ศูนย์ข่าวศรีราชา - “มาร์ค” นำทีมลงพื้นที่เมืองชลบุรี วอนขอเสียงเพื่อสานงานเก่า ชี้ ผลงาน 2 ปีสร้างประโยชน์เพื่อชาวตะวันออกมากมาย เหน็บพรรคการเมืองอื่นหาเสียงเพื่อแก้กฎหมายเอื้อพวก ขณะที่ ปชป.เน้นทำงานเพื่อสังคม
วันนี้ (29 พ.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ รักษาการนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายกรณ์ จาติกวณิช รกษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายอลงกรณ์ พลบุตร รักษาการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมผู้สมัคร ส.ส.เขตพื้นที่จังหวัดชลบุรี ประกอบด้วย นายธนโรจน์ โรจนกุลเศรษฐ์ ผู้สมัครเขต 6 นางพจนารถ แก้วผลึก ผู้ สมัครเขต 7 และ นายไมตรี สอยเหลือง ผู้สมัครเขต 8 เดินทางไปยังโรงเรียนวิวัฒน์พลเมือง กองทัพเรือ 3 กรมทหารปืนใหญ่ กองพลนาวิกโยธิน หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน กองทัพเรือ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เพื่อเยี่ยมชมและบำบัดฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดของนักเรียนวิวัฒน์พลเมือง กองทัพเรือ 3 กว่า 200 คน โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี และประชาชนที่แห่มาให้การต้อนรับ ก่อนจะออกมาพบ ปะประชาชนและจะมุ่งหน้าเข้าเมืองพัทยาเพื่อช่วยลูกทีมหาเสียง
โดยได้เดินทางมายังพื้นที่บริเวณลานอเนกประสงค์ ซอย 4 ชายหาดพัทยาเหนือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ก่อนจะขึ้นกล่าวปราศรัยและแนะนำตัวผู้สมัคร พร้อมทั้งนโยบายสำคัญของพรรคประชาธิปัตย์
โดย นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ในการเลือกตั้งปี 2550 ที่ผ่านมา ประชาชนในพื้นที่จังหวัดชลบุรีและใกล้เคียงได้ให้ความไว้วางใจในการเลือกสมาชิกจากพรรคประชาธิปัตย์เข้ามาทำงานแบบยกทีม ด้วยเห็นพ้องต้องกันว่าต้องการปรับเปลี่ยนคนทำงานที่มุ่งมั่นการพัฒนาต่อบ้านเมืองอย่างจริงจังซึ่งถือว่าเป็นนิมิตรหมายที่ดี ซึ่งต้องขอบอกวาตลอดระยะเวลา 2 ปีกว่าที่ผ่านมา ทีมงานจากพรรคประชาธิปัตย์มุ่งมั่นทำงานกันอย่างเต็มที่ เพราะมีปัญหาเกิดขึ้นในบ้านเมืองมากมาย ทั้ง เศรษฐกิจ การเมือง ภัยพิบัติ และความขัดแย้งในด้านต่างๆ ซึ่งก็พบว่าทุกอย่างเริ่มเข้ารูปเข้ารอยและมีสภาพที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า สำหรับภาคตะวันออกนั้น ถือว่าเป็นพื้นที่สำคัญและทางรัฐบาลเองก็เล็งเห็นเช่นกัน จึงได้ผลักดันโครงการต่างๆ ที่เป็นประโยชน์เพื่อมาส่งเสริมและสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง อาทิ นโยบายการเสริมศักยภาพภาคอุตสาหกรรม โดยเฉพาะการพัฒนาเมืองท่าให้มีความสมบูรณ์แบบทั้งในส่วนของแหลมฉบัง และระยอง
รวมทั้งการอนุมัติงบประมาณกว่า 1.5 หมื่นล้านบาท เพื่อพัฒนาการท่อง เที่ยวให้มีความยั่งยืนในช่วงปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา ซึ่งจากนี้จะเกิดโครงการที่เป็นประโยชน์ตามมามากมาย ทั้งเรื่องของการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว เรื่องของขยะมูลฝอย สิ่งแวดล้อม หรือน้ำเสีย ก็จะมีการพัฒนาและดูแลอย่างจริงจังต่อจากนี้
นอกจากนี้ ทางรัฐบาลยังได้ผลักดันและเดินหน้าโครงการเสริมศักยภาพด้านอุตสาหกรรมและการท่องเที่ยวอย่างจริงจัง ด้วยการอนุมัติโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูง หรือ Hi-Speed Train ที่ได้มีการอนุมัติหลักการในการให้ภาคเอกชนมาลงทุนในการจัดทำเส้นทางดังกล่าวในภูมิภาคตะวันออก ซึ่งจะถือว่าเกิดประโยชน์ต่อภาพรวมเป็นอย่างยิ่ง โดยนโยบายเหล่านี้เป็นสิ่งที่มีการผลักดันและเกิดผลขึ้นจริง
ทั้งนี้ เพราะพรรคประชาธิปัตย์มีความมุ่งมั่นตั้งใจ และทุ่มเทเพื่อการทำงานให้กับประชาชนและสังคมอย่างต่อเนื่อง โดยไม่เห็นแก่เหน็ดเหนื่อย ผิดกับพรรคการเมืองอื่นๆที่หาเสียงอยู่ในปัจจุบันที่เน้นแต่เรื่องของการผลักดันให้มีการแก้ไขกฎหมายนิรโทษกรรมเพื่อช่วยเหลือพวกพ้อง แต่พรรคประชาธิปัตย์ไม่เพราะยังคงเน้นเรื่องของปากท้อง เศรษฐกิจ และภาพรวมหรือผลประโยชน์ของประเทศเป็นหลัก จึงอยากให้ประชาชนได้ตัดสินใจเลือกพรรคประชาธิปัตย์อีกครั้งเพื่อเข้าไปสานงานต่อให้เกิดขึ้นเป็นรูปธรรม แทนที่จะต้องเสียเวลาไปนั่งนับ 1 ใหม่กับพรรคการเมืองอื่นๆ
