ำล้นตลิ่งในระยะนี้
ทั้งนี้ เพื่อเตรียมการป้องกันและแก้ไขปัญหาอันเกิดจากสภาวะอากาศดังกล่าว อาจสร้างความเสียหายให้แก่ชีวิต ทรัพย์สิน และผลิตผลทางการเกษตรของประชาชน ได้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแจ้งย้ำเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณที่ลาดเชิงเขา ที่ราบต่ำริมน้ำไหลผ่าน และพื้นที่เสี่ยงภัย ทราบเกี่ยวกับภัยอันเกิดจากฝนตกหนัก อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ให้ประชาชนเตรียมการป้องกัน และระมัดระวังอันตรายอันเกิดจากภัยธรรมชาติ โดยผ่านทางวิทยุกระจายเสียงประจำท้องถิ่น เสียงตามสาย หอกระจายข่าวประจำหมู่บ้านและเครือข่ายวิทยุสมัครเล่นสถานีโทรทัศน์และเคเบิลทีวีท้องถิ่น อย่างรวดเร็วและครอบคลุมทุกพื้นที่
พร้อมกับให้นายอำเภอ กำชับเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานเฝ้าเตรียมรับสถานการณ์ รวมทั้งให้ใช้ประโยชน์จาก “มิเตอร์เตือนภัย” ที่ประจำอยู่ในหมู่บ้าน แจ้งข้อมูลสถานการณ์ภัยที่เกิดขึ้นให้ศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจฯได้รับทราบโดยเร็ว เพื่อดำเนินการช่วยเหลือประชาชนให้ทันต่อสถานการณ์ดำเนินการตามขั้นตอนของแผนป้องกันภัยฯของอำเภอ ให้สามารถช่วยเหลือประชาชนหากเกิดสถานการณ์ขึ้นในพื้นที่ได้อย่างทันท่วงที หากพื้นที่ใดเสี่ยงที่จะเกิดภัยพิบัติให้พิจารณาอพยพประชาชนไปในที่ปลอดภัยด่วน และรายงานผลการปฏิบัติงานในการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ให้จังหวัดทราบ ภายใน 24 ชั่วโมง
ทั้งนี้ หากเกิดสาธารณภัยขึ้นในพื้นที่ ให้รายงานสถานการณ์และการให้ความช่วยเหลือ ในเบื้องต้นทราบทันทีเมื่อเกิดเหตุที่หมายเลขโทรศัพท์/โทรสาร 0-5541- 7989 และรายงานทุกระยะ จนกว่าสถานการณ์จะสิ้นสุด