กาญจนบุรี - สั่งล่ามือปืนถล่มคาร์บิน อบต.เมืองกาญจน์ รอดตายหวุดหวิดเพราะก้มหลบกระสุน ประเด็นขัดแย้งการเมืองท้องถิ่นและเคยเป็นแกนนำชาวบ้านขับไล่เจ้าอาวาสและแม่ชีมาแล้ว
ผู้สื่อข่าว จ.กาญจนบุรี มีรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 19.00 น.ของวันที่ 4 ก.ค.54 ที่ผ่านมา พ.ต.อ.สมเดช ฐิตวัฒนะสกุล ผกก.สภ.เมืองกาญจนบุรี พร้อมด้วย พ.ต.ท.กิตติพงษ์ บุญรอด รอง ผกก.สส.สภ.เมืองกาญจนบุรี พ.ต.อ.ภัทรชัย กอสนาน ผกก.กสส.ภ.จ.กาญจนบุรี พ.ต.ท.พีระพจน์ ระหว่างบ้าน รอง ผกก.กสส.ภ.จ.กาญจนบุรี และ ร.ต.อ.มานะ สำราญวงษ์ หน.นปพ.กาญจนบุรี นำกำลังทั้งในและนอกเครื่องแบบรวม 30 นาย เดินทางไปสมทบกับกำลังของ ด.ต.ถนอมเกียรติ กาญจนรัตกุล หน.จุดตรวจแก่งเสี้ยน บริเวณถนนสายถ้ำขุนไกร-ห้วยด้วน หมู่ 5 ต.แก่งเสี้ยน หลังได้รับรายงานว่ามีการปิดล้อมคนร้ายก่อเหตุใช้อาวุธปืนสงครามยิงถล่มใส่รถนักการเมืองท้องถิ่นในพื้นที่
เมื่อคณะของ พ.ต.อ.สมเดช เดินทางถึงที่เกิดเหตุพบรถยนต์กระบะ อีซูซุ ดีแม็ค สีบรอนด์เงิน ทะเบียน บธ 2886 กาญจนบุรี จอดอยู่กลางถนนภายในหมู่บ้าน โดยที่ท้ายรถมีหลังคาผ้าใบเหมือนรถรับส่งนักเรียนทั่วๆ ไป ตรวจสอบพบว่าที่กระจกประตูด้านขวามีรอยกระสุนปืน 2 รู กระจกประตูด้านซ้ายมีรอยกระสุนปืน 2 รู ประตูด้านซ้ายมีรอยกระสุนปืน 1 รู และที่หลังคามีรอยกระสุนปืนอีก 1 รู ตรวจสอบรอบๆ ที่เกิดเหตุพบกระสุนปืนคาร์บินตกอยู่รวม 4 ปลอก จึงเก็บเอาไว้เป็นหลัก และยังพบระเบิดแบบขว้างไม่ทราบขนาดถูกพันด้วยเทปกาวสีดำอย่างแน่นหนา
จากการสอบสวนนายทองอยู่ ชาววังใหญ่ หรือที่ชาวบ้านเรียกติดปากว่า อบต.หมู อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 48 หมู่ 5 ต.แก่งเสี้ยน อ.เมือง จ.กาญจนบุรี เป็นเจ้าของรถคันดังกล่าว ซึ่งอยู่ในอาการตื่นตระหนก ให้การว่า ตนเป็นสมาชิก อบต.แก่งเสี้ยน และมีอาชีพขับรถรับส่งนักเรียน ก่อนเกิดเหตุตนไปรับนักเรียนจากโรงเรียนต่างๆ และไปส่งบ้านพักตามปกติ
จนกระทั่งเย็นได้ขับรถมาส่งนักเรียนชุดสุดท้ายภายในหมู่บ้านนายคอก ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่เกิดเหตุ เมื่อตนขับมาถึงปากทางเข้าหมู่บ้าน สังเกตพบชาย 2 คน นั่งซ้อนท้าย จยย.ฮอนด้าโนวา สีดำ 1 ใน 2 สวนหมวกกันน็อกสีขาว แต่ไม่ได้เอะใจ เมื่อตนไปส่งนักเรียนหมดแล้ว จึงกลับออกมาทางเดิม ปรากฏว่าเมื่อถึงครึ่งทางซึ่งเป็นทางเปลี่ยว 2 ข้างทางเป็นไปด้วยป่าละเมาะและกลางถนนมีฝ่ายน้ำล้น ทำให้ตนต้องชะลอรถขับช้า ๆ ปรากฏว่าคนร้ายซึ่งซุ่มอยู่ข้างทางได้ใช้ปืนยาวยิงใส่ 4 นัด ซ้อน แต่ตนหลบทัน ปรากฏว่าคนร้ายทำท่าจะยิงซ้ำชุดสอง ขณะเดียวกันได้มีรถกระบะบรรทุกผักชีออกมาจากหมู่บ้าน ทำให้คนร้ายตัดสินใจขึ้น จยย.หลบหนีเข้าไปในหมู่บ้านหลบหนีไป
ต่อมาเวลา 21.10 น. พ.ต.อ.สมเดช ฐิตวัฒนะสกุล ผกก.สภ.เมืองกาญจนบุรี ได้นำกำลังโอบล้อมพื้นที่เกิดเหตุและสั่งกระจายกำลังล้อมเส้นทางหนีคนร้าย เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวสามารถทะลุออก อ.บ่อพลอย อ.ท่าม่วง และ อ.พนมทวน ได้ โดยจากการปิดล้อมพบเสื้อยืดสีขาวตกอยู่ คาดว่าคนร้ายจะทิ้งเพื่อใส่เสื้อตัวใหม่อำพรางเจ้าหน้าที่ และพบระเบิดแบบขว้างไม่ทราบชนิด ถูกพันด้วยเทปกาวสีดำอย่างดี ห่างจากจุดเกิดเหตุราว 3 กม.คาดว่าเป็นของคนร้ายที่นำมาเตรียมใช้งานแต่มีคนขับรถยนต์ออมาจากหมู่บ้าน ทำให้คนร้ายตัดสินใจหลบหนี โดยเจ้าหน้าที่ได้ติดตามไล่ล่าอยู่
พ.ต.อ.สมเดช ฐิตวัฒนะสกุล ผกก.สภ.เมืองกาญจนบุรี เปิดเผยว่า เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่าคนร้ายมาดักรอนายทองอยู่ เนื่องจากติดตามความเคลื่อนไหวของนายทองอยู่ มาหลายวัน จนทราบว่านายทองอยู่จะขับรถมาส่งนักเรียนชุดสุดท้ายที่หมู่บ้านนายคอก ซึ่งเป็นพื้นที่เปลี่ยวง่ายแก่การลงมือ จึงมาดักรอสังหารดังกล่าว แต่เกิดพลาดท่าพอจะยิงซ้ำก็มีชาวบ้านขับรถยนต์มาเห็นจึงหลบหนีไป
มีรายงานว่า คดีดังกล่าวเป็นคดีที่คนร้ายใช้อาวุธสงครามและระเบิด ทาง พ.ต.อ.สมเดช จึงรายงานด่วนให้ พล.ต.ต.โชต วีรเดชกำแหง ผบก.ภ.จ.กาญจนบุรี และ พล.ต.ต.เรวัช กลิ่นเกษร รอง ผบช.ภ.7 ทราบแล้ว มีคำสั่งให้ตำรวจปิดล้อมเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะหลบหนี และสั่งตำรวจท้องที่ใกล้เคียงตั้งจุดตรวจรถทุกคัน แต่ยังไม่มีวี่แววคนร้าย โดยเบื้องต้นสาเหตุตำรวจมุ่งประเด็นการขัดแย้งการเมืองท้องถิ่น
ผู้สื่อข่าว จ.กาญจนบุรี มีรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 19.00 น.ของวันที่ 4 ก.ค.54 ที่ผ่านมา พ.ต.อ.สมเดช ฐิตวัฒนะสกุล ผกก.สภ.เมืองกาญจนบุรี พร้อมด้วย พ.ต.ท.กิตติพงษ์ บุญรอด รอง ผกก.สส.สภ.เมืองกาญจนบุรี พ.ต.อ.ภัทรชัย กอสนาน ผกก.กสส.ภ.จ.กาญจนบุรี พ.ต.ท.พีระพจน์ ระหว่างบ้าน รอง ผกก.กสส.ภ.จ.กาญจนบุรี และ ร.ต.อ.มานะ สำราญวงษ์ หน.นปพ.กาญจนบุรี นำกำลังทั้งในและนอกเครื่องแบบรวม 30 นาย เดินทางไปสมทบกับกำลังของ ด.ต.ถนอมเกียรติ กาญจนรัตกุล หน.จุดตรวจแก่งเสี้ยน บริเวณถนนสายถ้ำขุนไกร-ห้วยด้วน หมู่ 5 ต.แก่งเสี้ยน หลังได้รับรายงานว่ามีการปิดล้อมคนร้ายก่อเหตุใช้อาวุธปืนสงครามยิงถล่มใส่รถนักการเมืองท้องถิ่นในพื้นที่
เมื่อคณะของ พ.ต.อ.สมเดช เดินทางถึงที่เกิดเหตุพบรถยนต์กระบะ อีซูซุ ดีแม็ค สีบรอนด์เงิน ทะเบียน บธ 2886 กาญจนบุรี จอดอยู่กลางถนนภายในหมู่บ้าน โดยที่ท้ายรถมีหลังคาผ้าใบเหมือนรถรับส่งนักเรียนทั่วๆ ไป ตรวจสอบพบว่าที่กระจกประตูด้านขวามีรอยกระสุนปืน 2 รู กระจกประตูด้านซ้ายมีรอยกระสุนปืน 2 รู ประตูด้านซ้ายมีรอยกระสุนปืน 1 รู และที่หลังคามีรอยกระสุนปืนอีก 1 รู ตรวจสอบรอบๆ ที่เกิดเหตุพบกระสุนปืนคาร์บินตกอยู่รวม 4 ปลอก จึงเก็บเอาไว้เป็นหลัก และยังพบระเบิดแบบขว้างไม่ทราบขนาดถูกพันด้วยเทปกาวสีดำอย่างแน่นหนา
