ฉะเชิงเทรา - ตำรวจแปดริ้วโชว์ผลงาน จับอาวุธปืนสงคราม-ลูกระเบิดชนิดขว้าง รวมถึงยาเสพติด ได้จำนวนมาก ย้ำ ในช่วงการเลือกตั้ง มีตำรวจอยู่เต็มพื้นที่ ชาวบ้านไม่ต้องใช้ปืน
วันนี้ (14 มิ.ย.) ที่ห้องประชุม กองบังคับการตำรวจภูธรฉะเชิงเทรา พล.ต.ต.มณฑล มีอนันต์ ผบก. ภ.จว.ฉะเชิงเทรา พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมผู้ต้องหาจากท้องที่ต่างๆ ในพื้นที่กว่า 30 นายได้ร่วมกันแถลงข่าวถึงผลการกวาดล้างจับกุม อาวุธปืน อาวุธสงครามและยาเสพติด ในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนถึงวันเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร โดยมีของกลางอาวุธปืน รวม 28 กระบอก และยาเสพติดยาไอซ์ ยาบ้า กัญชาและใบกระท่อม
ในการกวาดล้างครั้งนี้ สามารถจับกุมอาวุธปืน เอ็ม 79 และกระสุนหัวระเบิด พร้อมใช้งานจำนวน14 นัด ปลอกกระสุนที่ยิงแล้ว 1 ปลอก โดยอาวุธปืนดังกล่าว ได้ทำการล่อซื้อมาจากผู้ต้องหา คือนายพิเชษฐ รุ่งเรือง อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 34/1 ม.7 ต.กระทุ่มแพ้วอ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี ในราคา 12,000 บาท โดยนัดส่งมอบกันที่บริเวณหน้าวัดสะแกงาม อ.ราชสาส์น จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นเขตพื้นที่รอยต่อระหว่างจังหวัด จนได้ของกลางดังกล่าวและกระสุนพร้อมใช้งานอีก 14 นัด
ด้าน นายพิเชษฐ ผู้ต้องหา ยังไม่ยอมรับว่า เป็นเจ้าของโดยอ้างว่า เป็นของหลานชายได้นำเอามาฝากไว้ประมาณ 4-5 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งจะต้องทำการสืบสวนขยายผลต่อไป ว่าเคยถูกนำไปใช้ก่อเหตุอะไรมาบ้างหรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ต่างๆ ทางด้านการเมืองในกรุงเทพหรือไม่ส่วนปลอกกระสุนปืน 1 ปลอก ที่ตรวจยึดมาได้นั้น ผู้ต้องหาอ้างว่าเป็นผู้ใช้ทดลองยิงเอง
พล.ต.ต.มณฑล กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ ยังสามารถจับกุมอาวุธปืน เอ็ม 16 ได้อีก 1 กระบอก อาวุธปืนพกสั้นมีทะเบียน 6 กระบอก ไม่มีทะเบียน 20 กระบอก พร้อมกระสุนปืน 264 นัด ลูกระเบิดชนิดขว้าง แบบ M205 A1 จำนวน 1 ลูก รวมผู้ต้องหา 24 ราย ซึ่งจากการตรวจค้นจับกุม ยังสามารถจับกุมคดียาเสพติดได้อีก 85 ราย ผู้ต้องหา 88 คน พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 3,685 เม็ด ยาไอซ์ 64.31 กรัม กัญชา 660 กรัม พืชกระท่อม 33 ใบ ส่วนคดีที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งนั้น ขณะนี้ยังไม่มีเกิดขึ้นในพื้นที่ โดยมีเพียงการเข้ามาลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ของผู้สมัครเท่านั้น
สำหรับเรื่องการทำลายป้ายหาเสียงนั้น ขณะนี้พบในเขตพื้นที่ สภ.บางปะกง และสภ.เมืองฉะเชิงเทรา แต่ผู้เสียหายยังไม่ประสงค์ที่จะดำเนินคดี เนื่องจากเกรงว่าจะกระทบต่อคะแนนเสียงเพราะยังไม่ทราบแน่ชัดว่าเป็นการทำลายจากคู่แข่ง หรือเป็นฝีมือจากบุตรหลานของชาวบ้าน ที่กระทำไปด้วยความคึกคะนอง
พล.ต.ต.มณฑล กล่าวอีกว่า สำหรับการกวาดล้างจับกุมครั้งนี้เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุร้ายแรงขึ้นในพื้นที่โดยเฉพาะการพกพาอาวุธปืน เนื่องจากขณะนี้มีตำรวจทำงานกันอยู่เต็มพื้นที่แล้วชาวบ้านไม่จำเป็นต้องใช้อาวุธปืนในการป้องกันตัว