ศูนย์ข่าวศรีราชา - กองทัพเรือจัดโครงการรวมใจไทยเป็นหนึ่ง นำเยาวชนชายแดนภาคใต้ สู่แดนตะวันออก ทัศนศึกษานอกสถานที่ เรียนรู้วิถีชีวิตการอยู่ร่วมทุกชาติ ทุกศาสนา อย่างสันติสุข เยาวชนทุกชีวิตล้วนวิงวอนทุกฝ่ายยุติความรุนแรง
วันนี้ (26 มิ.ย.54) พลเรือตรี สนธยา น้อยฉายา รองผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน กองทัพเรือ พร้อมด้วย นาวาเอก เกรียงศักดิ์ วงษ์สินธุวิเศษ ผู้อำนวยการกองกิจการพลเรือน หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ได้รับมอบหมายจาก พลเรือโท พงศ์ศักดิ์ ภูรีโรจน์ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ให้การต้อนรับ “กลุ่มเยาวชนทัศนศึกษานอกสถานที่ ตามโครงการรวมใจไทยเป็นหนึ่ง กองทัพเรือ รุ่นที่ 7/54” จำนวน 35 คน ณ พิพิธภัณฑ์ทหารนาวิกโยธิน ค่ายกรมหลวงชุมพร อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี
พลเรือตรี สนธยา น้อยฉายา รองผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน กองทัพเรือ ได้กล่าวต้อนรับพร้อมบรรยายสรุป ถึงภารกิจของทหารนาวิกโยธิน ที่ต้องมีหน้าที่ในการปกป้องอธิปไตย ของชาติ ถวายความปลอดภัย รักษาความปลอดภัย และรักษาความสงบเรียบร้อยทั้งภายนอกและภายใน อีกทั้งยังต้องมีหน้าที่ในการพัฒนาประเทศอีกด้วย
ตามที่ พลเรือตรี ชุมพล วงศ์เวคิน เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารเรือ ได้มอบหมายให้เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารเรือ ดำเนินกิจกรรมนำเยาวชนในพื้นที่ปฏิบัติงานของหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มาทัศนศึกษานอกสถานที่ ตามโครงการรวมใจไทยเป็นหนึ่ง ประจำปี 2554 เพื่อให้เยาวชนได้เปิดโลกทัศน์กว้างไกลขึ้น ให้ได้รับความรู้และประสบการณ์ที่มีคุณค่า ได้เห็นถึงการอยู่ร่วมกันที่ทุกฝ่ายได้ร่วมแรงร่วมใจกันสร้างชุมชนให้มีความเข้มแข็ง และอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข ท่ามกลางความหลากหลายของศาสนาและวัฒนธรรม ตลอดจนยึดมั่นในประเทศชาติ และสถาบันพระมหากษัตริย์ร่วมกัน
พลเรือตรี สนธยา น้อยฉายา รองผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน กองทัพเรือ กล่าวว่า นับเป็นโอกาสของเยาวชนแดนใต้ จะได้รับทราบถึงภารกิจในการป้องกันและพัฒนาประเทศของกองทัพเรือ รวมทั้งมีกิจกรรมที่สนุกสนานให้เยาวชนเหล่านี้ มีทัศนคติที่ดี มีความเข้าใจที่ถูกต้อง
พร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับกองทัพเรือ และทางราชการ ในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบที่เกิดขึ้นในพื้นที่ภาคใต้จากเสียงสะท้อนของเยาวชนที่เดินทางมาล้วนต้องการความสงบสุข และไม่ต้องการความรุนแรง วันเวลาต้องเสียไปโดยเปล่าประโยชน์ คือ ครู อาจารย์ นักเรียน นักศึกษาต้องหยุดเรียน เพราะเกิดสถานการณ์รุนแรงในพื้นที่ สิ่งที่ตามมา ก็คือ บุตร หลาน บุคลากรของชาติ จะด้อยโอกาสโดยสิ้นเชิง