เพื่อนต่างวัยทะเลาะกันเสียงดังถูกยิงดับคู่

อุดรธานี -เพื่อนต่างวัยทะเลาะกับผู้จัดการปั๊ม คาดแย่งกันดูเคเบิ้ลทีวีก่อนที่จะถูกยิงดับ 2 ศพคาห้องพัก

วันนี้(11พ.ค.) ร.ต.ท.จิรันธนิน ปัตตาเทศ ร้อยเวรคดี สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งเกิดเหตุยิงกันตายที่หอพักประทุมเฮาส์ เลขที่44/4 หมู่4 บ้านถ่อน ต.บ้านเลื่อม อ.เมือง จ.อุดรธานี จึงได้ไปตรวจสอบในที่เกิดเหตุ

ในที่เกิดเหตุพบศพผู้เสียชีวิต 2 คน อยู่ในห้องพักของนายพงศ์เทพ ฉวีพิศาล ผู้จัดการปั๊มน้ำมันบางจาก โดยศพแรกนอนจมกองเลือดอยู่หน้าประตูทราบชื่อนายวิชาญชัย พงษ์ศรีแก้ว อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 52 หมู่ 4 ต.บ้านเลื่อม อ.เมือง จ.อุดรธานี ส่วนศพที่สองนอนจมกองเลือดอยู่บนเตียงนอน ทราบชื่อคือนายพิชัย แช่มชื่น อายุ 41 ปี ซึ่งข้างศพพบซองปืนสั้นสีดำ และท่อนเหล็กพันด้วยผ้าสี

นอกจากนี้ยังพบปลอกกระสุนจำนวน 2 ปลอก และหัวกระสุนจำนวน 1 หัว ขนาด.38 มม. ตกอยู่บริเวณที่เกิดเหตุ จึงได้ทำการตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบถามนายนรินทร์ วงศ์ประทุม อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 588/1 หมู่4 ต.บ้านเลื่อม อ.เมือง จ.อุดรธานี ผู้ดูแลหอพัก บอกว่า ก่อนหน้านี้ผู้ตายทั้งสองคนเคยมีปากเสียงกับ นายพงศ์เทพ ฉวีพิศาลบ่อยครั้ง เนื่องทั้งสองคนนั้นชอบดื่มสุราแล้วเสียงดัง สร้างความไม่พอใจให้กับเจ้าของห้องพักคือนายวิชาญชัย จนกระทั่งเมื่อคืนนี้ช่วงหัวค่ำ ผู้ตายทั้ง 2 คน ได้ทะเลาะกันอย่างรุนแรง เกี่ยวกับการต่อสายเคเบิ้ลเข้าห้องพักตัวเอง ตนเองก็ได้มาห้ามปรามเอาไว้ แล้วตนก็ได้กลับบ้าน กระทั่งมาทราบข่าวว่าทั้ง 2 คนเสียชีวิต

ด้านอุดมชัย ชัยเชียงพิณ อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่70/7 หมู่4 ต.บ้านเลื่อม อ.เมือง จ.อุดรธานี ผู้รับเหมาก่อสร้างอาคารหลังนี้ พบศพคนแรก บอกว่า วันนี้ตนได้เดินทางมาหาผู้ตายทั้ง 2 คน เพื่อพาไปกินข้าว แล้วก็จะพาไปทำงาน เมื่อเดินเข้าไปเพื่อจะเรียกก็พบศพทั้ง 2 คน นอนอยู่หายในห้อง จึงได้บอกผู้ดูแลหอพักแล้วแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบดังกล่าว

แพทย์เวรได้ทำการชันสูตรพิศพ นายวิชาญชัย ถูกยิงเข้าที่บริเวณหน้าอก 1 นัด ส่วนนายพิชัย ถูกยิงเข้าที่หน้าอกด้านซ้าย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงลงบันทึกไว้เป็นหลักฐานและจะติดตามตัวผู้ก่อเหตุต่อ

ทางด้าน ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาหลังก่อเหตุได้ขับรถเก๋งยี่ห้อมิตซูบิชิหลบหนีไป และได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนติดตามไล่ล่าจับกุมแล้ว ซึ่งตอนนี้ทราบว่าภรรยา เป็นคนอำเภอหนองหานให้ลงพื้นที่หาเบาะแสว่าผู้ต้องหาหลบหนีไปอยู่ที่ไหนเพื่อมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป