xs
xsm
sm
md
lg

ชาวอำนาจเจริญพบเรือขุดโบราณใช้ขนส่งสินค้าอายุกว่า 300 ปี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


อำนาจเจริญ-ชาวบ้านจังหวัดอำนาจเจริญ แตกตื่น! แห่ดูเรือขุดโบราณทำจากต้นตะเคียนทองยักษ์อายุกว่า 300 ปี โดยคนหาปลาพบจมอยู่ใต้ลำเซบกมานานหลายร้อยปี

วันนี้(12 มิ.ย. )ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณท่าน้ำลำเซบกบ้านหนองหัวลิง ต.จานลาน อ.พนา จ.อำนาจเจริญ ชาวบ้านต่างแห่กันลงมาดูการชักลากเรือขุดโบราณทำจากต้นตะเคียนทองยักษ์ทั้งต้นกว้างประมาณ 3 เมตร ยาว 23 เมตร ที่คณะกรรมการหมู่บ้านช่วยกันนำขึ้นมาไว้บนบก หลังนายปิยะศักดิ์ พันธ์จำปา อายุ 43 ปี บ้านเลขที่ 67 หมู่ที่ 6 บ้านหนองหัวลิง ไปพบระหว่างทอดแหหาปลาในลำน้ำดังกล่าว

การชักลากลำเรือที่มีความใหญ่โต ขุดจากต้นตะเคียนทองทั้งต้น โดยไม่มีรอยต่อใช้เวลานานกว่า 6 ชั่วโมง จึงสามารถนำขึ้นมาไว้บนบกได้ และจะนำไปเก็บรักษาไว้ที่วัดวัดสุวรรณาราม อ.ม่วงสามสิบ จ.อุบลราชธานี ซึ่งตั้งอยู่บริเวณรอยต่อกับ อ.พนา จ.อำนาจเจริญ

นายใส สมัครนิล ผู้ใหญ่หมู่ที่ 6 บ้านหนองหัวลิง ต.จานลาน อ.พนา กล่าวให้ข้อสันนิษฐานของเรือโบราณที่พบว่า อดีตการเดินทางของคนในพื้นที่ อ.อำนาจเจริญไปยังตัวจังหวัดอุบลราชธานี (อดีต จ.อำนาจเจริญเป็นอำเภอหนึ่งของ จ.อุบลราชธานี) ไม่มีถนน จึงใช้ลำเซบกที่เป็นแม่น้ำสายหลักไหลมาจาก จ.อำนาจเจริญ เป็นเส้นทางคมนาคม

จึงเป็นไปได้ว่าเรือขุดจากต้นตะเคียนทองยักษ์ลำนี้ อดีตเคยเป็นเรือใช้ขนส่งผู้คนและสินค้าเข้าสู่จังหวัด เพราะมีขนาดที่ใหญ่และยาวมาก และหลังจากมีการสร้างถนนเชื่อมต่อใช้เป็นเส้นทางคมนาคม เรือลำดังกล่าวก็ถูกปล่อยทิ้งร้าง และจมอยู่ใต้น้ำมาไม่น้อยกว่า 300 ปี ซึ่งขณะนี้ นายใสได้ประสานทางนายอำเภอพนา และเจ้าหน้าที่กรมศิลปากรส่งผู้เชี่ยวชาญมาตรวจสอบเนื้อไม้ว่า เรือตะเคียนทองยักษ์ลำนี้ ถูกสร้างขึ้นมาใช้ในสมัยใด เพื่อทำการอนุรักษ์เก็บรักษาไว้ให้คนรุ่นหลังได้ทราบประวัติความเป็นมาของเรือและการคมนาคมของผู้คนในอดีตต่อไป

ด้านนายปิยะศักดิ์ พันธ์จำปา นักทอดแหผู้พบเรือเล่าว่า ก่อนจะพบเรือโบราณลำดังกล่าว ฝันเห็นหญิงชราแต่งกายด้วยชุดขาว นั่งเล่นอยู่ใกล้บริเวณที่พบเรือ และชี้มือบอกว่าตรงจุดที่พบเรือมีปลาอยู่จำนวนมาก รุ่งเช้าตนจึงนำเรือหาปลาออกจากท่าน้ำและตรงไปบริเวณที่พบเรือ ซึ่งอยู่ห่างจากหมู่บ้านไปราว 200 เมตร

จากนั้น เมื่อทอดแหหาปลาอยู่หลายรอบ ก็พบว่าแหของตนไปพันติดกับสิ่งของบางอย่างใต้น้ำ จึงดำลงไปในน้ำเพื่อปลดแหที่ติดอยู่ ก็พบคล้ายตอไม้โผล่พ้นน้ำมาพันเข้ากับแห่ของตน เมื่อใช้มือลูบคลำไปมาบริเวณตอ ก็มีความรู้สึกคล้ายไปโดนเข้ากับกาบเรือขนาดใหญ่ ซึ่งจมอยู่ในน้ำในแนวลาดเอียง

เมื่อลูบคลำไปเรื่อยๆ ก็พบว่าสิ่งที่สัมผัสมีลักษณะกว้างและยาวมาก จึงทิ้งแหไปบอกผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านให้ช่วยมาดู โดยเมื่อทุกคนที่ดำน้ำลงไปสัมผัสมีความเห็นตรงกันว่าเป็นเรือขุดโบราณขนาดใหญ่ จึงหารือกู้เรือขึ้นมาจากน้ำ เพื่อมาให้ผู้เชี่ยวชาญพิสูจน์ แล้วทำการอนุรักษ์ไว้ให้อนุชนรุ่นหลังได้ดูและศึกษาความเป็นมาของมนุษย์ที่มาอาศัยอยู่ในบริเวณที่พบเรือนี้ต่อไป

กำลังโหลดความคิดเห็น