จันทบุรี -เกิดพายุฝนตกหนัก และลมกระโชกแรง ส่งผลให้บ้านชุมชนย่อยที่ 7 จำนวน 5 หลังคาเรือน ถูกแรงลมพัดกระเบื้องและสังกะสีปลิวหายไป ขณะที่คณะผู้บริหารเทศบาลเมืองจันทบุรี ลงพื้นที่ให้การช่วยเหลือและตรวจระดับน้ำในแม่น้ำจันทบุรี เพื่อเฝ้าระวังน้ำป่าไหลหลากแก่ประชาชนในพื้นที่ลุ่ม
วันนี้ (27 มิ.ย.) นายจักร์เพชร จิตงามสุจริต นายกเทศมนตรีเมืองจันทบุรี พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร สมาชิกสภาเทศบาล และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจระดับน้ำในแม่น้ำจันทบุรี เชิงสะพานวัดโรมันคาทอลิก เชิงสะพานวัดจันทนาราม เนื่องจากเมื่อเช้านี้ได้เกิดฝนตกหนัก ทำให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำจันทบุรี มีปริมาณสูงขึ้น
ด้วยความห่วงใยประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย คณะผู้บริหารเทศบาลเมืองจันทบุรี จึงลงพื้นที่ตรวจระดับน้ำในแม่น้ำจันทบุรี พร้อมเฝ้าระวังน้ำป่าไหลหลากเข้าเขตพื้นที่ลุ่มริมแม่น้ำจันทบุรี ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศว่า ขณะนี้จังหวัดจันทบุรี มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดจันทบุรี และ ตราด อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศา ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร
จึงขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณพื้นที่เสียงภัยที่ราบลุ่ม และบริเวณที่ลาดเชิงเขา ระมัดระวังอันตรายจากสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากในระยะนี้ พร้อมรับสถานการณ์ ตลอด 24 ชั่วโมง โดยให้ประชาชนสังเกตการณ์จากธงตรวจวัดระดับน้ำ หากเป็นธงสีเขียวระดับน้ำปกติ ธงสีเหลืองให้เฝ้าระวัง และหากธงสีแดงระดับวิกฤตให้ประชาชนอพยพทันที เทศบาลจะแจ้งเตือนภัยประชาชนในพื้นที่ทราบต่อไป
สำหรับปริมาณน้ำในจุดเสี่ยงต่างๆ ในวันนี้ สะพานวัดกระทิง อำเภอเขาคิชฌกูฏ วัดได้ 3 เมตร จุดวิกฤตอยู่ที่ 7 เมตร ฝายท้าระม้า อำเภอมะขาม วัดได้ 4.70 เมตร จุดวิกฤตอยู่ที่ 8 เมตร ฝายยางจันทบุรี วัดได้ 2.20 เมตร จุดวิกฤตอยู่ที่ 5.50 เมตร และแม่น้ำจันทบุรี อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี วัดได้ 2.82 เมตร จุดวิกฤตอยู่ที่ 3.45 เมตร จากนั้นคณะผู้บริหาร แสดงความห่วงใยประชาชนในหมู่บ้านประกาศ ชุมชนย่อยที่ 12 ซอยพระยาตรัง ที่อดีตเคยได้รับความเดือดร้อนในเรื่องระบบท่อระบายน้ำ
ทั้งนี้ ปัจจุบันเทศบาลเมืองจันทบุรี ดำเนินการขุดลอกท่อเพื่อให้น้ำไหลได้เป็นปกติ ประชาชนได้รับความสะดวกมากยิ่งขึ้น โดยเทศบาลเมืองจันทบุรี ได้เตรียมพร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พร้อมเครื่องมือเครื่องใช้ ตามแผนช่วยเหลือผู้ประสบความเดือดร้อน สำหรับน้ำในแม่น้ำจันทบุรี เทศบาล ได้จัดเจ้าหน้าที่ พร้อมเรือดับเพลิงไว้ประจำที่บริเวณเชิงสะพานวัดจันทนาราม ฝั่งเทศบาล ทำหน้าที่รายงานระดับน้ำในแม่น้ำจันทบุรี ทุกระยะ เพื่อความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ลุ่มและพื้นที่เสี่ยงภัยในระยะนี้
