ฉะเชิงเทรา - เผยมีผู้นำเรื่องเข้าร้องเรียนการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส.ฉะเชิงเทราต่อเนื่อง รวมทั้งสิ้น 5 รายแล้ว
วันนี้ (7 ก.ค.) พ.ต.ท.ภูดิศ โมคศักดิ์ หัวหน้างานสอบสวนสำนักงาน กกต.ฉะเชิงเทรา กล่าวว่า ในวันนี้ได้มีผู้เข้ามาร้องเรียนต่อพนักงานสอบสวน ของสำนักงาน กกต.ฉะเชิงเทรา เพิ่มอีก 3 ราย เกี่ยวกับการซื้อเสียงเลือกตั้ง ส.ส.ที่ผ่านมา รวมถึงขณะนี้มีคดีร้องเรียนแล้วรวม 5 รายจากสองเขตเลือกตั้ง
เขตเลือกตั้งที่ 1 ซึ่งมี ดร.บุญเลิศ ไพรินทร์ ผู้สมัครจากพรรคประชาธิปัตย์ ชนะคู่แข่งซึ่งเป็น อดีต ส.ส.เก่า คือ นางฐิติมา ฉายแสง ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย และเขตเลือกตั้งที่ 4 ที่มี พล.ต.ท.พิทักษ์ จารุสมบัติ ผู้สมัครจากพรรคประชาธิปัตย์ชนะการเลือกตั้งต่อคู่แข่ง ซึ่งเป็นอดีต ส.ส.เก่า คือ นายวุฒิพงศ์ ฉายแสง จากพรรคเพื่อไทย
พ.ต.ท.ภูดิศกล่าวว่า การเข้าร้องเรียนของชาวบ้านทั้ง 5 รายนั้น เป็นการเข้าร้องเรียนแบบปากเปล่า โดยที่ไม่มีหลักฐานมาแสดงยืนยันในการกระทำผิดที่เกี่ยวกับการซื้อเสียงเลือกตั้ง ซึ่งผู้เข้าร้องเรียนระบุเพียงพบเห็นการซื้อสิทธิขายเสียงของฝ่ายผู้ชนะการเลือกตั้งทั้งสองเขตดังกล่าวเท่านั้น
ขณะนี้ทางพนักงาสอบสวนสำนักงาน กกต.ฉะเชิงเทรา ได้ทำการสอบปากคำไว้แล้ว เพื่อรวบรวมไว้เป็นพยาน หากพบหลักฐานเพิ่มเติมในการกระทำผิดจะสามารถใช้เป็นสำนวนประกอบในการดำเนินคดีต่อไป
วันนี้ (7 ก.ค.) พ.ต.ท.ภูดิศ โมคศักดิ์ หัวหน้างานสอบสวนสำนักงาน กกต.ฉะเชิงเทรา กล่าวว่า ในวันนี้ได้มีผู้เข้ามาร้องเรียนต่อพนักงานสอบสวน ของสำนักงาน กกต.ฉะเชิงเทรา เพิ่มอีก 3 ราย เกี่ยวกับการซื้อเสียงเลือกตั้ง ส.ส.ที่ผ่านมา รวมถึงขณะนี้มีคดีร้องเรียนแล้วรวม 5 รายจากสองเขตเลือกตั้ง
เขตเลือกตั้งที่ 1 ซึ่งมี ดร.บุญเลิศ ไพรินทร์ ผู้สมัครจากพรรคประชาธิปัตย์ ชนะคู่แข่งซึ่งเป็น อดีต ส.ส.เก่า คือ นางฐิติมา ฉายแสง ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย และเขตเลือกตั้งที่ 4 ที่มี พล.ต.ท.พิทักษ์ จารุสมบัติ ผู้สมัครจากพรรคประชาธิปัตย์ชนะการเลือกตั้งต่อคู่แข่ง ซึ่งเป็นอดีต ส.ส.เก่า คือ นายวุฒิพงศ์ ฉายแสง จากพรรคเพื่อไทย
พ.ต.ท.ภูดิศกล่าวว่า การเข้าร้องเรียนของชาวบ้านทั้ง 5 รายนั้น เป็นการเข้าร้องเรียนแบบปากเปล่า โดยที่ไม่มีหลักฐานมาแสดงยืนยันในการกระทำผิดที่เกี่ยวกับการซื้อเสียงเลือกตั้ง ซึ่งผู้เข้าร้องเรียนระบุเพียงพบเห็นการซื้อสิทธิขายเสียงของฝ่ายผู้ชนะการเลือกตั้งทั้งสองเขตดังกล่าวเท่านั้น
ขณะนี้ทางพนักงาสอบสวนสำนักงาน กกต.ฉะเชิงเทรา ได้ทำการสอบปากคำไว้แล้ว เพื่อรวบรวมไว้เป็นพยาน หากพบหลักฐานเพิ่มเติมในการกระทำผิดจะสามารถใช้เป็นสำนวนประกอบในการดำเนินคดีต่อไป