พระนครศรีอยุธยา - ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา สั่งตำรวจเช็กข่าวมือปืนซุ้มภาคตะวันตกและภาคใต้เข้ามาเคลื่อนไหวในพระนครศรีอยุธยา หลังนักการเมืองส่งสัญญาณเตรียมป่วนเลือกตั้ง ส.ส.
วันนี้ (12 พ.ค.) เวลา 10.15 น. พล.ต.ต.อนุรักษ์ แตงเกษม ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยกรณีมีข่าวมือปืนซุ้มภาคตะวันตกจาก จ.ราชบุรี และ จ.เพชรบุรี และภาคใต้จาก จ.ชุมพร และ จ.สุราษฎ์ธานี เข้ามาเคลื่อนไหวในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ในช่วงที่กำลังจะมีการเลือกตั้ง ส.ส.นี้ว่า เรื่องดังกล่าวตนยังไม่ได้รับรายงานอย่างเป็นทางการ แต่เท่าที่ทราบมีนักการเมืองใน จ.พระนครศรีอยุธยา เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่าช่วง 2 เดือนที่ผ่านมามีกลุ่มมือปืนจาก 2 ซุ้มเข้ามารับงานใน จ.พระนครศรีอยุธยา แต่ยังไม่รู้ว่าเป้าหมายเป็นใคร จากนี้ไปจะมอบหมายให้ชุดสืบสวนจังหวัดฯ ลงพื้นที่หาข้อมูลเชิงลึกว่ามีจริงหรือไม่ และหากเป็นจริงเป้าหมายของกลุ่มมือปืนเป็นใคร เพราะอย่างน้อยจะได้สกัดไม่ให้มือปืนกลุ่มนี้ทำงานได้
ส่วนการเตรียมพร้อมของเจ้าหน้าที่ตำรวจในช่วงที่จะมีการเลือกตั้ง ส.ส.นั้นได้ประชุมชุดสืบสวนของแต่ละสถานีไปแล้วให้ตรวจสอบข้อมูลมือปืนรับจ้างว่า ใครมีความเชื่อมโยงกับใคร และมีการจัดหามือปืนเข้ามาแต่ละพื้นที่หรือไม่ โดยให้จัดส่งข้อมูลทั้งหมดในทางลับเพื่อง่ายต่อการติดตามและตรวจสอบข้อมูล
นอกจากนี้ยังมีคำสั่งไปแล้วว่า หากผู้สมัคร ส.ส.คนใดต้องการตำรวจติดตามในช่วงที่มีการหาเสียงเลือกตั้งก็สามารถร้องขอมาได้ โดยจะอำนวยความสะดวกให้ทุกพรรคอย่างเท่าเทียมกัน อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าการเลือกตั้ง ส.ส.ของ จ.พระนครศรีอยุธยา ไม่น่าจะเกิดเหตุการณ์รุนแรงเหมือนในบางจังหวัด
มีรายงานข่าวจากชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 1 ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดทำบัญชีรายชื่อของมือปืนรับจ้างในช่วงนี้ โดยบุคคลลำดับที่ 1 ที่ตำรวจภูธรภาค 1 ต้องการตัวมากที่สุดขณะนี้ได้เปลี่ยนชื่อจาก ส.อ.บุญย์ตรี มุสะกะ หรือ “จ่าบึ๋ง” มาเป็น นายกิจ เหมือนวงศ์ธรรม หรือ “แอ้ว บางละมุง”
นอกจากนี้ยังมีซุ้มมือปืนกลุ่มคนมีสีกลุ่มใหญ่ทั้งใน จ.สระบุรี และ จ.ลพบุรี ที่ตำรวจภูธรภาค 1 ติดตามเป็นพิเศษ เพราะมีข่าวว่ามีการรับงานในช่วงเลือกตั้งมาแล้วอย่างน้อย 4 จังหวัด คือ สระบุรี ลพบุรี อ่างทอง และพระนครศรีอยุธยา ซึ่งซุ้มมือปืนใน 2 จังหวัดนี้มีกลุ่มค่อนข้างใหญ่ และมีโครงข่ายโยงใยถึงกันหมด
แต่สิ่งที่ตำรวจภูธรภาค 1 กำลังพบปัญหา คือ มือปืนที่ยังไม่มีหลักฐานในการก่อเหตุ ยังไม่สามารถขึ้นบัญชีไว้ได้ เพราะสุ่มเสี่ยงต่อการถูกฟ้อง แต่ได้มีการส่งชุดเคลื่อนที่เร็วติดตามกลุ่มมือปืนกลุ่มนี้แล้ว และเชื่อว่าการที่ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ที่ปรึกษา (สบ 10) รักษาราชการแทน ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง รอง ผบช.ภาค 1 กำชับเรื่องนี้มาเป็นพิเศษในช่วงเลือกตั้ง คาดว่าจะทำให้ความรุนแรงใน 3-4 จังหวัดนี้ลดลง
