ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - พบ “น้องบายส์” เด็กอ้วนวัย 11 ขวบ ชาวโคราช แบกน้ำหนักตัว 140 กก.เข้ารักษาที่ รพ.มหาราชนครราชสีมา เหตุกินขนมจุกจิก ขณะ “น้องต๊ะ” เด็กอ้วนชาวชัยภูมิ ลดได้แล้ว 7.5 กก.ภายในสัปดาห์เศษ แพทย์ให้ปั่น จยย.ออกกำลังกายทุกวัน เผย ลดน้ำหนักสำเร็จเตรียมผ่าตัดเรียงกระดูกขาใหม่ที่โก่งผิดรูปมาก แพทย์เผยตรวจ 2 เด็กอ้วนพบน้ำตาล-ไขมัน-ความดันสูงทั้งหมด และกรนหนัก หยุดหายใจเป็นช่วงๆ ขณะหลับ คาดใช้เวลารักษา 6 เดือน
วันนี้ (6 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า ของ ด.ช. ธนกร หรือ “น้องต๊ะ” วงศ์รัตนะ อายุ 10 ขวบ อยู่บ้านเลขที่ 136 หมู่ 6 ต.บ้านเพชร อ.บำเหน็จณรงค์ จ.ชัยภูมิ นักเรียนชั้น ป.4 โรงเรียนบ้านทองคำพิงวิทยา อ.บำเหน็จณรงค์ เด็กอ้วนเจ้าของน้ำหนักตัว 123 กิโลกรัม ส่วนสูง 147 ซม.วัดรอบเอว 52 นิ้ว ได้เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ตั้งแต่วันที่ 25 พ.ค.54 ที่ผ่านมานั้น
ล่าสุด เมื่อเวลา 10.30 น.วันนี้ ที่ห้องกุมารเวชกรรม ชั้น 1 อาคารตึก 8 ชั้น โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา นพ.ทศพล ศิริโสภิตกุล หัวหน้ากุมารแพทย์โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา เปิดเผยว่า หลังนักโภชนาการได้เข้ามาดูแลเรื่องโภชนาการอาหาร โดยจำกัดอาหารประเภทไขมัน ของหวาน และคาร์โบไฮเดรต ทำให้น้ำหนัก “น้องต๊ะ” ลดลงไปได้ 7.5 กิโลกรัม (กก.) ตอนนี้เหลือ 115 กก. ในระยะเวลาประมาณหนึ่งสัปดาห์เศษ
ทั้งนี้ การดูแลรักษา “น้องต๊ะ” ค่อนข้างยากลำบากพอสมควร เนื่องจาก “น้องต๊ะ” ไม่ค่อยให้ความร่วมมือ โดยเฉพาะในช่วงกลางคืนที่จะต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ หรือ ไบแพ็ก ติดตามภาวะการหายใจ เพราะ “น้องต๊ะ” นอนกรนเสียงดังมาก ซึ่งส่งผลให้หยุดหายใจเป็นช่วงๆ แต่ “น้องต๊ะ” มักมีอาการตื่นกลัวอุปกรณ์ไม่ค่อยให้ความร่วมมือ จากนี้ไปคงต้องให้จิตแพทย์เด็กมาช่วยกันดูแลอีกทางหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม แผนการรักษายังให้เป็นไปตามเดิมที่วางไว้ คือ ภายใน 3 เดือนต้องลดน้ำหนักให้ได้ 12 กก.ขณะนี้ได้ให้ “น้องต๊ะ” ออกกำลังกายทุกวันด้วยการปั่นจักรยานวันละ 1 ชั่วโมง ส่วนขาที่โก่งผิดรูปนั้น คงต้องผ่าตัดเรียงกระดูกใหม่ ซึ่งแพทย์จะประเมินอาการดูอีกครั้ง คาดว่า จะให้ “น้องต๊ะ” พักรักษาตัวที่โรงพยาบาลไม่น้อยกว่า 6 เดือน
