ศูนย์ข่าวศรีราชา - เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดี 2 แรงงานไทย ก่อเหตุวิวาทแรงงานเขมรในโรงงานเชือดไก่ ส่วนคนงานเขมรระบุการดำเนินคดีต้องรอบคอบ หวั่นกระทบความสัมพันธ์ ด้านตัวแทนโรงงานเผยเป็นการเข้าใจผิด
พ.ต.อ.ยงยุทธ ขอนดอก รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี เผยถึงความคืบหน้า กรณีที่แรงงานไทย-กัมพูชา ทะเลาะวิวาทจนเกิดเหตุจลาจล ขึ้นที่โรงงานชำแหละไก่ บริษัท จีเอฟพีที นิชิเร (ประเทศไทย) จำกัด อ.หนองใหญ่ จ.ชลบุรี เมื่อกลางดึกคืนที่ผ่านมาว่า เกิดจากแรงงานชาวไทยและกัมพูชาก่อเหตุทะเลาะวิวาทจนได้รับบาดเจ็บ โดยเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าระงับเหตุทำให้แรงงานชาวกัมพูชาบางส่วนไม่พอใจ และเกรงว่าตำรวจจะไม่ดำเนินคดีต่อคนไทยที่ทำร้ายชาวกัมพูชาก่อนหน้านี้ จนเป็นเหตุให้เกิดการจลาจลและทำลายทรัพย์สิน พร้อมกับยึดรถสายตรวจตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่จำนวน 4 คัน
ความคืบหน้าล่าสุดอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนแกนนำแรงงานกัมพูชาที่ก่อเหตุจำนวน 10-15 คน พร้อมกับหาภาพวิดีโอคลิปเพื่อระบุตัวแกนนำก่อเหตุปลุกระดม โดยยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ดำเนินการตามหลักของกฎหมาย ทั้งคนไทยที่ทำร้ายร่างกายชาวกัมพูชา ซึ่งได้ส่งตัวไปดำเนินคดีแล้ว สำหรับแรงงานกัมพูชานั้นได้ตั้งข้อหาไว้ 2 ข้อ คือ 1.ขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงาน 2.ทำลายทรัพย์สินของทางราชการ
อย่างไรก็ตาม การดำเนินการคดีต่อแรงงานกัมพูชาในครั้งนี้ต้องทำอย่างรอบคอบ เพราะหวั่นจะกระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
ด้าน นางรัตติกา จินตนาผล ผู้จัดการฝ่ายทรัพยากรบุคคล บริษัท จีเอฟพีที นิชิเร (ประเทศไทย) จำกัด เผยว่าจากเหตุการณ์ดังกล่าว อาจเป็นการเข้าใจผิดในเรื่องการของการสื่อสาร เนื่องจากทางแรงงานกัมพูชา ต้องการให้แรงงานไทยไปขอโทษที่มีการทำร้ายร่างกายกัน แต่แรงงานกัมพูชามีจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ตำรวจหวั่นว่าจะเกิดปัญหาบานปลาย จึงได้กันตัวแรงงานไทยออกไป แต่แรงงานกัมพูชาคิดว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจะไม่ดำเนินคดีกับแรงงานไทย จึงเกิดความไม่พอใจ จนเป็นเหตุให้เกิดความวุ่นวายดังกล่าวขึ้น
สำหรับพนักงานของบริษัทมีทั้งหมดประมาณ 2,500 คน โดยเป็นแรงงานชาวไทย จำนวน 1,500 คน และแรงงานชาวกัมพูชา 1,000 คน
พ.ต.อ.ยงยุทธ ขอนดอก รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี เผยถึงความคืบหน้า กรณีที่แรงงานไทย-กัมพูชา ทะเลาะวิวาทจนเกิดเหตุจลาจล ขึ้นที่โรงงานชำแหละไก่ บริษัท จีเอฟพีที นิชิเร (ประเทศไทย) จำกัด อ.หนองใหญ่ จ.ชลบุรี เมื่อกลางดึกคืนที่ผ่านมาว่า เกิดจากแรงงานชาวไทยและกัมพูชาก่อเหตุทะเลาะวิวาทจนได้รับบาดเจ็บ โดยเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าระงับเหตุทำให้แรงงานชาวกัมพูชาบางส่วนไม่พอใจ และเกรงว่าตำรวจจะไม่ดำเนินคดีต่อคนไทยที่ทำร้ายชาวกัมพูชาก่อนหน้านี้ จนเป็นเหตุให้เกิดการจลาจลและทำลายทรัพย์สิน พร้อมกับยึดรถสายตรวจตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่จำนวน 4 คัน
ความคืบหน้าล่าสุดอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนแกนนำแรงงานกัมพูชาที่ก่อเหตุจำนวน 10-15 คน พร้อมกับหาภาพวิดีโอคลิปเพื่อระบุตัวแกนนำก่อเหตุปลุกระดม โดยยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ดำเนินการตามหลักของกฎหมาย ทั้งคนไทยที่ทำร้ายร่างกายชาวกัมพูชา ซึ่งได้ส่งตัวไปดำเนินคดีแล้ว สำหรับแรงงานกัมพูชานั้นได้ตั้งข้อหาไว้ 2 ข้อ คือ 1.ขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงาน 2.ทำลายทรัพย์สินของทางราชการ
อย่างไรก็ตาม การดำเนินการคดีต่อแรงงานกัมพูชาในครั้งนี้ต้องทำอย่างรอบคอบ เพราะหวั่นจะกระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
ด้าน นางรัตติกา จินตนาผล ผู้จัดการฝ่ายทรัพยากรบุคคล บริษัท จีเอฟพีที นิชิเร (ประเทศไทย) จำกัด เผยว่าจากเหตุการณ์ดังกล่าว อาจเป็นการเข้าใจผิดในเรื่องการของการสื่อสาร เนื่องจากทางแรงงานกัมพูชา ต้องการให้แรงงานไทยไปขอโทษที่มีการทำร้ายร่างกายกัน แต่แรงงานกัมพูชามีจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ตำรวจหวั่นว่าจะเกิดปัญหาบานปลาย จึงได้กันตัวแรงงานไทยออกไป แต่แรงงานกัมพูชาคิดว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจะไม่ดำเนินคดีกับแรงงานไทย จึงเกิดความไม่พอใจ จนเป็นเหตุให้เกิดความวุ่นวายดังกล่าวขึ้น
สำหรับพนักงานของบริษัทมีทั้งหมดประมาณ 2,500 คน โดยเป็นแรงงานชาวไทย จำนวน 1,500 คน และแรงงานชาวกัมพูชา 1,000 คน