พะเยา - ชาวบ้านส่งตัวแทนทวงถามความคืบหน้าการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณี “นายก ทต.ดงเจน” ใช้รถยนต์ราชการช่วยผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย พะเยา เขต 3 ติดตั้งป้ายหาเสียง ด้านผู้ว่าฯ ระบุ ต้องรอผลชี้ขาดจาก กกต.กลาง จึงจะสามารถออกคำสั่งลงโทษได้
วันนี้ (15 มิ.ย.) นายสุรพล เต็มสวัสดิ์ พร้อมด้วยตัวแทนชาวบ้าน ต.ดงเจน อ.ภูกามยาว จ.พะเยา จำนวน 3 คน ได้เข้าพบ นายศานิต บุญเรือง ประธาน กกต.จังหวัดพะเยา และ นายพงษ์ศักดิ์ วังเสมอ ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา ที่ศาลากลางจังหวัดพะเยา เพื่อทวงถามความคืบหน้าการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีที่ นายชูชาติ ฟองจำ นายกเทศบาลตำบลดงเจน สั่งการให้เจ้าหน้าที่ และพนักงานเทศบาล ใช้รถยนต์ของทางราชการเทศบาลตำบลดงเจน ช่วยผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย พะเยา เขต 3 ติดตั้งป้ายหาเสียง ตามที่ได้เข้าร้องเรียนกับทางผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา และ กกต.จังหวัด ไปเมื่อ 10 มิ.ย.54 ที่ผ่านมา ว่า มีความคืบหน้าหรือไม่ อย่างไร
ประธาน กกต.ระบุว่า ขณะนี้ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง และ กกต.จังหวัด ได้มีมติออกมาแล้ว แต่จะต้องส่งเรื่องดังกล่าวให้ กกต.กลาง เป็นผู้พิจารณาชี้ขาด พร้อมทั้งส่งเรื่องกลับมาที่จังหวัด ให้จังหวัดเป็นผู้ออกคำสั่งลงโทษต่อไป
ขณะที่ นายพงษ์ศักดิ์ วังเสมอ ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา กล่าวว่า การดำเนินการตามที่ชาวบ้านร้องเรียนดังกล่าวนั้น แบ่งออกเป็น 2 ประเด็น คือ ผู้ถูกกล่าวหาที่เป็นผู้บริหารเทศบาลตำบลดงเจน ซึ่งเป็นนักการเมือง กกต.จะเป็นผู้ตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมทั้งลงโทษหากมีความผิด ทั้งนี้ จะต้องรอผลการชี้ขาดจาก กกต.กลาง ว่า ผลจะเป็นประการใด พร้อมทั้งส่งกลับมาที่จังหวัด ซึ่งขณะนี้จังหวัดยังไม่ได้รับเรื่องดังกล่าว ผู้ว่าฯมีอำนาจตามกฎหมายเพียงสั่งให้พ้นจากตำแหน่งชั่วคราวเท่านั้น ส่วนคำสั่งให้พ้นจากตำแหน่งแบบถาวร เป็นอำนาจของ กกต.กลาง
ส่วนกรณีที่นายกฯ สั่งให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการติดตั้งป้ายหาเสียงช่วยผู้สมัคร ส.ส.ในฐานะที่เป็นทั้งข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นจังหวัดจะเป็นผู้ดำเนินการตรวจ และลงโทษทางวินัย ซึ่งจะทราบผลภายในเร็วๆ นี้
ด้าน นายสุรพล กล่าวว่า การดำเนินการตรวจสอบและดำเนินการตามที่ชาวบ้านได้ร้องเรียนในครั้งนี้ เชื่อว่า ชาวบ้านจะต้องรออีกนานมากกว่าจะทราบผลว่าเป็นอย่างไร เพราะต้องส่งมติ กกต.จังหวัด ให้ กกต.กลาง ชี้ขาด และส่งกลับมาให้ผู้ว่าฯสั่งการ ทั้งที่เรื่องนี้ทางผู้ว่าฯ หรือ กกต.น่าจะใช้อำนาจทางปกครองสั่งให้นายกเทศบาลตำบลดงเจน หยุดการกระทำและพ้นจากตำแหน่งได้ เพราะเป็นการกระทำผิดที่โจ่งแจ้ง ชาวบ้านเห็นกันหมด เพราะถ้าหาก รอ กกต.กลาง
