พระนครศรีอยุธยา - คนร้ายบุกยิงเซลส์ขายรถมือสองคาเต็นท์ ราชากระบะพระอินทร์ กรุงเก่า แต่พลาดถูกยิงสวนดับคารถ จยย.
เมื่อเวลา 09.00 น.วันนี้ (21 มิ.ย.) พ.ต.ท.ชนาธิป ภาโนนัย พนักงานสอบสวน สภ.พระอินทร์ราชา อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับแจ้งมีเหตุใช้อาวุธปืนยิงกันตายที่เต็นท์รถมือสอง ราชากระบะพระอินทร์ เลขที่ 7 ม.8 ต.เชียงรากน้อย อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ริมถนนสายพลโยธินขาเข้ากรุงเทพฯ ฝั่งตรงข้ามตลาดประตูน้ำพระอินทร์ ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พล.ต.ต.อนุรักษ์ แตงเกษม ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.นครพัฒน์ พรหมพันธุ์ รองผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.อดุลย์ เม่นบางผึ้ง ผกก., พ.ต.ท.ภัทรภัทร นุชยวง รองผกก.สส.สภ.พระอินทร์ราชา
ที่ริมถนนพบรถ จยย.ฮอนด้า รุ่นสกู๊ปปี้ สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ล้มคว่ำอยู่ ตรวจพบแผ่นป้ายทะเบียน ซุกซ่อนอยู่ใต้เบาะ ระบุรถหมายเลขทะเบียน ขจจ 841 พระนครศรีอยุธยา มีศพของ นายสมบัติ คมนา อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 60/64 ม.2 ต.คลองจิก อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา คร่อมรถ จยย.อยู่ ใส่หมวกกันน็อกสีดำ สวมเสื้อแจ๊กเก็ตสีน้ำตาล สวมถุงมือสีน้ำเงินเข้ม สวมกางขายาวสีดำ รองเท้าหนังสีดำ มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม.เข้าที่ที่ศีรษะ 1 นัด ไหล่ขวา 1 นัด กลางอก 2 นัด และสีข้างขวา 1 นัด รวม 5 นัด
ใกล้กันพบอาวุธปืนของผู้ตาย ขนาด .22 แมกนั่ม ตกอยู่ตรวจสอบ พบว่า กระสุนในลูกโม่ถูกยิงไปแล้ว 6 นัด และพบกระสุนปืนในกระเป๋ากาเกงอีก 5 นัด ส่วนผู้ที่ก่อเหตุยืนถืออาวุธปืน ขนาด 9 มม. รอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยอาการตกใจ คือ นายชินวัฒน์ ปองเสงี่ยม อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 67 ม.7 ต.ลำไทร อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นพนักงานขายรถของเต็นท์ราชากระบะรถยนต์มือสอง
นายชินวัฒน์ เปิดเผยว่า ช่วงเกิดเหตุกำลังพาลูกค้าที่มาดูรถ เห็น นายสมบัติ ขับรถจยย.ย้อนศรเข้ามาจอดที่หน้าเต็นท์รถ และตรงเข้ามาหาตนเองพร้อมถืออาวุธปืนเข้ามาหาตนแล้วผลักตนจนเซ แล้วพูดว่า “กูจะยิงมึงให้ตาย” แล้วคนร้ายได้พยามที่จะใช้อาวุธปืนยิงใส่ตนเอง แต่มีลูกค้ารูปร่างใหญ่ยืนขวางอยู่ จึงได้หลบไปด้านหลัง ลูกค้า แต่คนร้ายได้ยิงเข้าใส่ตน 2 นัด จนกระสุนถากเข้าที่บริเวณ สะโพกและหลัง
จากนั้น นายสมบัติ ได้รีบวิ่งกลับไปที่รถ จยย.ที่จอดหน้าร้าน เพื่อขับหลบหนี แต่รถ จยย.สตาร์ทไม่ติด ตนจึงได้วิ่งเข้าไปในออฟฟิศ หยิบเอาอาวุธปืนที่อยู่ในลิ้นชักออกมายิงใส่นายสมบัติ ระหว่างนั้น นายสมบัติ ยังยิงสวนออกมาอีกหลายนัด ตนยิงตอบโต้ไปหลายนัด จนนายสมบัติ ล้มลงเสียชีวิต ซึ่งเหตุการณ์ทั้งหมดวงจรปิดของเต็นท์รถบันทึกภาพไว้ทั้งหมด
“ผมเองไม่เคยเห็นหน้า และไม่เคยรู้จักคนตายมาก่อนเลย และไม่เคยมีเรื่องทะเลาะกับใคร จึงไม่ทราบว่าผู้ตายมายิงตนเอง เพราะสาเหตุใด ส่วนที่ผมเองยิงใส่คนตายนั้น เพราะป้องกันตัวเท่านั้น เหตุการณ์เกิดขึ้นเร็วมาก หากไม่ยิงเขา เขาก็ยิงผมตาย ซึ่งผมเชื่อว่าที่รอดชีวิตมาได้อาจจะเป็นบารมีเหรียญยันต์หนุนดวง 5 แถวของอาจารย์ หนู กันภัย ที่ห้อยคอติดตัวเอาไว้” นายชินวัฒน์ กล่าว
พล.ต.ต.อนุรักษ์ กล่าวว่า สอบสวนพบว่า นายสมบัติ คนตายมีอาชีพเป็นยามอยู่บริษัทแห่งหนึ่งในซอยดินโดไทย เขต อ.บางปะอิน และมีปัญหาทางการเงินในครอบครัว โดยล่าสุดไปยืมเงินหัวหน้างานมา 10,000 บาท ซึ่งยังไม่ทราบว่าสาเหตุที่แน่ชัดที่คนตายมาก่อเหตุยิงนายชินวัฒน์ เพราะสาเหตุใด อาจจะเป็นเรื่องขัดแย้งส่วนตัว ที่นายชินวัฒน์ ยังไม่ยอมเปิดเผย หรือรับจ้างมายิง หรือมาก่อเหตุชิงทรัพย์ เพราะ นายชินวัฒน์ สวมใส่ทองรูปพรรณจำนวนมาก ทางตำรวจต้องขอเวลาในการสอบปากคำและสืบสวนสอบสวนต่อไป ส่วน นายชินวัฒน์ ที่ยิงนายสมบัติ ตายนั้น เบื้องต้นตั้งข้อหาฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รถจักรยานยนต์ฮอนด้า รุ่นสกู๊ปปี้ มีเทคนิคพิเศษทางช่างจากโรงงานผลิต คือ หากขาตั้งของรถจักรยายนต์ยังไม่ถูกยกขึ้น จะสตาร์ทรถไม่ติด ซึ่งตรงกับภาพวงจรปิด ที่ผู้เสียชีวิต เมื่อยิงใส่ นายชินวัฒน์ พยายามจะหลบหนี แต่สตาร์ทรถไม่ติดเพราะขาตั้งของรถ จยย.ยังไม่ถูกยกขึ้น ทำให้หนีไม่ทัน และถูกตามมายิงทันและเกิดการดวลปืนกันริมถนน