ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - รองผู้การฯโคราช หน.ทีมสืบสวน เผย ตั้งข้อหาเจ้าของโรงงานเถื่อนชำแหละซากไก่เน่า 4 ราย กว่า 10 ข้อหา พร้อมแจ้งเพิ่มโทษ 2 ราย ที่ทำผิดซ้ำซากส่วนโรงงานที่เหลืออีก 7 แห่ง อยู่ระหว่างสอบสวนเอาผิด ชี้ ยังไม่ยืนยืนแน่ชัดว่านำเนื้อไก่เน่าส่งขายร้านอาหาร ระบุ ผู้ต้องหาอ้างส่วนใหญ่ส่งฟาร์มจระเข้-บ่อปลา แต่ยังมึนตึ๊บแหล่งที่มา และขบวนการขนย้ายซากไก่ วอน ปชช.ได้เบาะแสให้รีบแจ้ง จนท.ทันที
วันนี้ (15 มิ.ย.) ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา พ.ต.อ.วชิรวิชญ์ กฤษณ์ฤทธิศักย์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (รองผบก.จว.) นครราชสีมา หัวหน้าทีมควบคุมการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา คดีโรงงานชำแหละซากไก่เถื่อน เปิดเผยถึงความคืบหน้าการดำเนินคดีกับโรงงานชำแหละไก่เถื่อน ว่า จนถึงขณะนี้ได้มีการสอบสวนเพิ่มเติมในกลุ่มผู้ต้องหาทั้ง 4 คน โดยรับว่าในส่วนนี้ได้นำซากไก่ไปส่งขายต่อให้กับบ่อปลา และฟาร์มจระเข้เป็นหลัก ส่วนที่มีข่าวว่านำไปขายให้กลุ่มของผู้ประกอบการร้านอาหารนั้น ยังไม่มีความชัดเจน เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งสืบสวน เนื่องจากเป็นเรื่องความละเอียดอ่อนของผู้บริโภค เพราะหากเป็นเรื่องจริงก็ต้องจับกุม แต่ถ้าเป็นเรื่องไม่จริงเราก็ต้องเสนอข่าวให้ชัดเจน เพราะกระทบกับผู้บริโภคเนื้อไก่โดยภาพรวม
ส่วนการสืบหาต้นตอที่มาของซากไก่เน่านั้น ตอนนี้ยังไม่ปรากฏ เพราะเป็นเรื่องของการทำธุรกิจผิดกฎหมาย ซึ่งซากไก่ที่อยู่ตามฟาร์มต่างๆ ทั้งเล็กและใหญ่ทางเจ้าของฟาร์มต้องทำลายทิ้งด้วยการฝัง แต่การนำออกมาจำหน่ายนั้นก็เกิดขึ้นได้จากหลายส่วน ซึ่งอาจทำโดยกลุ่มของคนงานเอง โดยที่เจ้าของฟาร์มไม่ทราบก็เป็นได้ เรื่องนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ แต่อย่างไรก็ตามซากไก่เป็นสินค้าที่มีราคาดี เป็นที่ต้องการของกลุ่มผู้เลี้ยงปลา กับจระเข้ จึงกลายเป็นธุรกิจที่ทำเงินได้ค่อนข้างดีและมีคนอยากเข้ามาทำมาก
พ.ต.อ.วิชรวิชญ์ กล่าวอีกว่า อัตราโทษของผู้กระทำผิดจะหนักหรือเบา เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ต้องดำเนินการจับกุมอยู่แล้ว เพราะการพิจารณาอัตราโทษเป็นเรื่องของกฎหมาย แต่เรื่องการกระทำผิดเป็นเรื่องหน้าที่ของตำรวจที่จะต้องดำเนินการ ซึ่งได้กำชับไปยังพื้นที่เกิดเหตุและทุกพื้นที่ในความรับผิดชอบให้ตรวจตรา โดยเฉพาะการตั้งด่านตรวจและจุดสกัด ถ้าเจอการขนซากไก่โดยไม่ได้รับอนุญาตก็ให้จับกุมทันที
สำหรับการดำเนินคดีนั้น พ.ต.อ.วชิรวิชญ์ กล่าวว่า ในคดีนี้ได้ทำการจับกุมผู้ต้องหา 4 ราย รวม 4 คดี บ้านเกิดเหตุ 4 หลัง จากที่ดำเนินการทำโรงงานชำแหละซากไก่เถื่อนมีทั้งหมดรวม 11 หลัง แต่เราเข้าไปตรวจค้นได้ 4 หลัง และมีอยู่ 2 หลังที่เจ้าของเคยกระทำผิดลักษณะเช่นนี้มาแล้วและถูกศาลตัดสินไปเรียบร้อยแล้ว ส่วนคดีใหม่ เจ้าหน้าที่ได้แจ้งให้มารับทราบข้อกล่าวหาพร้อมเพิ่มโทษไปอีก
ส่วนเจ้าของบ้านอีก 2 หลังเป็นผู้กระทำผิดรายใหม่ ตำรวจได้แจ้งดำเนินคดีไปตามปกติ โดยรวมได้แจ้งข้อกล่าวหากับผู้กระทำผิดทั้ง 4 รายกว่า 10 ข้อหา
ขอยืนยันว่า คดีนี้ไม่ต้องห่วง เนื่องจาก พล.ต.ท.เดชาวัต ราสมภพ ผบช.ตร.ภ.3 และ พล.ต.ต.ฉัตรกนก เขียวแสงส่อง ผบก.ภ.นครราชสีมา มีคำสั่งให้ตนเป็นหัวหน้าชุดสืบสวนสอบสวนเข้าไปควบคุมการปฏิบัติงานของสถานีตำรวจในพื้นที่อีกชั้นหนึ่ง เราจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดอยู่แล้ว ส่วนเจ้าของโรงงานที่เหลืออีกกว่า 7 แห่งขณะนี้ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบเกี่ยวกับความผิดที่เกี่ยวข้องของเทศบัญญัติ
อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้เราแยกเป็น 2 ส่วน ในส่วนของการพิจารณาเอาผิดกับเจ้าหน้าที่ที่ปล่อยปละละเลยก็เป็นส่วนหนึ่ง ซึ่งเป็นการดำเนินการของหน่วยงานต้นสังกัด แต่ตำรวจรับผิดชอบในส่วนของการดำเนินคดีอาญา การขยายผลของการกระทำผิด จากต้นทางถึงปลายทาง ตั้งแต่ฟาร์มเลี้ยงไก่, คนขน, คนรับชำแหละ และคนนำส่ง ซึ่งการสอบสวนสืบสวนที่มาที่ไปของซากไก่เราจะทำอย่างเต็มที่ เนื่องจากเป็นเรื่องที่ประชาชนให้ความสนใจ
“อยากเรียนไปยังพี่น้องประชาชน ว่า ถ้ามีธุรกิจเหล่านี้อยู่ใกล้ชุมชนของท่านขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่เพื่อดำเนินการจับกุม เพราะธุรกิจประเภทนี้มักจะฟ้องด้วยกลิ่นที่เหม็นเน่าอยู่แล้ว และที่สำคัญถ้าทราบเบาะแสว่า มีการนำเนื้อไก่เน่าไปจำหน่ายในร้านอาหารขอให้แจ้งตำรวจโดยเร่งด่วนที่สุด เพื่อจะเข้าไปสกัด” พ.ต.อ.วชิรวิชญ์ กล่าว