“พ่อคูณ” บ่นอยากฉันภัตตาหารเอง-แพทย์พอใจผลรักษา

ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- “พ่อคูณ” บ่นอยากฉันภัตตาหารเอง อาการดีขึ้นแพทย์พอใจในผลการรักษา แต่ยังต้องให้อาหารทางสายยางต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มสารอาหารให้ครบตามหลักโภชนาการ เนื่องจากหลวงพ่อขาดสารอาหารมานาน

วันนี้ (25 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าอาการอาพาธของพระเทพวิทยาคม (หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ) เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ซึ่งพักรักษาอาการอาพาธด้วยวัณโรคปอด ที่ห้องผู้ป่วยพิเศษ 9821 ชั้น 8 อาคารเฉลิมพระเกียรติ รพ.มหาราชนครราชสีมา ตั้งแต่วันที่ 4 พ.ค.ที่ผ่านมา

ล่าสุด อาการของหลวงพ่อคูณ โดยรวมดีขึ้นต่อเนื่อง เป็นที่พอใจของคณะแพทย์ หน้าตาสดชื่นขึ้น ไม่มีอาการอ่อนเพลีย แต่ยังคงให้อาหารทางสายยางต่อเนื่อง และเพิ่มเติมยารักษาวัณโรคเข้าไป ซึ่งหลวงพ่อคูณมีน้ำหนักลดลง 1 กิโลกรัม จากเดิม 37 กิโลกรัม เหลือ 36 กิโลกรัม ซึ่งแพทย์ระบุว่าเป็นภาวะปกติของผู้ป่วยวัณโรคน้ำหนักจะไม่คงที่ อาจลดลงหรือเพิ่มขึ้นบ้างในช่วง 1 เดือนนี้

ขณะที่บริเวณหน้าห้องพักมีศิษยานุศิษย์ชาวมาเลเซียกว่า 10 คน เดินทางมาเยี่ยมอาการ แต่ไม่สามารถเข้าไปภายในห้องพักได้ เนื่องจากแพทย์งดเยี่ยมเด็ดขาด จึงกราบนมัสการอยู่หน้าห้องพักและลงนามในสมุดเยี่ยมก่อนเดินทางกลับ ขณะที่ผู้บริหารบริษัทเรนโบว์ ได้นำเครื่องฟอกอากาศมาถวายหลวงพ่อคูณโดยมีลูกศิษย์ใกล้ชิดรับแทน

ด้าน นพ.พินิศจัย นาคพันธ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจและหลอดเลือด รพ.มหาราชนครราชสีมา เปิดเผยว่า อาการโดยภาพรวมดีขึ้น โดยเฉพาะรับอาหารที่ให้ทางสายยางได้หมด วันนี้หลวงพ่อสามารถเดินออกกำลังกายไปได้ไกลขึ้น

จากการเข้าตรวจครั้งล่าสุดแพทย์ทุกคนก็ดูว่าหลวงพ่อดีขึ้นเราก็มีความสุขขึ้น แต่ว่าเราก็ยังกังวลในเรื่องผลแทรกซ้อนจากยา จากตัวเชื้อวัณโรคเอง และจากอวัยวะอื่นๆ เช่น หัวใจ และสมอง เพราะท่านมีปัญหาพวกนี้อยู่ ซึ่งช่วงนี้เรายังปรับยาวัณโรคอยู่ อีกอันหนึ่งที่เรากังวลคือท่านอยู่โรงพยาบาล เชื้อในโรงพยาบาลอาจจะเป็นปัญหาเหมือนกัน แต่เราก็เฝ้าระวังป้องกันอย่างเต็มที่อยู่

จากการสอบถามอาการหลวงพ่อตอนนี้รู้สึกว่า หลวงพ่อเริ่มถามว่า ไม่มีใครเอาอะไรมาให้กูฉันเลยเหรอ ซึ่งตรงนี้อาจจะทำให้ท่านมีความรู้สึกอยากจะฉันภัตตาหารเอง แต่เราคงจะต้องให้อาหารทางสายยางนานที่สุดเท่าที่จะให้ได้ เพราะหลวงพ่อขาดสารอาหารมานาน ฉะนั้นถ้าเราให้ทางสายยางได้และไม่เป็นปัญหากับท่านมันน่าจะเป็นผลดี

นพ.พินิศจัย กล่าวต่อว่า สำหรับภาวะน้ำในเยื่อหุ้มปอดนั้น จากผลของการเอ็กซเรย์เมื่อวันที่ 23 พ.ค.ที่ผ่านมา พบว่า ลดลงชัดเจน ภาวะตับอักเสบดีขึ้น เมื่อตับดีขึ้นทางคณะแพทย์จะต้องปรับยารักษาวัณโรคให้ได้เต็มรูปแบบ ซึ่งยาที่ให้เข้าไปใหม่ก็อาจจะมีผลต่อตับอีก แต่เราก็ให้ด้วยความระมัดระวัง ฉะนั้น ช่วงนี้คงจะต้องดูอย่างใกล้ชิดเหมือนเดิมต่อเนื่องต่อไป