ผบก.-รองผู้ว่าฯเปิดโต๊ะไกล่เกลี่ย “หมอวรงค์-เจ๊เปรม” เหลว 2 ฝ่ายฟ้องกันนัว 5 คดี

พิษณุโลก - เวทีไกล่เกลี่ยเหตุพิพาท “หมอวรงค์” ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 ปชป.กับ “เจ๊เปรม-เปรมฤดี ชามพูนท” ผู้สมัครนายกเทศมนตรี เหลว หลัง ผบก.พิษณุโลก-รองผู้ว่าฯ นัดไกล่เกลี่ย แต่ไม่สำเร็จ ทั้ง 2 ฝ่ายฟ้องกันนัว 5 คดี หลัง “เจ๊เปรม” เปิดคลิปแฉ “ร.อ.ทรงกลด” เจ้าปัญหา แถลงสื่อ และผู้นำชุมชนโต้ข่าวไม่มีการทำร้าย

วันนี้ (6 มิ.ย.) พล.ต.ต.ธรรมนูญ เพชรบุรีกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.พิษณุโลกได้เชิญ นายแพทย์ วรงค์ เดชกิจวิกรม ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 พรรคประชาธิปัตย์ จ.พิษณุโลก และ นางเปรมฤดี ชามพูนท ผู้สมัครนายกเทศมนตรีเทศบาลนครพิษณุโลก เข้าไกล่เกลี่ย โดยมี นายนริศ ปิยพฤทธิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เป็นสักขีพยาน แต่ปรากฏว่า นพ.วรงค์ ไม่เดินทางมาตามนัด แจ้งว่า ติดการหาเสียง หลังเกิดกรณีทีมงานหาเสียงทั้ง 2 ฝ่าย เกิดวิวาทะแจ้งความทำร้ายจนเป็นคดีความรวมทั้งหมด 5 คดี

พล.ต.ต.ธรรมนูญ กล่าวว่า เรื่องข้อพิพาทระหว่างทีมหาเสียงของอดีตนายกเปรมฤดี กับ หมอวรงค์ ผู้สมัครเขต 1 ประชาธิปัตย์ นั้น ตนรายงานให้ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ทราบถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว จึงเชิญทั้ง 2 ฝ่ายมาเจรจาไกล่เกลี่ย เพราะเป็นคดีลหุโทษ ควรให้เรื่องยุติ ยอมความทางคดี ที่ทาง หมอวรงค์ แจ้งความไป 3 คดี และฝ่ายอดีตนายกเปรมฤดี แจ้งไป 2 คดี

ปัญหาที่เกิดขึ้นเกิดจากลูกน้องของทั้ง 2 ฝ่าย หากทุกคนทำตามกติกาก็ไม่มีปัญหา และไม่มีอะไรรุนแรง แต่ปรากฏว่า การนัดหมายครั้งนี้ นางเปรมฤดี เดินทางมาตามนัด แต่ทางหมอวรงค์ แจ้งว่า ติดการหาเสียงในพื้นที่ ทำให้ไม่สามารถเจรจาไกล่เกลี่ยเรื่องราวต่างๆ ได้

นางเปรมฤดี ชามพูนท ผู้สมัครนายกเทศมนตรีเทศบาลนครพิษณุโลก กล่าวว่า วันนี้มาตามนัดหมายของผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลก ที่ต้องการให้มาพูดคุยตกลงกันแบบผู้ใหญ่ โดยเชิญรองผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เป็นสักขีพยาน ไม่ใช่มาในฐานะจำเลย แต่มาในฐานะผู้แจ้งความ เป็นผู้เสียหาย ถูกล่วงล้ำสิทธิ ซึ่งได้แจ้งความว่า “ถูกล่วงล้ำสิทธิ” ไว้แล้ว เนื่องจากคนติดตามหมอวรงค์ ตามถ่ายภาพตนอย่างใกล้ชิดถึงตัว ถือว่า เป็นการก่อกวน และล่วงล้ำสิทธิส่วนบุคคล

