ศูนย์ข่าวขอนแก่น- รองผบช.ภ.4 มั่นใจแข่งเลือกตั้ง 12 จังหวัดอีสานบนไม่รุนแรง แต่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษโค้งสุดท้ายหาเสียงก่อนหย่อนบัตร 3 ก.ค.ขณะที่ผู้สมัคร ส.ส.ร้องขอตำรวจคุ้มกันราว 70 ราย อย่างไรก็ตาม หลังเลือกตั้งเสร็จอาจมีเหตุการณ์ไม่ปกติจากผู้สนับสนุนผู้สมัครพรรคการเมืองที่พลาดหวัง
เมื่อเวลา 10.30 น.วันนี้ (29 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุมไชยเวช กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 จ.ขอนแก่น พล.ต.ต.บุญเลิศ ใจประดิษฐ รองผบช.ภ.4 ประชุมร่วมกับ ศูนย์อำนวยการเลือกตั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ ตำรวจภูธรจังหวัดทั้ง 12 จังหวัดในภาคอีสานตอนบน ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ เพื่อสรุปผลการดำเนินงานและความพร้อมในการดูแลการเลือกตั้งวันที่ 3 ก.ค.นี้ โดยเฉพาะในช่วงโค้งสุดท้ายของการหาเสียงเลือกตั้ง ส.ส.
พล.ต.ต.บุญเลิศ ใจประดิษฐ รองผบช.ภ.4 กล่าวว่า มั่นใจการแข่งขันเลือกตั้งในพื้นที่ภาคอีสานจะไม่รุนแรง เพราะผู้สมัครส่วนใหญ่ต่างรู้จักกัน บางจังหวัดผู้สมัครเป็นเครือญาติกันด้วยซ้ำ แต่การทำงานของตำรวจจะเน้นหนักในเรื่องการป้องปรามอาชญากรรม และการสืบสวนหาข่าวเกี่ยวกับการทุจริตเลือกตั้ง เพราะช่วงหาเสียงโค้งสุดท้ายนี้อะไรก็สามารถที่จะเกิดขึ้นได้ ดังนั้นตำรวจจะต้องกระตือรือร้นและทำงานกันอย่างหนัก
ทั้งนี้ หากท้องที่ใดมีเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการเมือง ทั้งในระดับท้องถิ่นหรือระดับชาติก็จะต้อง รายงานให้ ศลต.ภ.4 ได้ทราบโดยทันที สำหรับความกังวลเรื่องมือปืนรับจ้างนั้น ยืนยันว่าขณะนี้ยังคงไม่เข้ามาในพื้นที่
ทุกมาตรการและขั้นตอนการดำเนินการนั้น ได้กำชับและเน้นย้ำให้ตำรวจทุกท้องที่ทำงานกันอย่างหนัก ซึ่งในวันเลือกตั้ง 3 ก.ค.นี้ ทุกหน่วยเลือกตั้งได้จัดกำลังตำรวจประจำโดยทั้งหมด ซึ่งจะต้องใช้กำลังมากถึง 100,000 นาย และตลอดทั้งสัปดาห์นี้ตำรวจที่มีหน้าที่ในเรื่องของการจัดการหรือเตรียมการเลือกตั้ง แม้กระทั่งชุดสืบสวนและงานจราจร จะต้องห้ามลาห้ามขาดโดยเด็ดขาดไม่ว่ากรณีใดๆ
ในส่วนของการร้องขอกำลังตำรวจคุ้มกันความปลอดภัยผู้สมัคร รองผบช.ภ.4 ระบุว่า ขณะนี้ผู้สมัคร จากทุกพรรคการเมืองในพื้นที่ 12 จังหวัดอีสานตอนบนได้ขอตำรวจคุ้มกันรวมแล้วประมาณ 70 คน ขณะที่การรับแจ้งเรื่องการทุจริตเลือกตั้งนั้น มีการลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานแล้วบางส่วนทั้งเรื่องของการแจกจ่ายซีดี ใส่ร้ายผู้สมัคร ในเขต จ.บึงกาฬ, หนองคายและขอนแก่น ส่วนการใส่ร้ายป้ายสีหรือการทำลายป้ายก็มีรายงานมาทุกจังหวัด
อย่างไรก็ตาม ยังคงห่วงเรื่องหลังเสร็จสิ้นการเลือกตั้ง โดยเฉพาะผู้ให้การสนับสนุนผู้สมัครและพรรคการเมือง ที่อาจเกิดเหตุการณ์ความรุนแรงเกิดขึ้นตามมาได้ ทั้งนี้ ตำรวจภูธรภาค 4 ได้เตรียมพร้อม ในการรับมือและการคุ้มครองบุคคลสำคัญไว้แล้วอย่างเต็มที่เช่นกัน
เมื่อเวลา 10.30 น.วันนี้ (29 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุมไชยเวช กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 จ.ขอนแก่น พล.ต.ต.บุญเลิศ ใจประดิษฐ รองผบช.ภ.4 ประชุมร่วมกับ ศูนย์อำนวยการเลือกตั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ ตำรวจภูธรจังหวัดทั้ง 12 จังหวัดในภาคอีสานตอนบน ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ เพื่อสรุปผลการดำเนินงานและความพร้อมในการดูแลการเลือกตั้งวันที่ 3 ก.ค.นี้ โดยเฉพาะในช่วงโค้งสุดท้ายของการหาเสียงเลือกตั้ง ส.ส.