นพ.ทศพล กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ทางโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ยังได้รับ ด.ช.คมสันต์ หรือ “น้องบายส์” นากุดนอก อายุ 11 ขวบ นักเรียนชั้น ป.5 โรงเรียนบ้านค้างพลูใต้ ต.ค้างพลู อ.โนนไทย จ.นครราชสีมา น้ำหนักตัว 140 กก.เข้าทำการรักษาโรคอ้วน ซึ่ง นางใย ฟือสันเที๊ยะ อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 25/1 บ้านค้างพลูเหนือ หมู่ 1 ต.ค้างพลู อ.โนนไทย จ.นครราชสีมา แม่ของ “น้องบายส์” ได้พามาทำการรักษาโรคอ้วนตั้งแต่เมื่อวันที่ 2 มิ.ย.ที่ผ่านมา ด้วยน้ำหนักตัว 140 กก.สูง 153 ซม.วัดรอบเอวได้ 55 นิ้ว
จากการสอบถามเบื้องต้น ทราบว่า สาเหตุที่ทำให้ “น้องบายส์” มีน้ำหนักตัวมาก เนื่องมาจากมีพฤติกรรมชอบกินขนมจุกจิกทุกวันหลังเลิกเรียน เช่น แผ่นอบกรอบมันฝรั่ง รับประทานครั้งละ 6-7 ถุง, ช็อกโกแลต วันละหลาย 10 แท่ง และขนมอื่นๆ รวมถึงน้ำอัดลม ดื่มได้ตลอดเวลา
ทั้งนี้ แพทย์ได้ทำการรักษา “น้องบายส์” เด็กอ้วนรายใหม่ที่มีน้ำหนักตัว 140 กก.ในลักษณะเดียวกันกับ “น้องต๊ะ” ทำให้สามารถลดน้ำหนักไปได้แล้ว 5 กก.ในระยะเวลาเพียงแค่หนึ่งสัปดาห์ ขณะนี้มีน้ำหนักเหลือ 135 กก.ในกรณีของ น้องบายส์ ต้องจำกัดแคลอรี่ และกระตุ้นให้ออกกำลังกายให้มาก ซึ่ง “น้องบายส์” จะดีกว่า “น้องต๊ะ” คือ ให้ความร่วมมือดีมาก ในช่วงที่นอนหลับน้องบายส์ จะใส่เครื่องช่วยหายใจทุกครั้ง
นพ.ทศพล กล่าวต่อว่า การรักษาเด็กอ้วนทั้ง 2 คนนี้ ต้องได้รับความร่วมมือกันทุกฝ่าย เพื่อลดน้ำหนักให้ได้ ซึ่งการลดน้ำหนักของ “น้องบายส์” นั้น แพทย์จะใช้หลักการเดียวกันกับ “น้องต๊ะ” ด้วยการควบคุมอาหาร และให้ออกกำลังกาย รักษาภาวะแทรกซ้อน และกระตุ้นให้เด็กมีพัฒนาการสมวัย เช่น เรื่องการเรียนจะมีครูมาช่วยดูแลด้วย
“เป้าหมายที่แพทย์ต้องการคืออยากให้เด็กทั้งสองคนลดน้ำหนักให้เหลือประมาณ 65-80 กก. หรือหากเป็นไปได้ให้เหลือประมาณ 40 กก.ไม่เกิน 50 กก.จะดี กรณีของเด็ก สองคนนี้คงไม่จำเป็นต้องใช้วิถีการผ่าตัดกระเพาะอาหารเพราะโอกาสเสี่ยงต่อโรคจะตามมามีมาก ที่สำคัญการรักษาในเด็กเราจะไม่ใช้มาตรการเช่นนั้น” นพ.ทศพล กล่าว
สำหรับภาวะแทรกซ้อนที่ตรวจพบจากเด็กทั้ง 2 คน คือ มีน้ำตาลในเลือดสูง ไขมันในเลือดสูง ความดันสูง และภาวะการนอนกรนทำให้หยุดหายใจขณะหลับ โครงร่างกระดูกเริ่มคดงอ โดยเฉพาะข้อเข่า ซึ่งต้องรักษาอย่างน้อย 3-6 เดือน ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับว่าเด็กลดเร็วหรือไม่ สิ่งที่กังวลตอนนี้คือเมื่อเด็กกลับไปบ้านไปอยู่ในสิ่งแวดล้อมเดิมๆ ก็จะเป็นเหมือนเดิม กินเก่งเหมือนเดิม ภาวะอ้วนก็กลับมารอบ 2 เมื่อถึงตอนนั้นจะแก้ไขยากมาก
