xs
xsm
sm
md
lg

เหยียบหน้า! ตร.โคราชซ้ำสอง คนร้ายบุกปาอิฐถล่มยับบ้าน “พธม.” หน้าโรงพักอีก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายสมชาย ลิขิตวรสิริ หรือ “ชัย โคราช”  แกนนำกลุ่ม พธม. โคราช ชี้จุดคนร้ายปาก้อนอิฐถล่มประตูกระจกหน้าบ้านแตกเสียหายยับครั้งที่ 2 ตรงข้าม สภ.เมืองนครราชสีมา ถ.สรรพสิทธิ์ อ.เมือง จ.นครราชสีมา วันนี้ ( 27 มิ.ย.)
ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- เหยียบหน้า! ตร.โคราช ซ้ำสอง คนร้ายสวมหมวกไอ้โม่ง ขับ จยย.บุกปาก้อนอิฐถล่มบ้านแกนนำ พธม.ติดป้าย “โหวตโน” หน้าโรงพัก อีก หลังก่อเหตุครั้งแรกเมื่อสัปดาห์ที่แล้วคดีไม่คืบ เผย นำประตู กระจกมาติดตั้งใหม่ได้ 4 วัน คนร้ายเหิมกลับมาปาแตกกลางดึก วอน ตร.เร่งสางคดี ซัด ปชช.ไร้ความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สิน บ้านอยู่หน้าโรงพักยังถูกคนร้ายก่อเหตุอย่างไม่เกรงกลัว ด้าน “ผกก.” ชี้ ไม่เกี่ยวการเมือง คาดขัดแย้งส่วนตัว สั่งเพิ่มสายตรวจเข้ม

วันนี้ (27 มิ.ย.) ที่ สภ.เมืองนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายสมชาย ลิขิตวรสิริ หรือ “ชัย โคราช” อายุ 53 ปี แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) จังหวัดนครราชสีมา อยู่บ้านเลขที่ 183 ถ.สรรพสิทธิ์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ตรงข้าม สภ.เมืองนครราชสีมา ได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา หลังถูกคนร้ายปาก้อนอิฐขนาดใหญ่ เข้าใส่ประตูกระจกหน้าบ้านได้รับความเสียหายเป็นครั้งที่ 2 เมื่อคืนนี้ (27 มิ.ย.) เวลา 02.00 น.หลังจากเพิ่งเกิดเหตุครั้งแรกคืนวันที่ 19 มิ.ย.ที่ผ่านมา และคดียังไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด

ต่อมาเวลา 09.00 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา ได้เข้าตรวจสอบจุดที่เกิดเหตุ ซึ่งเปิดเป็นสำนักงานโรงเรียนสอนขับรถยนต์ “ชิตชัย สอนขับรถ” และเจ้าบ้านได้ติดป้ายข้อความรณรงค์โหวตโนขนาดเล็กอยู่จำนวนหลายป้าย พบก้อนอิฐตัวหนอนปูทางเท้าขนาดใหญ่จำนวน 2 ก้อนตกอยู่ แรงกระแทกส่งผลให้ประตูกระจกด้านหน้า 2 บาน แตกเสียหายเป็นรูขนาดใหญ่ และโซฟาภายในบ้านได้รับความเสียหาย เจ้าหน้าที่จึงเก็บก้อนหินไว้เป็นหลักฐาน

นายสมชาย ลิขิตวรสิริ แกนนำกลุ่ม พธม.จังหวัดนครราชสีมา ผู้เสียหาย กล่าวว่า เหตุการณ์กลุ่มคนร้ายปาก้อนอิฐถล่มบ้านตนเกิดขึ้นซ้ำรอยเป็นครั้งที่สองติดต่อกันภายในสัปดาห์เดียว ซึ่งในครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 19 มิ.ย.ที่ผ่านมา ได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองไว้แล้ว แต่คดีก็ไม่มีความคืบหน้าอะไร และตนได้เข้าไปแจ้งกับทางผู้กำกับการ สภ.เมืองนครราชสีมา ไปแล้ว ว่า ขนาดบ้านอยู่หน้าสถานีตำรวจ ยังไม่มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์ ขอให้ทางตำรวจจัดกำลังมาดูแลความปลอดภัย เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก

