เลย - ธ.ก.ส.เลยเตรียมพร้อมรับโครงการปุ๋ยลดต้นทุนของรัฐบาล คาดเกษตรกรกว่า 120,000 รายเข้าร่วม เล็งอัดเม็ดเงินกว่า 20 ล้านบาทรองรับ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามที่รัฐบาลมีโครงการส่งเสริมการใช้ปุ๋ย เพื่อลดต้นทุนการผลิตของเกษตรกร โดยเริ่มแล้วในต้นเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อให้เกษตรกรได้มีความรู้ในการใช้ปุ๋ย ให้เกษตรกร ใช้ปุ๋ยให้ตรงกับความต้องการ และลดต้นทุน โดยรัฐจะชดเชยให้กิโลกรัมละ 1.5 บาท ให้กับเกษตรกรที่ปลูกพืช 3 ชนิด ได้แก่ ข้าวนาปี ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และมันสำปะหลัง โดยมีสูตรปุ๋ย ตามโครงการได้แก่ 15-15-15, 16-20-0, 16-16-8, 16-8-8, 16-12-6 และ 46-0-0
นางศิริเพ็ญ โกษารักษ์ ผอ.ธ.ก.ส.เลย กล่าวว่า ขณะนี้ ธ.ก.ส เลยได้นำฐานข้อมูล เกษตรกรผู้เข้าร่วมโครงการการประกันรายได้ที่ได้ผ่านประชาคมแล้วมาปรับเพื่อเตรียมรองรับเกษตรกรที่จะเข้าร่วมโครงการโดย ธ.ก.ส.เลยได้ประชุมชี้แจงไปยังทุกสาขาในจังหวัดเลย
ส่วนพืชผลผลิตจังหวัดเลยปีนี้ราคาดีขึ้นมาก เช่น ข้าวโพด ปีที่ผ่านมา ราคากิโลกรัม 6 บาท ในวันนี้ ราคา 9 บาท มันสำปะหลัง จาก 2 บาท เป็น 4 บาท
นางศิริเพ็ญกล่าวต่ออีกว่า โครงการดังกล่าวในพื้นที่จังหวัดเลยจะมีเกษตรกรเข้าร่วม มากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ หรือประมาณ 120,000 อย่างแน่นอน หรืออาจจะมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับเกษตรกรจะเห็นความสำคัญ แต่อาจจะทยอยไปจนกว่าสิ้นฤดูปลูกพืช ซึ่งหากมีเกษตรกรเข้าร่วม โครงการนี้ ธ.ก.ส เลยจะต้องเตรียมพร้อมและต้องมีการเตรียม ปุ๋ยไว้ประมาณ 11,620 ตัน หรือประมาณ 583,000 กระสอบ ใช้เงินรองรับประมาณ 20 ล้านบาท
ธ.ก.ส.เลยมีแผนระดับตำบลที่จะคอยรองรับเกษตรกรในโครงการ มีการลงพื้นที่ไปรับจดทะเบียน ใช้ปุ๋ย ถึงหมู่บ้านของเกษตรเอง ไม่ต้องให้เกษตรกรเดินทางมายังสำนักงาน ธ.ก.ส. คาดต้นเดือนมิถุนายนนี้สามารถเริ่มได้
การกำหนดรูปแบบวิธีการจัดหาปุ๋ย แบ่ง 2 รูปแบบ คือ การซื้อด้วยเงินสดแล้วมาลงทะเบียน ที่ ธ.ก.ส. และจากการกู้เงินจากธนาคารเพื่อซื้อปุ๋ย สำหรับคุณสมบัติของผู้จำหน่ายปุ๋ยนั้น คือเป็น บุคลธรรมดาหรือนิติบุคล ที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย และตั้งอยู่ในพื้นที่การดำเนินการของ ธ.ก.ส.สำนักงานจังหวัดเลย มีใบอนุญาตการจำหน่ายปุ๋ยที่ยังไม่หมดอายุ และต้องดำเนินการมาแล้วไม่ต่ำกว่า 1 ปี