“เลือกตั้งสมานฉันท์” เชียงใหม่งานกร่อย ผู้สมัคร ส.ส.เมินปฏิญาณตน มาไม่ถึงครึ่ง

ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ประชุมเลือกตั้งเชิงสมานฉันท์งานกร่อยผู้สมัคร ส.ส.โผล่มาไม่ถึงครึ่ง ตอนปฏิญาณตนยิ่งแย่เหลือแค่ 18 คน “เพื่อไทย” สุดบู่เหลือ “ทัศนีย์” ร่วมพิธีคนเดียว “เพื่อฟ้าดิน” ครองแชมป์ส่ง 8 คน มา 7 ขาดแค่คนเดียว ด้าน กกต.เชียงใหม่ ย้ำ อยากเห็นการเลือกตั้งที่สร้างสรรค์ พร้อมเตือนผู้สมัครดูแลผู้สนับสนุนอย่าให้ก่อปัญหา วอนไม่อยากให้เชียงใหม่มีภาพเป็นถิ่นใครคนใดคนหนึ่งเพราะไม่เกิดประโยชน์กับคนในจังหวัด

วันนี้ (29 พ.ค.) ที่หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา จังหวัดเชียงใหม่ คณะกรรมการการเลือกตั้งจังหวัดเชียงใหม่ ได้จัดการประชุมชี้แจงข้อปฏิบัติเกี่ยวกับการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบแบ่งเขตเลือกตั้ง จังหวัดเชียงใหม่ หรือการเลือกตั้งเชิงสมานฉันท์ขึ้น โดยได้เชิญบรรดาผู้สมัครับเลือกตั้งจากพรรคการเมืองต่างๆ และผู้สนับสนุน รวมทั้ง กกต.เขตต่างๆ ในจังหวัดเชียงใหม่เข้าร่วมงาน

ภายในงานดังกล่าว นอกจากจะมีการชี้แจงนโยบายเกี่ยวกับการเลือกตั้งของจังหวัดเชียงใหม่ และข้อปฏิบัติและข้อห้ามต่างๆ ในการเลือกตั้งจาก กกต.จังหวัดและหัวหน้างานฝ่ายต่างๆ แล้ว สิ่งที่น่าสนใจเป็นพิเศษในงานดังกล่าว ได้แก่การทำพิธีปฏิญาณตนของผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรระบบแบ่งเขตเลือกตั้งจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งทาง กกต.ได้จัดไว้เป็นรายการสุดท้ายของงาน

อย่างไรก็ตาม พิธีดังกล่าวกลับไม่ได้รับความสนใจจากผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรระบบแบ่งเขตมากนัก โดยมีผู้สมัครเพียง 23 คนจากจำนวนผู้สมัครทั้งหมดของจังหวัดเชียงใหม่ 60 คนที่ลงชื่อเข้าร่วมงาน และเมื่อถึงช่วงของการปฏิญาณตน กลับเหลือผู้สมัครรับเลือกตั้งเพียง 18 คนเท่านั้นที่ร่วมในพิธี

ทั้งนี้ พรรคเพื่อฟ้าดินนั้นกลายเป็นพรรคที่มีผู้สมัครอยู่ร่วมในพิธีมากที่สุด โดยมีผู้สมัครถึง 7 คน จากผู้สมัครที่ลงสมัครรับเลือกตั้งในจังหวัดเชียงใหม่ทั้งหมด 8 คนร่วมอยู่ในพิธีปฏิญาณตน ขณะที่พรรคการเมืองใหญ่ซึ่งส่งผู้สมัครในจังหวัดเชียงใหม่ครบทั้ง 10 เขตอย่างพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาธิปัตย์กลับมีผู้สมัครเข้าร่วมในพิธีไม่มากนัก โดยพรรคประชาธิปัตย์มีผู้สมัคร 5 คนอยู่ร่วมในพิธีปฏิญาณตน ส่วนพรรคเพื่อไทยมีเพียง น.ส.ทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเขต 1 เพียงคนเดียวเท่านั้นที่ร่วมพิธี

นอกจากนี้ เมื่อพิจารณาโดยแบ่งผู้สมัครออกตามเขตเลือกตั้งต่างๆ แล้ว พบว่าในเขตเลือกตั้งที่ 4 พื้นที่ อ.สันทราย อ.พร้าว และ อ.แม่แตง เฉพาะตำบลแม่หอพระ ซึ่งมีผู้เสนอตัวลงสมัครรับเลือกตั้งถึง 7 คนนั้น กลับมีเพียง นายสิทธัญ วงค์ปั๋น ผู้สมัครจากพรรคเครือข่ายชาวนาแห่งประเทศไทย เท่านั้น ที่เข้าร่วมพิธีปฏิญาณตน

นายสุชาติ ใจภักดี ผู้อำนวยการการเลือกตั้งจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวในระหว่างการประชุมว่า จังหวัดเชียงใหม่เป็นเมืองแห่งวัฒนธรรม มีประเพณีที่ดีงามมายาวนาน การเลือกตั้งในครั้งนี้จึงอยากขอให้ผู้สมัครทุกคนนึกถึงสิ่งนี้ และช่วยกันทำให้การเลือกตั้งของเชียงใหม่เป็นไปอย่างสร้างสรรค์ ไม่แข่งขันกันอย่างรุนแรงเอาเป็นเอาตาย

ที่ผ่านมา มีการร้องเรียนเข้ามาเรื่องการทำลายป้ายหาเสียงของผู้สมัครซึ่งถือเป็นภาพลักษณ์ที่ไม่ดีต่อจังหวัด จึงอยากฝากผู้สมัครแต่ละคนให้ทำความเข้าใจ และขอความร่วมมือจากกลุ่มผู้สนับสนุนไม่ให้ก่อปัญหาหรือทำอะไรที่ผิดกฎที่วางไว้ เพราะ กกต.เองก็อยากจะเห็นการแข่งขันอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม แต่ละพรรคไปสู้กันในเวทีเลือกตั้ง ไม่ใช่มุ่งแต่จะเล่นงานกันหรือสร้างบรรยากาศจนดูเหมือนว่าเชียงใหม่เป็นถิ่นของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ซึ่งสุดท้ายแล้วไม่ได้เกิดประโยชน์อะไรกับชาวเชียงใหม่เลย

นอกจากนี้ นายสุชาติ ยังแสดงความเป็นห่วงถึงกฎเกณฑ์การเลือกตั้งในครั้งนี้ที่มีการเปลี่ยนแปลงหลายประการ โดยเฉพาะในส่วนของการเลือกตั้งล่วงหน้าทั้งแบบนอกเขตจังหวัดและในเขตจังหวัด เนื่องจากเกรงว่าจะมีประชาชนจำนวนมากยังไม่เข้าใจและเกิดความสับสนเกี่ยวกับการลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้า จึงได้ประกาศขอความร่วมมือจากผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรให้ช่วยเผยแพร่ข้อมูลผ่านกลุ่มผู้สนับสนุนเพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้อง หากประชาชนเข้าใจแล้วก็จะไปใช้สิทธิโดยไม่ผิดพลาด ผู้สมัครก็จะได้คะแนนเสียง ส่วน กกต.เองก็จะได้ประโยชน์จากตัวเลขของผู้ออกเสียงเลือกตั้งที่เพิ่มขึ้นด้วย