นอกจากนี้ เมื่อเช้าได้เกิดพายุฝนและลมกรรโชกแรงส่งผลให้บ้านเรือน จำนวน 5 หลังคาเรือนในชุมชนย่อยที่ 7 ในเขตเทศบาลเมืองจันทบุรีได้รับความเดือดร้อนจากพายุฝนที่ตกหนัก และลมกระโชกแรงพัดกระเบื้องหลังคา และสังกะสีปลิวหายไป ทางเทศบาลเมืองจันทบุรีจึงได้ลงพื้นที่ให้การช่วยเหลือโดยการมอบกระเบื้องให้แก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุพายุฝนและลมกระโชกแรง
โดย นายประวุฒิ จิตงามสุจริต รองนายกเทศมนตรีเมืองจันทบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่ ได้ลงพื้นที่มอบกระเบื้องให้แก่ผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุพายุฝน ณ ซอยอมร ชุมชนย่อยที่ 7 จำนวน 5 หลังคาเรือน ได้รับความเสียหายจากต้นไม้โดนพายุฝนหักทับใส่หลังคา และลมกระโชกแรงพัดกระเบื้อหลังตาและสังกะสีปลิวหายไป โดยผู้บริหาร ได้รับข้อมูลเบื้องต้น จึงลงพื้นที่ตรวจสอบ พร้อมมอบสังกะสี ช่วยชาวบ้านที่ประสบภัยเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้น
และในช่วงเวลานี้เข้าสู่ฤดูฝน บางครั้งลมกระโชกแรง ก็อยากให้ประชาชนได้โปรดตรวจสอบหลังคาบ้านว่ามีสภาพสมบูรณ์หรือไม่ รวมถึงต้นไม้ใหญ่ให้ตัดแต่งกิ่งให้เรียบร้อยเพื่อไม่ให้โค่นล้มและเป็นอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สิน แต่หากต้องการความช่วยเหลือ สามารถโทรศัพท์แจ้งเรื่องได้ที่ หมายเลข 199 หรือ 039-311 333 หรือกองสวัสดิการสังคม เทศบาลจันทบุรีได้ในวันและเวลาราชการ
วันนี้ (27 มิ.ย.) นายจักร์เพชร จิตงามสุจริต นายกเทศมนตรีเมืองจันทบุรี พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร สมาชิกสภาเทศบาล และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจระดับน้ำในแม่น้ำจันทบุรี เชิงสะพานวัดโรมันคาทอลิก เชิงสะพานวัดจันทนาราม เนื่องจากเมื่อเช้านี้ได้เกิดฝนตกหนัก ทำให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำจันทบุรี มีปริมาณสูงขึ้น
ด้วยความห่วงใยประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย คณะผู้บริหารเทศบาลเมืองจันทบุรี จึงลงพื้นที่ตรวจระดับน้ำในแม่น้ำจันทบุรี พร้อมเฝ้าระวังน้ำป่าไหลหลากเข้าเขตพื้นที่ลุ่มริมแม่น้ำจันทบุรี ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศว่า ขณะนี้จังหวัดจันทบุรี มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดจันทบุรี และ ตราด อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 31-34 องศา ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร
จึงขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณพื้นที่เสียงภัยที่ราบลุ่ม และบริเวณที่ลาดเชิงเขา ระมัดระวังอันตรายจากสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากในระยะนี้ พร้อมรับสถานการณ์ ตลอด 24 ชั่วโมง โดยให้ประชาชนสังเกตการณ์จากธงตรวจวัดระดับน้ำ หากเป็นธงสีเขียวระดับน้ำปกติ ธงสีเหลืองให้เฝ้าระวัง และหากธงสีแดงระดับวิกฤตให้ประชาชนอพยพทันที เทศบาลจะแจ้งเตือนภัยประชาชนในพื้นที่ทราบต่อไป