“ตนเป็นนักการเมืองท้องถิ่น หมอวรงค์ เป็นนักการเมืองระดับชาติ ตนอาจพัวพันระดับชาติ เพราะลูกสาวลงสมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย ก็ว่ากันไป แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้เราเสียคะแนน ทำให้คนเกลียดชัง ดูหมิ่น เข้าใจผิด เพื่อหวังผลในการเลือกตั้งหรือไม่ กรณีดังกล่าวจะรวบรวมส่งให้ กกต.ดำเนินการ เพื่อความเป็นธรรมตามสิทธิต่อไป โดยเฉพาะข้อหานำข้อความเท็จไปขึ้นปราศรัยโจมตีตน” นางเปรมฤดี กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เย็นวานนี้ (5 มิ.ย.) ที่ห้องประชุมสำนักงานพรรคเพื่อไทย เขต 1 โรงแรมอมรินทร์ลากูน นางเปรมฤดี ชามพูนท ผู้สมัครนายกเทศมนตรีเทศบาลนครพิษณุโลก แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน และผู้นำชุมชนกว่า 50 ชุมชน เพื่อตอบโต้ข่าวกรณี นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ผู้สมัคร ส.ส.พิษณุโลก เขต 1 พรรคประชาธิปัตย์ แจ้งความถูกทำร้ายร่างกาย หลังจากออกหาเสียงบริเวณถนนคนเดิน ต.วัดจันทร์ อ.เมือง จ.พิษณุโลก เมื่อคืนวันที่ 4 มิถุนายน 54 ที่ผ่านมา

นางเปรมฤดี ระบุว่า ตนแจกบัตรหาเสียง และบังเอิญเจอทีมงาน นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ผู้สมัคร ส.ส.พิษณุโลก เขต 1 พรรคประชาธิปัตย์ เดินทางมาพอดี ทราบภายหลังว่า ทีมงานของ นพ.วรงค์ ถ่ายรูปทีมงานหาเสียงของตน ไม่สุภาพ ส.ท.แดง จึงไปห้ามว่าอย่าถ่ายแบบนั้น เสียมารยาท มีการใช้มือผลักกันเท่านั้น ยืนยันว่า ไม่มีการทำร้ายร่างกายตามข่าว

“พฤติกรรมของ ร.อ.ทรงกลด ชื่นชูผล เป็นคนติดตาม นพ.วรงค์ มีประวัติเป็นทหารที่มีการร้องเรียนผู้บังคับบัญชา ชอบติดตามถ่ายรูปลูกสาวตนขณะออกหาเสียง ทำให้ลูกสาวเกิดความกลัว ตอนนี้ได้ร้องเรียนไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมนำเอกสาร และคลิปวิดีโอ เหตุการณ์วิวาทกันแจ้งให้ กกต.ทราบ เพราะมีพฤติกรรมแบบข่มขู่ มีการกล่าวร้ายป้ายสี พยายามทำให้คนอื่นรู้สึกเกลียดชังผู้สมัครอีกฝ่าย ซึ่งกรณีเช่นนี้ กกต.เคยมีใบแดงให้มาแล้ว”

ด้าน นายอวิรุทธิ์ นาทิพย์ อดีต ส.ท.เทศบาลนครพิษณุโลก เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียกครั้งแรกในวันนี้ (6 มิ.ย.) ตามคดีระหว่าง ร้อยเอก ทรงกลด ชื่นชูผล กับ นายอวิรุทธิ์ นาทิพย์ ในคดีร่วมกันทำร้ายผู้อื่น ไม่ถึงกับเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่ร่างกายและจิตใจ ก่อนแจ้งความกลับในข้อหา “แจ้งความเท็จ”

ขณะเดียวกัน ทีมงานของ นพ.วรงค์ ได้แจ้งต่อสื่อมวลชนในพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก ว่า จะเปิดแถลงข่าวเกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดในเวลาประมาณ 17.00 น.วันนี้ (6 มิ.ย.) ที่โรงแรมวังแก้ว อ.เมือง จ.พิษณุโลก