จากการสอบสวนนายทองอยู่ ชาววังใหญ่ หรือที่ชาวบ้านเรียกติดปากว่า อบต.หมู อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 48 หมู่ 5 ต.แก่งเสี้ยน อ.เมือง จ.กาญจนบุรี เป็นเจ้าของรถคันดังกล่าว ซึ่งอยู่ในอาการตื่นตระหนก ให้การว่า ตนเป็นสมาชิก อบต.แก่งเสี้ยน และมีอาชีพขับรถรับส่งนักเรียน ก่อนเกิดเหตุตนไปรับนักเรียนจากโรงเรียนต่างๆ และไปส่งบ้านพักตามปกติ
จนกระทั่งเย็นได้ขับรถมาส่งนักเรียนชุดสุดท้ายภายในหมู่บ้านนายคอก ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่เกิดเหตุ เมื่อตนขับมาถึงปากทางเข้าหมู่บ้าน สังเกตพบชาย 2 คน นั่งซ้อนท้าย จยย.ฮอนด้าโนวา สีดำ 1 ใน 2 สวนหมวกกันน็อกสีขาว แต่ไม่ได้เอะใจ เมื่อตนไปส่งนักเรียนหมดแล้ว จึงกลับออกมาทางเดิม ปรากฏว่าเมื่อถึงครึ่งทางซึ่งเป็นทางเปลี่ยว 2 ข้างทางเป็นไปด้วยป่าละเมาะและกลางถนนมีฝ่ายน้ำล้น ทำให้ตนต้องชะลอรถขับช้า ๆ ปรากฏว่าคนร้ายซึ่งซุ่มอยู่ข้างทางได้ใช้ปืนยาวยิงใส่ 4 นัด ซ้อน แต่ตนหลบทัน ปรากฏว่าคนร้ายทำท่าจะยิงซ้ำชุดสอง ขณะเดียวกันได้มีรถกระบะบรรทุกผักชีออกมาจากหมู่บ้าน ทำให้คนร้ายตัดสินใจขึ้น จยย.หลบหนีเข้าไปในหมู่บ้านหลบหนีไป
ต่อมาเวลา 21.10 น. พ.ต.อ.สมเดช ฐิตวัฒนะสกุล ผกก.สภ.เมืองกาญจนบุรี ได้นำกำลังโอบล้อมพื้นที่เกิดเหตุและสั่งกระจายกำลังล้อมเส้นทางหนีคนร้าย เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวสามารถทะลุออก อ.บ่อพลอย อ.ท่าม่วง และ อ.พนมทวน ได้ โดยจากการปิดล้อมพบเสื้อยืดสีขาวตกอยู่ คาดว่าคนร้ายจะทิ้งเพื่อใส่เสื้อตัวใหม่อำพรางเจ้าหน้าที่ และพบระเบิดแบบขว้างไม่ทราบชนิด ถูกพันด้วยเทปกาวสีดำอย่างดี ห่างจากจุดเกิดเหตุราว 3 กม.คาดว่าเป็นของคนร้ายที่นำมาเตรียมใช้งานแต่มีคนขับรถยนต์ออมาจากหมู่บ้าน ทำให้คนร้ายตัดสินใจหลบหนี โดยเจ้าหน้าที่ได้ติดตามไล่ล่าอยู่
พ.ต.อ.สมเดช ฐิตวัฒนะสกุล ผกก.สภ.เมืองกาญจนบุรี เปิดเผยว่า เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่าคนร้ายมาดักรอนายทองอยู่ เนื่องจากติดตามความเคลื่อนไหวของนายทองอยู่ มาหลายวัน จนทราบว่านายทองอยู่จะขับรถมาส่งนักเรียนชุดสุดท้ายที่หมู่บ้านนายคอก ซึ่งเป็นพื้นที่เปลี่ยวง่ายแก่การลงมือ จึงมาดักรอสังหารดังกล่าว แต่เกิดพลาดท่าพอจะยิงซ้ำก็มีชาวบ้านขับรถยนต์มาเห็นจึงหลบหนีไป
มีรายงานว่า คดีดังกล่าวเป็นคดีที่คนร้ายใช้อาวุธสงครามและระเบิด ทาง พ.ต.อ.สมเดช จึงรายงานด่วนให้ พล.ต.ต.โชต วีรเดชกำแหง ผบก.ภ.จ.กาญจนบุรี และ พล.ต.ต.เรวัช กลิ่นเกษร รอง ผบช.ภ.7 ทราบแล้ว มีคำสั่งให้ตำรวจปิดล้อมเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะหลบหนี และสั่งตำรวจท้องที่ใกล้เคียงตั้งจุดตรวจรถทุกคัน แต่ยังไม่มีวี่แววคนร้าย โดยเบื้องต้นสาเหตุตำรวจมุ่งประเด็นการขัดแย้งการเมืองท้องถิ่น