xs
xsm
sm
md
lg

ชาวสัตหีบให้ความช่วยเหลือสาวพม่าคลอดก่อนกำหนด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศูนย์ข่าวศรีราชา - สาวพม่าตั้งท้อง 6 เดือน นอนเจ็บท้องร้องครวญครางในห้องเช่าเพียงลำพัง ชาวบ้านเห็นใจแจ้งพยาบาลรุดช่วย แต่สุดกลั้นเบ่งคลอดลูกเป็นเพศหญิง สุขภาพ แข็งแรง สมบูรณ์ เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องให้ออกซิเจนก่อนนำตัวส่งแพทย์

เหตุการณ์สาวชาวพม่าวัย 34 ปี ตั้งท้อง 6 เดือน คลอดลูกคาห้องเช่าเกิดขึ้นเมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 9 กรกฏาคม โดยนายพิชิต เกลียกกุทัณฑ์ หัวหน้าหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างโรจนธรรมสถานสัตหีบ เปิดเผยว่าได้รับแจ้งจากนายชาย ภักดี อายุ 30 ปี ว่ามีหญิงชาวพม่าใกล้คลอดนอนเจ็บท้องร้องครวญครางอยู่ภายในห้องเช่า เลขที่ 65/24 หมู่บ้านนาวีทอง 2 ซอยเขาเพชร หมู่ 3 ตำบลสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี หลังรับแจ้งจึงนำเจ้าหน้าที่พร้อมรถกู้ชีพรุดไปตรวจสอบ

เมื่อไปถึงพบนางส้ม อายุ 34 ปี นอนหมดแรงอยู่บนพื้นห้อง โดยมีเลือดไหลออกจากช่องคลอดจำนวนมาก ใกล้กันพบเด็กทารกแรกเกิดเพศหญิง สภาพร่างกายสมบูรณ์แข็งแรง นอนอยู่ในห่อผ้า ซึ่ง น.ส.นลินภัสร์ เลิศดำรงค์ฤทธิ์ พยาบาลประจำโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพชุมชนบ้านเตาถ่าน ได้ช่วยทำคลอดก่อนหน้าที่เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยจะมาถึง

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ช่วยเหลือนำสองแม่ลูกส่งไปยังโรงพยาบาลสัตหีบกิโลเมตรที่ 10 ตำบลพลูตาหลวง อำเภอสัตหีบ โดยระหว่างนำตัวส่งเด็กทารกได้อยู่ในความดูแลของ น.ส.นลินภัสร์ อย่างใกล้ชิด พร้อมให้ออกซิเจนแก่เด็กอยู่ตลอดเวลา

จากการสอบถามนายชาย ภักดี เพื่อนหญิงสาวชาวพม่าเล่าว่า สาวชาวพม่าเดิมมีอาชีพก่อสร้าง แต่ได้ตั้งท้องกับสามีชาวพม่าด้วยกัน ทำให้ต้องหยุดงานเพราะเกรงได้รับอันตรายแก่เด็กในท้อง และเมื่อช่วงต้นเดือนสามีของนางส้ม ได้เดินทางกลับบ้านที่ประเทศพม่าเพื่อไปดูแลแม่ที่กำลังป่วย โดยทิ้งภรรยาอยู่กับบุตรสาววัย 10 ขวบที่ห้องเช่า โดยในช่วง 2 – 3 วัน ก่อนเกิดเหตุ นางส้มได้มีอาการตกเลือดบ่อยครั้ง กระทั่งวันนี้ได้เกิดเจ็บท้องขึ้นอย่างรุนแรง จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพชุมชนบ้านเตาถ่านให้มาทำการช่วยเหลือเบื้องต้น แต่สาวพม่าทนเจ็บท้องไม่ไหวคลอดก่อนกำหนด ภายในห้องพัก

นายราเมศร์ อำไพพิศ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสัตหีบกิโลเมตรที่ 10 กล่าวว่า หลังได้รับตัวสองแม่ลูกชาวพม่า ได้ทำการตรวจสอบอย่างละเอียดพบสาเหตุการคลอดก่อนกำหนดด้วยอายุครรภ์เพียง 6 เดือน น่าจะมาจากผู้ป่วยทำงานหนัก ซึ่งขณะนี้ทั้งคู่ได้พ้นขีดอันตรายแล้ว ซึ่งเด็กมีสภาพสมบูรณ์ แข็งแรง มีการตอบสนองเป็นอย่างดี แต่ต้องนำเด็กใส่ตู้อบไว้ก่อน ส่วนผู้เป็นแม่แพทย์ได้ให้เลือด และน้ำเกลือเพื่อให้หายจากอาการอ่อนเพลียและดีขึ้นตามลำดับ


กำลังโหลดความคิดเห็น