พล.ต.ต.บุญเลิศ ใจประดิษฐ รองผบช.ภ.4 กล่าวว่า มั่นใจการแข่งขันเลือกตั้งในพื้นที่ภาคอีสานจะไม่รุนแรง เพราะผู้สมัครส่วนใหญ่ต่างรู้จักกัน บางจังหวัดผู้สมัครเป็นเครือญาติกันด้วยซ้ำ แต่การทำงานของตำรวจจะเน้นหนักในเรื่องการป้องปรามอาชญากรรม และการสืบสวนหาข่าวเกี่ยวกับการทุจริตเลือกตั้ง เพราะช่วงหาเสียงโค้งสุดท้ายนี้อะไรก็สามารถที่จะเกิดขึ้นได้ ดังนั้นตำรวจจะต้องกระตือรือร้นและทำงานกันอย่างหนัก
ทั้งนี้ หากท้องที่ใดมีเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการเมือง ทั้งในระดับท้องถิ่นหรือระดับชาติก็จะต้อง รายงานให้ ศลต.ภ.4 ได้ทราบโดยทันที สำหรับความกังวลเรื่องมือปืนรับจ้างนั้น ยืนยันว่าขณะนี้ยังคงไม่เข้ามาในพื้นที่
ทุกมาตรการและขั้นตอนการดำเนินการนั้น ได้กำชับและเน้นย้ำให้ตำรวจทุกท้องที่ทำงานกันอย่างหนัก ซึ่งในวันเลือกตั้ง 3 ก.ค.นี้ ทุกหน่วยเลือกตั้งได้จัดกำลังตำรวจประจำโดยทั้งหมด ซึ่งจะต้องใช้กำลังมากถึง 100,000 นาย และตลอดทั้งสัปดาห์นี้ตำรวจที่มีหน้าที่ในเรื่องของการจัดการหรือเตรียมการเลือกตั้ง แม้กระทั่งชุดสืบสวนและงานจราจร จะต้องห้ามลาห้ามขาดโดยเด็ดขาดไม่ว่ากรณีใดๆ
ในส่วนของการร้องขอกำลังตำรวจคุ้มกันความปลอดภัยผู้สมัคร รองผบช.ภ.4 ระบุว่า ขณะนี้ผู้สมัคร จากทุกพรรคการเมืองในพื้นที่ 12 จังหวัดอีสานตอนบนได้ขอตำรวจคุ้มกันรวมแล้วประมาณ 70 คน ขณะที่การรับแจ้งเรื่องการทุจริตเลือกตั้งนั้น มีการลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานแล้วบางส่วนทั้งเรื่องของการแจกจ่ายซีดี ใส่ร้ายผู้สมัคร ในเขต จ.บึงกาฬ, หนองคายและขอนแก่น ส่วนการใส่ร้ายป้ายสีหรือการทำลายป้ายก็มีรายงานมาทุกจังหวัด
อย่างไรก็ตาม ยังคงห่วงเรื่องหลังเสร็จสิ้นการเลือกตั้ง โดยเฉพาะผู้ให้การสนับสนุนผู้สมัครและพรรคการเมือง ที่อาจเกิดเหตุการณ์ความรุนแรงเกิดขึ้นตามมาได้ ทั้งนี้ ตำรวจภูธรภาค 4 ได้เตรียมพร้อม ในการรับมือและการคุ้มครองบุคคลสำคัญไว้แล้วอย่างเต็มที่เช่นกัน
