รวบเมียฝรั่งขับเก๋งตระเวนฉกทรัพย์ร้านเสริมสวย-เสื้อผ้า อ้างผัวส่งเงินให้ไม่พอใช้

มหาสารคาม - ตำรวจ สภ.เมืองมหาสารคาม รวบเมียฝรั่งตระเวนขี่เก๋งป้ายแดง ฉกทรัพย์ตามร้านเสื้อผ้า ร้านเสริมสวย ในเขตเทศบาลเมือง สารภาพทำมาแล้วกว่า 10 ครั้ง

เมื่อเวลา 10.30 น.วันนี้ (17 มิ.ย.) ที่ห้องสืบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองมหาสารคาม พ.ต.อ.ยุทธศาสตร์ ศรีธงชัย ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองมหาสารคาม พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน แถลงข่าวจับกุม นางสาวเสาวลักษณ์ ผาบชมพู อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 209/5 หมู่ 14 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น โดยกล่าวหาว่า ลักทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิด หรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม พร้อมด้วยของกลาง คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก และ รถยนต์ยี่ห้อ นิสสันมาร์ช สีดำ หมายเลขทะเบียน กม 6440 ขอนแก่น

พ.ต.อ.ยุทธศาสตร์ ศรีธงชัย ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองมหาสารคาม กล่าวว่า ได้รับแจ้งจากผู้เสียหายกว่า 10 รายที่เป็นเจ้าของธุรกิจ ร้านเสริมสวย ร้านขายเสื้อผ้า และร้านจำหน่ายเครื่องปรับอากาศ ว่า มีหญิงสาววัยรุ่น ขับรถเก๋งป้ายแดง ทำทีเข้าพูดคุยตีสนิทในร้าน และทำทีเป็นสนใจเข้ามาเลือกซื้อของในร้านเสื้อผ้า แต่เมื่อเจ้าของร้านเผลอ ก็จะหยิบฉวยของมีค่าหลบหนีออกไป ซึ่งผู้เสียหายได้มาแจ้งความที่ สภ.เมืองมหาสารคาม ไว้แล้วกว่า 10 ราย

หลังได้รับแจ้ง จึงได้สั่งการให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่เฝ้าติดตามพฤติการณ์ของวายร้านสาวรายดังกล่าว จนกระทั่ง พบผู้ต้องสงสัย ขับขี่รถเก๋งนิสสันมาร์ช สีดำ ที่เสาอากาศติดตัวการ์ตูนโดราเอมอน แต่ป้ายทะเบียนไม่ใช่รถป้ายแดง ตามที่ผู้เสียหายแจ้งเอาไว้

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เชิญตัวมาสอบสวนต่อที่โรงพัก พร้อมกับให้ผู้เสียหายรายล่าสุดมาชี้ตัว ซึ่งผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าเป็นคนลักทรัพย์ไปจริง โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวผู้ต้องหาไปชี้จุดเกิดเหตุอีก 8 จุด ทรัพย์สินที่ได้ไปส่วนใหญ่ จะเป็นคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค และกระเป๋าสตางค์ โดยจะตระเวนขับรถยนต์เพื่อดูลาดเลาก่อน และเลือกร้านค้าที่มีคนเฝ้าอยู่แค่คนเดียว เพื่อสะดวกต่อการโจรกรรมทรัพย์สิน

ก่อนจะนำทรัพย์สินที่ได้ไปขายให้กับร้านรับซื้อของมือ 2 ใกล้กับมหาวิทยาลัยขอนแก่น สำหรับโน้ตบุ๊ค 1 เครื่องจะขายได้ในราคา 4,000 บาท

โดยผู้ต้องหารับสารภาพว่าที่ต้องออกตระเวนขโมยทรัพย์สินตามร้านค้าดังกล่าว เพื่อที่จะหาเงินไปใช้จ่ายในครอบครัว ซึ่งสามีเป็นช่างก่อสร้างชาวอังกฤษ ส่งเงินมาให้ทุกเดือน เดือนละประมาณ 10,000 บาทแต่ก็ไม่พอกับค่าใช้จ่าย ที่ต้องเลี้ยงลูกวัย 3 ขวบ และส่งค่างวดรถคันที่นำออกก่อเหตุ

จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป