จันทบุรี - ผอ.กกต.จันทบุรี พอใจบรรยากาศการหาเสียงเลือกตั้งในพื้นที่หลังผ่านครึ่งทางยังไม่พบเรื่องร้องเรียนการทำผิดกฎหมายจากผู้สมัคร ส.ส.ทั้ง 3 เขต แต่ก็ยังไม่วางใจ สั่งจับตาพิเศษในพื้นที่เขตเลือกตั้งที่ 3 ที่มีสัญญาณบอกเหตุการแข่งขันรุนแรง เนื่องจากมี 3 พรรคการเมืองใหญ่ส่งผู้สมัครลงชิงชัย
นายสุรสิทธิ์ ถือสัตย์ ผู้อำนวยการ คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดจันทบุรี กล่าวถึงบรรยากาศการหาเสียงเลือกตั้งในพื้นที่จังหวัดจันทบุรีว่ายังคงเป็นบรรยากาศที่น่าพอใจ หลังผ่านครึ่งทางของการหาเสียงแต่ก็ยังไม่พบเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งของผู้ลงสมัคร ส.ส. ทั้ง 3 เขตเลือกตั้งที่มีจำนวน 18 คน ซึ่งบรรยากาศก่อนการเลือกตั้งในวันนี้ยังเป็นไปด้วยความเรียบร้อย จะมีก็แต่เพียงการทำลายป้ายหาเสียงของกลุ่มมือดี ซึ่งขณะนี้ กกต.ได้ประสานไปยังผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี เพื่อเพิ่มความถี่ของเจ้าหน้าที่ในการออกตรวจตราความเรียบร้อย รักษาผลประโยชน์ของผู้ลงสมัคร ส.ส.ทุกคน
แต่ถึงอย่างไรก็ตามยังคงเหลือระยะเวลาการหาเสียงก่อนการเลือกตั้งอีก 23 วัน ซึ่งหากการหาเสียงของผู้สมัครทุกคนจากพรรคเล็กและพรรคใหญ่ ยังคงเป็นเช่นนี้ภาพรวมการเลือกตั้งของจังหวัดจันทบุรีก็จะเป็นไปอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม แต่ ผอ.กกต.จันทบุรี ก็ได้กำชับเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายให้เฝ้าจับตาการหาเสียงและการร้องเรียนของผู้สมัคร ส.ส.ในพื้นที่เขต 3 ที่มีสัญญาณบอกเหตุว่าจะมีการแข่งขันที่ค่อนข้างรุนแรงกว่าเขตเลือกตั้งอื่น
เนื่องจากเขตเลือกตั้งที่ 3 มีผู้ลงสมัคร ส.ส.จำนวน 4 คน และมีพรรคการเมืองใหญ่ส่งผู้สมัครถึง 3 พรรค ประกอบด้วย แชมป์เก่าอย่างพรรคประชาธิปัตย์ ที่ส่งนายพงศ์เวช เวชชาชีวะ อดีต ส.ส.ลงสนาม นอกจากนั้นยังมีดร.อิสิวุฒิ ตั้งเกียรติ อดีตรองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดจันทบุรี ที่ลงแข่งขันในนามพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน ที่ส่งผู้สมัคร ส.ส.เพียงคนเดียวและเขตเดียวทั้งจังหวัด ท่ามกลางฐานคะแนนเสียงที่แข็งแรงในพื้นที่อำเภอโป่งน้ำร้อน และอำเภอสอยดาว
ส่วนนายพราหมณ์ มุกดาสนิท ฐานเสียงของคนเสื้อแดงในอำเภอโป่งน้ำร้อน และอำเภอสอยดาว ก็ลงชิงชัยในนามพรรคเพื่อไทย ขณะที่พรรคไทยเป็นสุข ส่งนายสมชาย สนิทเชื้อ ลงชิงเก้าอี้ แต่ขณะนี้เขตเลือกตั้งที่ 3 ยังไม่พบปัญหาการร้องเรียนหรือการกระทำผิดกฎหมายการเลือกตั้งแต่อย่างใด