สำหรับปริมาณน้ำในจุดเสี่ยงต่างๆ ในวันนี้ สะพานวัดกระทิง อำเภอเขาคิชฌกูฏ วัดได้ 3 เมตร จุดวิกฤตอยู่ที่ 7 เมตร ฝายท้าระม้า อำเภอมะขาม วัดได้ 4.70 เมตร จุดวิกฤตอยู่ที่ 8 เมตร ฝายยางจันทบุรี วัดได้ 2.20 เมตร จุดวิกฤตอยู่ที่ 5.50 เมตร และแม่น้ำจันทบุรี อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี วัดได้ 2.82 เมตร จุดวิกฤตอยู่ที่ 3.45 เมตร จากนั้นคณะผู้บริหาร แสดงความห่วงใยประชาชนในหมู่บ้านประกาศ ชุมชนย่อยที่ 12 ซอยพระยาตรัง ที่อดีตเคยได้รับความเดือดร้อนในเรื่องระบบท่อระบายน้ำ
ทั้งนี้ ปัจจุบันเทศบาลเมืองจันทบุรี ดำเนินการขุดลอกท่อเพื่อให้น้ำไหลได้เป็นปกติ ประชาชนได้รับความสะดวกมากยิ่งขึ้น โดยเทศบาลเมืองจันทบุรี ได้เตรียมพร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พร้อมเครื่องมือเครื่องใช้ ตามแผนช่วยเหลือผู้ประสบความเดือดร้อน สำหรับน้ำในแม่น้ำจันทบุรี เทศบาล ได้จัดเจ้าหน้าที่ พร้อมเรือดับเพลิงไว้ประจำที่บริเวณเชิงสะพานวัดจันทนาราม ฝั่งเทศบาล ทำหน้าที่รายงานระดับน้ำในแม่น้ำจันทบุรี ทุกระยะ เพื่อความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ลุ่มและพื้นที่เสี่ยงภัยในระยะนี้
นอกจากนี้ เมื่อเช้าได้เกิดพายุฝนและลมกรรโชกแรงส่งผลให้บ้านเรือน จำนวน 5 หลังคาเรือนในชุมชนย่อยที่ 7 ในเขตเทศบาลเมืองจันทบุรีได้รับความเดือดร้อนจากพายุฝนที่ตกหนัก และลมกระโชกแรงพัดกระเบื้องหลังคา และสังกะสีปลิวหายไป ทางเทศบาลเมืองจันทบุรีจึงได้ลงพื้นที่ให้การช่วยเหลือโดยการมอบกระเบื้องให้แก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุพายุฝนและลมกระโชกแรง
โดย นายประวุฒิ จิตงามสุจริต รองนายกเทศมนตรีเมืองจันทบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่ ได้ลงพื้นที่มอบกระเบื้องให้แก่ผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุพายุฝน ณ ซอยอมร ชุมชนย่อยที่ 7 จำนวน 5 หลังคาเรือน ได้รับความเสียหายจากต้นไม้โดนพายุฝนหักทับใส่หลังคา และลมกระโชกแรงพัดกระเบื้อหลังตาและสังกะสีปลิวหายไป โดยผู้บริหาร ได้รับข้อมูลเบื้องต้น จึงลงพื้นที่ตรวจสอบ พร้อมมอบสังกะสี ช่วยชาวบ้านที่ประสบภัยเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้น
และในช่วงเวลานี้เข้าสู่ฤดูฝน บางครั้งลมกระโชกแรง ก็อยากให้ประชาชนได้โปรดตรวจสอบหลังคาบ้านว่ามีสภาพสมบูรณ์หรือไม่ รวมถึงต้นไม้ใหญ่ให้ตัดแต่งกิ่งให้เรียบร้อยเพื่อไม่ให้โค่นล้มและเป็นอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สิน แต่หากต้องการความช่วยเหลือ สามารถโทรศัพท์แจ้งเรื่องได้ที่ หมายเลข 199 หรือ 039-311 333 หรือกองสวัสดิการสังคม เทศบาลจันทบุรีได้ในวันและเวลาราชการ