“คาดว่า คงต้องรอพ้นการเลือกตั้ง ส.ส.ไปแล้ว ก็ไม่มีความหมาย เหมือนกับว่าใครก็สามารถใช้รถยนต์ของราชการหาเสียงช่วยกับผู้สมัคร ส.ส.ได้ แล้วกฎหมายที่บอกว่าข้าราชการต้องเป็นกลางทางการเมือง จะมีไปทำไม ไร้ประโยชน์”
วันนี้ (15 มิ.ย.) นายสุรพล เต็มสวัสดิ์ พร้อมด้วยตัวแทนชาวบ้าน ต.ดงเจน อ.ภูกามยาว จ.พะเยา จำนวน 3 คน ได้เข้าพบ นายศานิต บุญเรือง ประธาน กกต.จังหวัดพะเยา และ นายพงษ์ศักดิ์ วังเสมอ ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา ที่ศาลากลางจังหวัดพะเยา เพื่อทวงถามความคืบหน้าการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีที่ นายชูชาติ ฟองจำ นายกเทศบาลตำบลดงเจน สั่งการให้เจ้าหน้าที่ และพนักงานเทศบาล ใช้รถยนต์ของทางราชการเทศบาลตำบลดงเจน ช่วยผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย พะเยา เขต 3 ติดตั้งป้ายหาเสียง ตามที่ได้เข้าร้องเรียนกับทางผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา และ กกต.จังหวัด ไปเมื่อ 10 มิ.ย.54 ที่ผ่านมา ว่า มีความคืบหน้าหรือไม่ อย่างไร
ประธาน กกต.ระบุว่า ขณะนี้ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง และ กกต.จังหวัด ได้มีมติออกมาแล้ว แต่จะต้องส่งเรื่องดังกล่าวให้ กกต.กลาง เป็นผู้พิจารณาชี้ขาด พร้อมทั้งส่งเรื่องกลับมาที่จังหวัด ให้จังหวัดเป็นผู้ออกคำสั่งลงโทษต่อไป
ขณะที่ นายพงษ์ศักดิ์ วังเสมอ ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา กล่าวว่า การดำเนินการตามที่ชาวบ้านร้องเรียนดังกล่าวนั้น แบ่งออกเป็น 2 ประเด็น คือ ผู้ถูกกล่าวหาที่เป็นผู้บริหารเทศบาลตำบลดงเจน ซึ่งเป็นนักการเมือง กกต.จะเป็นผู้ตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมทั้งลงโทษหากมีความผิด ทั้งนี้ จะต้องรอผลการชี้ขาดจาก กกต.กลาง ว่า ผลจะเป็นประการใด พร้อมทั้งส่งกลับมาที่จังหวัด ซึ่งขณะนี้จังหวัดยังไม่ได้รับเรื่องดังกล่าว ผู้ว่าฯมีอำนาจตามกฎหมายเพียงสั่งให้พ้นจากตำแหน่งชั่วคราวเท่านั้น ส่วนคำสั่งให้พ้นจากตำแหน่งแบบถาวร เป็นอำนาจของ กกต.กลาง
ส่วนกรณีที่นายกฯ สั่งให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการติดตั้งป้ายหาเสียงช่วยผู้สมัคร ส.ส.ในฐานะที่เป็นทั้งข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นจังหวัดจะเป็นผู้ดำเนินการตรวจ และลงโทษทางวินัย ซึ่งจะทราบผลภายในเร็วๆ นี้
ด้าน นายสุรพล กล่าวว่า การดำเนินการตรวจสอบและดำเนินการตามที่ชาวบ้านได้ร้องเรียนในครั้งนี้ เชื่อว่า ชาวบ้านจะต้องรออีกนานมากกว่าจะทราบผลว่าเป็นอย่างไร เพราะต้องส่งมติ กกต.จังหวัด ให้ กกต.กลาง ชี้ขาด และส่งกลับมาให้ผู้ว่าฯสั่งการ ทั้งที่เรื่องนี้ทางผู้ว่าฯ หรือ กกต.น่าจะใช้อำนาจทางปกครองสั่งให้นายกเทศบาลตำบลดงเจน หยุดการกระทำและพ้นจากตำแหน่งได้ เพราะเป็นการกระทำผิดที่โจ่งแจ้ง ชาวบ้านเห็นกันหมด เพราะถ้าหาก รอ กกต.กลาง
“คาดว่า คงต้องรอพ้นการเลือกตั้ง ส.ส.ไปแล้ว ก็ไม่มีความหมาย เหมือนกับว่าใครก็สามารถใช้รถยนต์ของราชการหาเสียงช่วยกับผู้สมัคร ส.ส.ได้ แล้วกฎหมายที่บอกว่าข้าราชการต้องเป็นกลางทางการเมือง จะมีไปทำไม ไร้ประโยชน์”