พบสองเด็กชายถูกทิ้งนอนป้ายรถเมล์แปดริ้ว

ฉะเชิงเทรา - ชาวบ้านแปดริ้ว รุมดูสองเด็กชายนอนหลับแน่นิ่งคาป้ายรถเมล์ หน้าห้างสรรพสินค้าชื่อดังเมืองแปดริ้ว ด้านเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบ ส่วนชาวบ้านสวดยับเป็นปัญหาสังคม วอนรัฐบาลใหม่เร่งแก้ไขด่วน

วันนี้ (5 ก.ค.) ที่บริเวณป้ายรถโดยสารประจำทางด้านหน้าห้างสรรสินค้าบิ๊กซี สาขาที่ 1 จ.ฉะเชิงเทรา ริมถนนสาย 314 (ฉะเชิงเทรา-บางปะกง) ชาวบ้านต่างพากันเข้ามามุงดู เด็กชาย เอ และเด็กชายบี (นามสมมติ) อายุประมาณ 9 ขวบ และ 8 ขวบ นอนสลบไสล ปลุกไม่ยอมตื่น แต่เมื่อเขย่าตัวแรงๆ ก็จะลุกขึ้นมาแบบสะลึมสะลือ ก่อนจะล้มตัวลงนอนหลับต่อไปอีก

เหตุการณ์ดังกล่าวได้สร้างตกใจให้แก่ผู้คนที่พบเห็นเป็นอย่างมาก เพราะหวั่นเกรงว่าเด็กชายทั้ง 2 คน อาจจะถูกลวงหรือมอบยามาจากที่อื่นแล้วนำมาปล่อยทิ้ง โดยสภาพของเด็กชายเอ ไม่สวมเสื้อ สวมกางเกงสีกากีแบบนักเรียนชั้นประถมศึกษาของรัฐบาล คาดเข็มขัดหนังสีเลือดหมู หัวเหลี่ยม ตามร่างกายอยู่ในสภาพเนื้อตัวมอมแมม ที่ด้านหลังสะพายเป้เปล่าสีดำ และมีเศษชิ้นส่วนกระดาษของหนังสือเรียนระดับชั้นปีที่ 2-4 เพียงหนึ่งชิ้น

ตรวจสอบภายในตัวพบเงินเพียง 90 บาท ส่วนเด็กชายบี สวมเพียงกางเกงเจเจ สีฟ้าขาสั้น เพียงตัวเดียวนอนแน่นิ่งเกาะอยู่กับแผ่นโลหะราวที่นั่งพักผู้โดยสารรอรถ

เมื่อเจ้าหน้าที่เดินทางมาถึงชาวบ้าน พร้อมด้วยดาบตำรวจตรี คเชนทร์ อินทร์รอด สายตรวจประจำจุดสถานีขนส่ง และห้างบิ๊กซี สภ.เมืองฉะเชิงเทรา พยายามที่จะช่วยกันเขย่าปลุกเด็กชายทั้งสองคน เพื่อสอบถามหาที่มาที่ไปและบ้านพักอยู่ที่ใด โดยใช้เวลาปลุกอยู่นานหลายครั้งแต่ปลุกเท่าไรก็ไม่ยอมตื่น โดยเฉพาะเด็กชายบี ส่วนเด็กชายเอ เมื่อปลุกให้ลุกขึ้นนั่งมาได้ชั่วขณะ แต่แล้วก็นั่งหลับแบบสัปหงกต่อ ชาวบ้านหลายคนจึงช่วยกันรุมปลุกสอบถามอีกแต่ถามเท่าไรก็ไม่รู้เรื่อง

จากการสอบถาม นายชุมพร วงศ์ศรีสวัสดิ์ อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 38 ม.3 ต.คลองเขื่อน อ.คลองเขื่อน จ.ฉะเชิงเทรา อาชีพขับรถสามล้อรับจ้างที่บริเวณหน้าห้าง กล่าวว่า พบเห็นเด็กชายทั้งสองคนนี้ตั้งแต่เมื่อช่วงเช้าเวลา 08.00 น.โดยเด็กทั้งสองคนได้เข้ามาวิ่งเล่นอยู่ภายในบริเวณลานจอดรถของห้าง จากนั้นได้เงียบหายไป เมื่อมาพบอีกครั้งก็เห็นทั้งสองคนมานอนหลับแน่นิ่งดังกล่าว คล้ายกับคนเมาสารเคมีอะไรบางอย่าง

จากนั้น นายโกศล พึ่งรัตนา อายุ 46 ปี เจ้าหน้าที่เทศกิจจากเทศบาลเมืองฉะเชิงเทราได้ประสานไปยังสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ให้เข้ามาช่วยดูแลนำไปตรวจหาสิ่งผิดปกติที่เกิดขึ้นในตัวเด็กชายทั้งสองคน จากนั้นมีเจ้าหน้าที่จากสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.ฉะเชิงเทรา เดินทางมาถึงพร้อม นำตัวเด็กชายทั้งสองไปตรวจหาสิ่งผิดปกติยังโรงพยาบาลเมืองฉะเชิงเทรา และเตรียมสอบถามหาสาเหตุเพื่อติดต่อหาญาติมารับตัวต่อไป

ขณะที่ น.ส.นุ่น (นามสมมุติ) อายุ 31 ปี แม่ค้าขายเสื้อผ้าอยู่ภายในบริเวณด้านข้างห้างดังกล่าว เล่าว่า ได้เคยพบเห็นเด็กชายบี ซึ่งเป็นบุตรชายของ น.ส.ติ๊ก (นามสมมติ) อายุประมาณ 26-27 ปี ซึ่งมีอาชีพขายบริการทางเพศอยู่ในโรงแรมแห่งหนึ่งที่บริเวณใกล้กับปากตรอกข้าวหลาม แต่ น.ส.ติ๊ก ไม่เคยเอาใจใส่บุตรชายเลยและไม่ได้เรียนหนังสือ โดยปล่อยให้เป็นเด็กเร่ร่อน อยู่ไปวันๆ จนชาวบ้านเห็นแล้วสงสาร ช่วยให้น้ำให้นม ให้เงินซื้อขนมมีชีวิตอยู่ไปวันๆ

“ขอวอนให้หน่วยงานผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้องช่วยมารับตัวเด็กทั้งสองไปที เพราะหากปล่อยให้อยู่เช่นนี้ต่อไป เด็กคงไม่มีอนาคต อยากให้นำไปเยียวยาบาดแผลของสังคม เพื่อให้เด็กได้มีอนาคตได้เรียนหนังสือ ก่อนที่จะกลายเป็นภาระหรือสร้างปัญหาให้แก่สังคมต่อไป” น.ส.นุ่น กล่าว

ก่อนหน้านี้ เด็กทั้งสองพยายามที่จะไปเรียนหนังสือด้วยตนเอง โดยแต่งตัวไปโรงเรียนที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง ใกล้กับสมาคมสงเคราะห์การกุศล จ.ฉะเชิงเทรา แต่มาระยะหลังไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น เด็กจึงหายไปและอยากวอนให้รัฐบาลใหม่ ช่วยเข้ามาแก้ไขต้นตอของปัญหาสังคม ซึ่งเชื่อว่า ปัญหาแบบนี้คงจะไม่มีเพียงที่ จ.ฉะเชิงเทรา เท่านั้นในจังหวัดอื่นๆ ก็คงมีแบบนี้อีก เช่นเดียวกัน