“นอกจากนี้ทาง กกต.จันทบุรียังได้จัดชุดสืบสวนสอบสวนนอกเครื่องแบบลงพื้นที่ในแต่ละเขต จำนวน 2 นายเพื่อแฝงตัวในการสืบหาข่าวและติดตามดูแลการหาเสียงของผู้สมัครทุกเขต ทุกหมายเลขในทุกพื้นที่ พร้อมทั้งให้มีการรายงานให้ กกต.จันทบุรีได้รับรู้ทุกวัน
รวมทั้งยังมีการจัดตั้งศูนย์ป้องกันและปราบปราม หลังพบว่ามีการทำลายป้ายหาเสียงเพิ่มขึ้น ส่วนการเลือกตั้งครั้งนี้ประชาชนชาวจังหวัดจันทบุรีมีการตื่นตัวกับการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นอย่างมาก เห็นได้จากการโทรศัพท์เข้ามาสอบถามเกี่ยวกับการเลือกตั้งล่วงหน้า ”
โดยการเลือกตั้ง ส.ส.ในครั้งนี้ จังหวัดจันทบุรีแบ่งเขตการเลือกตั้งออกเป็น 3 เขต คือเขต 1 ประกอบด้วย อำเภอเมืองและอำเภอแหลมสิงห์ มีจำนวนผู้มีสิทธิทั้งสิ้น 117,748 คน
เขต 2 อำเภอท่าใหม่ อำเภอนายายอาม อำเภอเขาคิชฌกูฏ และอำเภอแก่งหางแมว มีจำนวนผู้มีสิทธิ์ทั้งสิ้น 127,496 คน
เขต 3 ประกอบด้วยอำเภอขลุง อำเภอมะขาม อำเภอโป่งน้ำร้อน และอำเภอสอยดาว มีจำนวนผู้มีสิทธิทั้งสิ้น 142,746 คนมากกว่าทุกเขต โดยมีหน่วยเลือกตั้งรวม 675 หน่วย ซึ่งทาง กกต.ตั้งเป้าหมายจะมีผู้ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งในครั้งนี้ ไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 บัตรเสียไม่เกินร้อยละ 3
นายสุรสิทธิ์ ถือสัตย์ ผู้อำนวยการ คณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดจันทบุรี กล่าวถึงบรรยากาศการหาเสียงเลือกตั้งในพื้นที่จังหวัดจันทบุรีว่ายังคงเป็นบรรยากาศที่น่าพอใจ หลังผ่านครึ่งทางของการหาเสียงแต่ก็ยังไม่พบเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งของผู้ลงสมัคร ส.ส. ทั้ง 3 เขตเลือกตั้งที่มีจำนวน 18 คน ซึ่งบรรยากาศก่อนการเลือกตั้งในวันนี้ยังเป็นไปด้วยความเรียบร้อย จะมีก็แต่เพียงการทำลายป้ายหาเสียงของกลุ่มมือดี ซึ่งขณะนี้ กกต.ได้ประสานไปยังผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี เพื่อเพิ่มความถี่ของเจ้าหน้าที่ในการออกตรวจตราความเรียบร้อย รักษาผลประโยชน์ของผู้ลงสมัคร ส.ส.ทุกคน
แต่ถึงอย่างไรก็ตามยังคงเหลือระยะเวลาการหาเสียงก่อนการเลือกตั้งอีก 23 วัน ซึ่งหากการหาเสียงของผู้สมัครทุกคนจากพรรคเล็กและพรรคใหญ่ ยังคงเป็นเช่นนี้ภาพรวมการเลือกตั้งของจังหวัดจันทบุรีก็จะเป็นไปอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม แต่ ผอ.กกต.จันทบุรี ก็ได้กำชับเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายให้เฝ้าจับตาการหาเสียงและการร้องเรียนของผู้สมัคร ส.ส.ในพื้นที่เขต 3 ที่มีสัญญาณบอกเหตุว่าจะมีการแข่งขันที่ค่อนข้างรุนแรงกว่าเขตเลือกตั้งอื่น
เนื่องจากเขตเลือกตั้งที่ 3 มีผู้ลงสมัคร ส.ส.จำนวน 4 คน และมีพรรคการเมืองใหญ่ส่งผู้สมัครถึง 3 พรรค ประกอบด้วย แชมป์เก่าอย่างพรรคประชาธิปัตย์ ที่ส่งนายพงศ์เวช เวชชาชีวะ อดีต ส.ส.ลงสนาม นอกจากนั้นยังมีดร.อิสิวุฒิ ตั้งเกียรติ อดีตรองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดจันทบุรี ที่ลงแข่งขันในนามพรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน ที่ส่งผู้สมัคร ส.ส.เพียงคนเดียวและเขตเดียวทั้งจังหวัด ท่ามกลางฐานคะแนนเสียงที่แข็งแรงในพื้นที่อำเภอโป่งน้ำร้อน และอำเภอสอยดาว
ส่วนนายพราหมณ์ มุกดาสนิท ฐานเสียงของคนเสื้อแดงในอำเภอโป่งน้ำร้อน และอำเภอสอยดาว ก็ลงชิงชัยในนามพรรคเพื่อไทย ขณะที่พรรคไทยเป็นสุข ส่งนายสมชาย สนิทเชื้อ ลงชิงเก้าอี้ แต่ขณะนี้เขตเลือกตั้งที่ 3 ยังไม่พบปัญหาการร้องเรียนหรือการกระทำผิดกฎหมายการเลือกตั้งแต่อย่างใด
“นอกจากนี้ทาง กกต.จันทบุรียังได้จัดชุดสืบสวนสอบสวนนอกเครื่องแบบลงพื้นที่ในแต่ละเขต จำนวน 2 นายเพื่อแฝงตัวในการสืบหาข่าวและติดตามดูแลการหาเสียงของผู้สมัครทุกเขต ทุกหมายเลขในทุกพื้นที่ พร้อมทั้งให้มีการรายงานให้ กกต.จันทบุรีได้รับรู้ทุกวัน
รวมทั้งยังมีการจัดตั้งศูนย์ป้องกันและปราบปราม หลังพบว่ามีการทำลายป้ายหาเสียงเพิ่มขึ้น ส่วนการเลือกตั้งครั้งนี้ประชาชนชาวจังหวัดจันทบุรีมีการตื่นตัวกับการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นอย่างมาก เห็นได้จากการโทรศัพท์เข้ามาสอบถามเกี่ยวกับการเลือกตั้งล่วงหน้า ”
โดยการเลือกตั้ง ส.ส.ในครั้งนี้ จังหวัดจันทบุรีแบ่งเขตการเลือกตั้งออกเป็น 3 เขต คือเขต 1 ประกอบด้วย อำเภอเมืองและอำเภอแหลมสิงห์ มีจำนวนผู้มีสิทธิทั้งสิ้น 117,748 คน
เขต 2 อำเภอท่าใหม่ อำเภอนายายอาม อำเภอเขาคิชฌกูฏ และอำเภอแก่งหางแมว มีจำนวนผู้มีสิทธิ์ทั้งสิ้น 127,496 คน
เขต 3 ประกอบด้วยอำเภอขลุง อำเภอมะขาม อำเภอโป่งน้ำร้อน และอำเภอสอยดาว มีจำนวนผู้มีสิทธิทั้งสิ้น 142,746 คนมากกว่าทุกเขต โดยมีหน่วยเลือกตั้งรวม 675 หน่วย ซึ่งทาง กกต.ตั้งเป้าหมายจะมีผู้ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งในครั้งนี้ ไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 บัตรเสียไม่เกินร้อยละ 3