วันนี้ (12 พ.ค.) เวลา 10.15 น. พล.ต.ต.อนุรักษ์ แตงเกษม ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยกรณีมีข่าวมือปืนซุ้มภาคตะวันตกจาก จ.ราชบุรี และ จ.เพชรบุรี และภาคใต้จาก จ.ชุมพร และ จ.สุราษฎ์ธานี เข้ามาเคลื่อนไหวในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ในช่วงที่กำลังจะมีการเลือกตั้ง ส.ส.นี้ว่า เรื่องดังกล่าวตนยังไม่ได้รับรายงานอย่างเป็นทางการ แต่เท่าที่ทราบมีนักการเมืองใน จ.พระนครศรีอยุธยา เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่าช่วง 2 เดือนที่ผ่านมามีกลุ่มมือปืนจาก 2 ซุ้มเข้ามารับงานใน จ.พระนครศรีอยุธยา แต่ยังไม่รู้ว่าเป้าหมายเป็นใคร จากนี้ไปจะมอบหมายให้ชุดสืบสวนจังหวัดฯ ลงพื้นที่หาข้อมูลเชิงลึกว่ามีจริงหรือไม่ และหากเป็นจริงเป้าหมายของกลุ่มมือปืนเป็นใคร เพราะอย่างน้อยจะได้สกัดไม่ให้มือปืนกลุ่มนี้ทำงานได้
ส่วนการเตรียมพร้อมของเจ้าหน้าที่ตำรวจในช่วงที่จะมีการเลือกตั้ง ส.ส.นั้นได้ประชุมชุดสืบสวนของแต่ละสถานีไปแล้วให้ตรวจสอบข้อมูลมือปืนรับจ้างว่า ใครมีความเชื่อมโยงกับใคร และมีการจัดหามือปืนเข้ามาแต่ละพื้นที่หรือไม่ โดยให้จัดส่งข้อมูลทั้งหมดในทางลับเพื่อง่ายต่อการติดตามและตรวจสอบข้อมูล
นอกจากนี้ยังมีคำสั่งไปแล้วว่า หากผู้สมัคร ส.ส.คนใดต้องการตำรวจติดตามในช่วงที่มีการหาเสียงเลือกตั้งก็สามารถร้องขอมาได้ โดยจะอำนวยความสะดวกให้ทุกพรรคอย่างเท่าเทียมกัน อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าการเลือกตั้ง ส.ส.ของ จ.พระนครศรีอยุธยา ไม่น่าจะเกิดเหตุการณ์รุนแรงเหมือนในบางจังหวัด
มีรายงานข่าวจากชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 1 ว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดทำบัญชีรายชื่อของมือปืนรับจ้างในช่วงนี้ โดยบุคคลลำดับที่ 1 ที่ตำรวจภูธรภาค 1 ต้องการตัวมากที่สุดขณะนี้ได้เปลี่ยนชื่อจาก ส.อ.บุญย์ตรี มุสะกะ หรือ “จ่าบึ๋ง” มาเป็น นายกิจ เหมือนวงศ์ธรรม หรือ “แอ้ว บางละมุง”
นอกจากนี้ยังมีซุ้มมือปืนกลุ่มคนมีสีกลุ่มใหญ่ทั้งใน จ.สระบุรี และ จ.ลพบุรี ที่ตำรวจภูธรภาค 1 ติดตามเป็นพิเศษ เพราะมีข่าวว่ามีการรับงานในช่วงเลือกตั้งมาแล้วอย่างน้อย 4 จังหวัด คือ สระบุรี ลพบุรี อ่างทอง และพระนครศรีอยุธยา ซึ่งซุ้มมือปืนใน 2 จังหวัดนี้มีกลุ่มค่อนข้างใหญ่ และมีโครงข่ายโยงใยถึงกันหมด
แต่สิ่งที่ตำรวจภูธรภาค 1 กำลังพบปัญหา คือ มือปืนที่ยังไม่มีหลักฐานในการก่อเหตุ ยังไม่สามารถขึ้นบัญชีไว้ได้ เพราะสุ่มเสี่ยงต่อการถูกฟ้อง แต่ได้มีการส่งชุดเคลื่อนที่เร็วติดตามกลุ่มมือปืนกลุ่มนี้แล้ว และเชื่อว่าการที่ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ที่ปรึกษา (สบ 10) รักษาราชการแทน ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง รอง ผบช.ภาค 1 กำชับเรื่องนี้มาเป็นพิเศษในช่วงเลือกตั้ง คาดว่าจะทำให้ความรุนแรงใน 3-4 จังหวัดนี้ลดลง