ต่อมาวันที่ 23 มิ.ย.ตนได้นำประตูกระจกบานใหม่มาติดตั้งและอยู่ได้แค่ 4 วัน เมื่อคืนนี้ (27 มิ.ย.) เวลาประมาณ 02.00 น.คนร้ายก็ขี่จักรยานยนต์สวมหมวกไอ้โม่งสีดำ ใช้อิฐตัวหนอนขว้างเข้าใส่ประตูกระจกหน้าบ้านแตกเสียหายอีกเป็นครั้งที่ 2 ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในระยะเวลาที่ไม่ห่างจากครั้งแรกเลย และคนร้ายก่อเหตุโดยไม่ได้เกรงกลัวเจ้าหน้าที่ตำรวจแม้แต่น้อย

“ทุกวันนี้ไม่รู้ว่าประชาชนจะหันหน้าไปพึ่งใครได้ เพราะขนาดบ้านอยู่ติดกับโรงพักยังไม่มีความปลอดภัย ต้องมาเจอเหตุการณ์เช่นนี้อยู่บ่อยครั้ง ฉะนั้น จึงอยากเรียกร้องให้ตำรวจทำงานกันบ้าง ลงมาดูแลความทุกข์ของประชาชนบ้าง อย่าปล่อยให้เหตุการณ์ความไม่ปลอดภัยเช่นนี้เกิดขึ้นได้อีก ต่อไปไม่รู้จะมีความปลอดภัยต่อชีวิตหรือไม่” นายสมชาย กล่าว

นายสมชาย กล่าวยืนยันว่า ที่ผ่านมา ไม่เคยมีปัญหากับใคร และการเข้าเคลื่อนไหวกับกลุ่มพันธมิตรฯ ก็ทำมานานแล้ว รวมถึงการร่วมรณรงค์โหวตโนในการเลือกตั้ง ส.ส.ครั้งนี้ก็เป็นการสู้ตามวิถีทางประชาธิปไตยหากเป็นเรื่องการเมืองไม่น่าจะทำรุนแรงขนาดนี้ หรือทำซ้ำซากเช่นนี้ และหลังเกิดเหตุครั้งแรกขึ้นตนได้เก็บป้ายคัตเอาท์รณรงค์โหวตโนขนาดใหญ่ คือ “อย่าปล่อยสัตว์เข้าสภา” และ “3 ก.ค.วันตบโหลกนักการเมือง” เข้าไปไว้ในบ้านไม่ได้เอาออกมาติดตั้งโชว์หน้าร้านอีก แต่ยังมาเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นซ้ำอีก

“วันนี้จึงไม่ทราบว่าสาเหตุที่เกิดขึ้นมาจากอะไร อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบหาคนร้ายมาลงโทษเพื่อจะได้มีความมั่นใจในการดำเนินชีวิตตามปกติต่อไป” นายสมชาย กล่าว

ด้าน พ.ต.อ.ผดุงเกียรติ ศิริพรวิวัฒน์ ผู้กำกับการ สภ.เมืองนครราชสีมา เปิดเผยว่า ได้สอบปากคำพยานไปแล้วหลายปาก และจากการพูดคุยกับ นายสมชาย เจ้าของบ้าน ให้การว่า ผู้ที่มาเช่าบ้านเปิดโรงเรียนสอนขับรถ ซึ่งเป็นจุดที่ถูกปาก้อนหินนั้น ก็มีปัญหากับคนอื่นในเรื่องหนี้สินอยู่บ้าง ซึ่งเจ้าหน้าที่จะทำการสอบสวนเพื่อหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดี และคาดว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับการเมือง แม้ นายสมชาย จะร่วมเคลื่อนไหวกับกลุ่มพันธมิตรฯ ก็ตาม คาดว่า น่ามาจากเรื่องส่วนตัวมากกว่า อาจเป็นเรื่องส่วนตัวของคนมาเช่าบ้าน หรือตัวนายสมชายเอง จะต้องทำการสืบสวนต่อไป

อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นได้สั่งเพิ่มมาตรการในการตรวจตรา โดยให้สายตรวจเวียนมายังจุดที่เกิดเหตุบ่อยขึ้น เพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอยขึ้นได้อีก





กำลังโหลดความคิดเห็น