ลำปาง - เจ้าหน้าที่ กกต.จังหวัด เร่งเตรียมสถานที่รับสมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง ที่จะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ (24 พ.ค.) โดยนัดพร้อมกันที่ห้องประชุม 3 ศาลากลางจังหวัดแทน ขณะที่กรรมการการเลือกตั้ง นัดประชุมร่วมบ่ายนี้ (23 พ.ค.)
สายวันนี้ (23 พ.ค.) เจ้าหน้าที่ของสำนักงานการเลือกตั้งจังหวัดลำปาง หรือ กกต. ได้เร่งเตรียมห้องสำหรับการรับสมัครเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง ซึ่งจะมีขึ้นวันแรกในวันพรุ่งนี้ (24 พ.ค.) แล้ว โดย กกต.ได้ใช้ห้องประชุม 3 ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดลำปาง เป็นสถานที่รับสมัครเลือกตั้ง ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง ของจังหวัดลำปาง แทนห้องประชุม 1 ซึ่งใช้เป็นสถานที่รับสมัครมาทุกครั้ง
เหตุผลที่เลือกใช้ห้องประชุม 3 ศาลากลางจังหวัด เจ้าหน้าที่ระบุว่า เนื่องจากการรับสมัครในครั้งนี้ บรรดากองเชียร์หรือผู้สนับสนุนคงจะไม่มากเหมือนทุกครั้ง เพราะผู้สมัครได้หมายเลขกันทั้งหมดแล้วไม่ต้องมารอลุ้นให้เสียเวลา ดังนั้น จึงสามารถใช้ห้องรับสมัครที่เล็กลงกว่าเดิมได้
ในวันนี้จึงได้ให้เจ้าหน้าที่เร่งทำความสะอาดห้อง ติดป้ายสถานที่รับสมัคร จัดโต๊ะลงทะเบียนไว้ด้านหน้าห้อง โต๊ะตรวจเอกสาร โต๊ะรับเงินค่าสมัคร และอื่นๆ ไว้ภายในห้อง พร้อมทดสอบอุปกรณ์ประชาสัมพันธ์ ซึ่งคาดว่าการรับสมัครวันแรกในวันพรุ่งนี้ จะไม่มีปัญหาใดๆ
ส่วนคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดลำปาง จะได้ประชุมเพื่อเตรียมการรับสมัครอีกครั้งในบ่ายวันนี้ (23 พ.ค.)
สำหรับจังหวัดลำปางได้แบ่งเขตเลือกตั้งออกเป็น 4 เขต ประกอบด้วย เขตเลือกตั้งที่ 1 ประกอบด้วย อำเภอเมืองลำปาง (เฉพาะเทศบาลนครลำปาง) ต.บ้านค่า บ้านเอื้อมบ้านเป้า บ่อแฮ้ว นิคมพัฒนาทุ่งฝาย ต้นธงชัย และบุญนาคาพัฒนา ประชากร 131,548 คน และอำเภอห้างฉัตรทั้งหมด ประชากร 50,368 คน รวม 181,916 คน
เขตเลือกตั้งที่ 2 ประกอบด้วย อำเภอเมือง (เฉพาะตำบลบ้านแลง) ประชากร 6,908 คน อำเภอเมืองงาว ประชากร 57,112 คน อำเภอวังเหนือประชากร 44,639 คน อำเภอแจ้ห่ม 41,255 คน และอำเภอเมืองปาน 34,013 คน รวม 183,927 คน
เขตเลือกตั้งที่ 3 ประกอบด้วย 3 ประกอบด้วย อำเภอเมือง (เฉพาะเทศบาลเมืองเขลางค์นคร ตำบลพิชัยและบ้านเสด็จ) ประชากร 94,991 คน อำเภอแม่ทะ 61,126 คน และอำเภอแม่เมาะ 39,534คน รวม 195,654 คน และ
เขตเลือกตั้งที่ 4 ประกอบด้วย อำเภอเกาะคา 61,977 คน อำเภอสบปราบ 28,058 คน อำเภอแม่พริก 16,852 คน อำเภอเสริมงาม 32,268 คน และอำเภอเถิน 61,300 คน รวม 200,445 คน
