สสจ.อุบลฯจับมือหน่วยงานรัฐ เอกชน จัดเข้มเขตห้ามสูบบุหรี่

อุบลราชธานี - สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุบลราชธานี จับมือมหาดไทย องค์กรเอกชน ไล่บี้สิงห์อมควันให้อยู่ในเขตกักกัน เพื่อสร้างเสริมสุขภาพให้ผู้ไม่สูบบุหรี่ และผู้ป่วย หากฝืนโดนโทษหนัก

นายแพทย์ สุรพร ลอยหา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวว่า ตามที่องค์การอนามัยโลกกำหนดให้วันที่ 31 พฤษภาคม ของทุกปี เป็นวันงดสูบบุหรี่โลก เพื่อรณรงค์ให้มีผู้สูบบุหรี่น้อยลง เพราะควันบุหรี่เป็นผลเสียแก่สุขภาพของผู้สูบ และไม่สูบบุหรี่ที่อยู่ใกล้เคียงหลายประการ รวมทั้งควันบุหรี่ยังทำให้โรคบางโรค เช่น โรคหอบ หืด หรือภูมิแพ้มีอาการกำเริบ เมื่อผู้ป่วยได้รับควันบุหรี่เข้าไป และยังพิสูจน์ว่า การที่ผู้ไม่สูบบุหรี่ต้องสูดควันบุหรี่ ซึ่งผู้อื่นสูบเข้าไป ยังเป็นผลเสียแก่สุขภาพของผู้นั้นเช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นกับผู้สูบบุหรี่เองด้วย

เพื่อสนองพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเป็นการป้องกันมิให้ผู้ไม่สูบบุหรี่ได้รับผลกระทบจากการสูดดมควันบุหรี่ หรือให้ผู้สูบบุหรี่ตระหนักถึงพิษภัยจากการสูบบุหรี่ แล้วลด ละ เลิกการสูบบุหรี่ โดยให้หน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจเป็นแบบอย่างที่ดีในการปฏิบัติตามกฎหมาย

จึงมีข้อตกลงร่วมกันตามบันทึกความร่วมมือในการจัดสถานที่ราชการเป็นเขตปลอดบุหรี่ ระหว่างกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทย กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ และผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี คือ

จัดสถานที่และติดเครื่องหมายเขตปลอดบุหรี่หรือเขตสูบบุหรี่ให้ถูกต้องตามกฎหมายอย่างต่อเนื่องเป็นรูปธรรม และให้มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง งดการโฆษณาเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ยาสูบ จัดระเบียบการค้าขายภายในสถานที่ โดยไม่อนุญาตให้ร้านค้าจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยาสูบ หรือกวดขันพนักงานขายให้ปฏิบัติตามกฏหมายอย่างเคร่งครัดในเรื่องห้ามจำหน่ายบุหรี่ให้เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ตามพระราชบัญญัติควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ.2535 และพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 สุดท้ายไม่รับการอุดหนุนหรือสนับสนุนด้านการเงินและสิ่งอื่นๆจากอุตสาหกรรมยาสูบ

นอกจากนั้นแล้ว ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองสุขภาพของผู้ไม่สูบบุหรี่ พ.ศ.2535 กำหนดให้สถานที่ราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานอื่นของรัฐ เป็นสถานที่สาธารณะที่ให้มีการคุ้มครองสุขภาพของผู้ไม่สูบบุหรี่ โดยกำหนดเป็นเขตปลอดบุหรี่ทั้งหมด ยกเว้นห้องพักส่วนตัว หรือห้องทำงานส่วนตัว และบริเวณที่จัดไว้เป็นเขตสูบบุหรี่เป็นการเฉพาะ จึงให้เข้มงวดสภาพและลักษณะของเขตสูบบุหรี่ ต้องเป็นไปตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขฉบับที่ 9 พ.ศ.2540 คือ

เขตสูบบุหรี่ต้องไม่อยู่ในบริเวณที่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญแก่ผู้อื่น ไม่อยู่ในบริเวณทางเข้า-ออกของสถานที่สาธารณะที่ได้รับการคุ้มครอง ไม่อยู่ในบริเวณที่เปิดเผย ซึ่งเป็นที่เห็นได้ชัดเจนแก่ผู้มาใช้สถานที่นั้น และต้องแสดงเครื่องหมายเขตสูบบุหรี่ ณ บริเวณที่จัดให้เป็นที่สูบบุหรี่อย่างชัดเจน

ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองหมื่นบาท และห้ามมิให้ผู้ใดสูบบุหรี่ในเขตปลอดบุหรี่ ผู้ใดฝ่ามีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท โดยทั้งหมดจะร่วมกันรณรงค์และเอาผิดกับผู้ที่ฝ่ายฝืนอย่างเข้มข้นจริงจังต่อไป