จันทบุรี-เกิดฝนตกหนักและคลื่นลมแรง ส่งผลทำให้ชาวประมงพื้นบ้านจังหวัดจันทบุรี ทั้งเรือเล็กและเรือใหญ่ไม่กล้าออกทำการประมง มา 2 วันแล้ว โดยต่างนำเรือมาจอดเทียบท่ากันเป็นจำนวนมาก
จากกรณีที่กรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศเตือนว่า ในช่วงตั้งแต่วันที่ 13 มิถุนายน 2554 ถึงวันที่ 17 มิถุนายน 2554 ในพื้นที่จังหวัดจันทบุรีจะมีฝนตกหนักและมีคลื่นลมแรง โดยทะเลจะมีคลื่นสูงกว่า 2 เมตร ซึ่งผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปที่ท่าเทียบเรือ อำเภอแหลมสิงห์ จังหวัดจันทบุรี ที่เป็นท่าเทียบเรือขนาดใหญ่พบว่ามีเรือประมงขนาดเล็กและขนาดใหญ่ นำเรือมาจอดเทียบท่าหลบพายุฝนและคลื่นลมแรงในทะเลกันเป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้ เนื่องจากไม่สามารถออกทำการประมงในระยะนี้ได้ เพราะกลัวความไม่ปลอดภัยทั้งชีวิตและทรัพย์สิน รวมทั้งถ้าออกไปทำการประมงแล้วกลัวจะไม่คุ้มทุน เพราะการออกทำการประมงแต่ละครั้งต้องใช้ต้นทุนสูง ทั้งค่าน้ำมันเชื้อเพลิง ค่าแรงงาน ค่าน้ำแข็ง และอื่นๆอีกมากมาย ปัญหาดังกล่าวทำให้ชาวประมงเห็นว่าไม่คุ้มทุนอย่างแน่นอนจึง นำเรือมาจอดเทียบท่าเป็นเวลา 2 วัน เพื่อรอพายุฝนและคลื่นลมแรงในทะเลให้สงบก่อน ก่อนจะออกทำการประมงอีกครั้ง
ชาวประมงพื้นบ้าน อำเภอแหลมสิงห์ จังหวัดจันทบุรี รายหนึ่ง กล่าวว่า ในพื้นที่อำเภอแหลมสิงห์ เกิดฝนตกหนักและเกิดคลื่นสูงกว่า 2 เมตร ทำให้กลุ่มเรือประมงพื้นบ้านทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ไม่มีใครกล้าที่จะออกทำการประมง เพราะกลัวเรือจะถูกคลื่นซัดอับปางลงได้ เพราะในระยะนี้ ชาวประมงพื้นบ้านได้มีการติดตามดูข่าวสารการพยากรณ์อากาศในช่วงนี้อย่างใกล้ชิด เนื่องจากกลุ่มชาวประมงพื้นบ้าน อำเภอแหลมสิงห์ จังหวัดจันทบุรี เคยมีประสบการณ์เรือถูกคลื่นซัดอับปรางมาแล้ว และไม่กล้าที่จะออกทำการประมงที่มีพายุฝนและคลื่นลมแรง ทั้งนี้ทำได้แต่เพียงรอคลื่นลมในทะเลสงบลง หรือไม่มีคลื่นก็จะออกทำการประมงต่อไป
จากกรณีที่กรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศเตือนว่า ในช่วงตั้งแต่วันที่ 13 มิถุนายน 2554 ถึงวันที่ 17 มิถุนายน 2554 ในพื้นที่จังหวัดจันทบุรีจะมีฝนตกหนักและมีคลื่นลมแรง โดยทะเลจะมีคลื่นสูงกว่า 2 เมตร ซึ่งผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปที่ท่าเทียบเรือ อำเภอแหลมสิงห์ จังหวัดจันทบุรี ที่เป็นท่าเทียบเรือขนาดใหญ่พบว่ามีเรือประมงขนาดเล็กและขนาดใหญ่ นำเรือมาจอดเทียบท่าหลบพายุฝนและคลื่นลมแรงในทะเลกันเป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้ เนื่องจากไม่สามารถออกทำการประมงในระยะนี้ได้ เพราะกลัวความไม่ปลอดภัยทั้งชีวิตและทรัพย์สิน รวมทั้งถ้าออกไปทำการประมงแล้วกลัวจะไม่คุ้มทุน เพราะการออกทำการประมงแต่ละครั้งต้องใช้ต้นทุนสูง ทั้งค่าน้ำมันเชื้อเพลิง ค่าแรงงาน ค่าน้ำแข็ง และอื่นๆอีกมากมาย ปัญหาดังกล่าวทำให้ชาวประมงเห็นว่าไม่คุ้มทุนอย่างแน่นอนจึง นำเรือมาจอดเทียบท่าเป็นเวลา 2 วัน เพื่อรอพายุฝนและคลื่นลมแรงในทะเลให้สงบก่อน ก่อนจะออกทำการประมงอีกครั้ง
ชาวประมงพื้นบ้าน อำเภอแหลมสิงห์ จังหวัดจันทบุรี รายหนึ่ง กล่าวว่า ในพื้นที่อำเภอแหลมสิงห์ เกิดฝนตกหนักและเกิดคลื่นสูงกว่า 2 เมตร ทำให้กลุ่มเรือประมงพื้นบ้านทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ไม่มีใครกล้าที่จะออกทำการประมง เพราะกลัวเรือจะถูกคลื่นซัดอับปางลงได้ เพราะในระยะนี้ ชาวประมงพื้นบ้านได้มีการติดตามดูข่าวสารการพยากรณ์อากาศในช่วงนี้อย่างใกล้ชิด เนื่องจากกลุ่มชาวประมงพื้นบ้าน อำเภอแหลมสิงห์ จังหวัดจันทบุรี เคยมีประสบการณ์เรือถูกคลื่นซัดอับปรางมาแล้ว และไม่กล้าที่จะออกทำการประมงที่มีพายุฝนและคลื่นลมแรง ทั้งนี้ทำได้แต่เพียงรอคลื่นลมในทะเลสงบลง หรือไม่มีคลื่นก็จะออกทำการประมงต่อไป