พะเยา - นายกเล็กเมืองพะเยา โอดครวญหนักถูกสั่งลดวงเงินกู้จาก 290 ล้านบาท เหลือ 106 ล้านบาท บอกต้องปรับแผนใหม่ ยึดโครงการเร่งด่วนเป็นหลัก พร้อมเลื่อนโครงการใหญ่ไม่มีกำหนด
นายศรายุทธ กัลยา นายกเทศมนตรีเมือง (ทม.) พะเยา จังหวัดพะเยา กล่าวว่า กรณีที่ทาง ทม.พะเยา ได้ทำเรื่องเสนอจังหวัดและส่วนกลางขอกู้เงินจำนวน 290 ล้านบาทเพื่อนำมาดำเนินการใน 13 โครงการที่ได้มีแผนงานไว้แล้วนั้น ปรากฏว่า ทางจังหวัดได้พิจารณาเบื้องต้นแล้วเห็นว่าวงเงินกู้สูงเกินไป เกรงทาง ทม.พะเยา จะแบกรับภาระในการชำระคืนไม่ไหว จึงมีความเห็นให้กู้ได้ในวงเงินไม่เกิน 106 ล้านบาทเท่านั้น ซึ่งเมื่อสามารถกู้ได้เพียง 106 ล้านบาท ตนก็ไม่คิดมากและขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนของการเสนอขอความเห็นชอบจากส่วนกลางเพื่ออนุมัติอีกครั้งหนึ่ง
นายกเทศมนตรีเมืองพะเยา กล่าวต่อว่า แต่เมื่อวงเงินกู้ที่สามารถกู้ได้ลดน้อยลง ทำให้กระทบถึงแผนงานโครงการที่วางไว้ตั้งแต่ต้นจาก 13 โครงการก็ต้องลดลงตามไปด้วย โดยเฉพาะโครงการขนาดใหญ่ที่ต้องใช้งบประมาณระหว่าง 50-100 ล้านบาท ต้องชะลอไว้ก่อน จากนั้นจึงพิจารณาโครงการที่จำเป็นเร่งด่วน เช่น โครงการก่อสร้างถนน เส้นทางสัญจรภายในพื้นที่เขต ทม.พะเยา สายต่าง ๆ เพราะประชาชนขอและต้องการใช้มานานกว่า 4 ปีแล้ว
“นอกจากนี้ โครงการใหญ่ 3-4 โครงการ เป็นโครงการที่ได้มีฝ่ายนิติบัญญัติทักท้วง และบางโครงการก็ต้องทำประชาพิจารณ์ เพราะเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม ดังนั้นเมื่องบประมาณไม่เพียงพอจึงเป็นเหตุผลประกอบทำให้ต้องเลื่อนหรือชะลอโครงการใหญ่ไว้ก่อน แต่โครงการขนาดเล็กและเร่งด่วนต้องเดินหน้าต่อ รอเพียงส่วนกลางอนุมัติทาง ทม.พะเยา จะดำเนินการทันที” นายศรายุทธ กล่าว
นายศรายุทธ กัลยา นายกเทศมนตรีเมือง (ทม.) พะเยา จังหวัดพะเยา กล่าวว่า กรณีที่ทาง ทม.พะเยา ได้ทำเรื่องเสนอจังหวัดและส่วนกลางขอกู้เงินจำนวน 290 ล้านบาทเพื่อนำมาดำเนินการใน 13 โครงการที่ได้มีแผนงานไว้แล้วนั้น ปรากฏว่า ทางจังหวัดได้พิจารณาเบื้องต้นแล้วเห็นว่าวงเงินกู้สูงเกินไป เกรงทาง ทม.พะเยา จะแบกรับภาระในการชำระคืนไม่ไหว จึงมีความเห็นให้กู้ได้ในวงเงินไม่เกิน 106 ล้านบาทเท่านั้น ซึ่งเมื่อสามารถกู้ได้เพียง 106 ล้านบาท ตนก็ไม่คิดมากและขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนของการเสนอขอความเห็นชอบจากส่วนกลางเพื่ออนุมัติอีกครั้งหนึ่ง
นายกเทศมนตรีเมืองพะเยา กล่าวต่อว่า แต่เมื่อวงเงินกู้ที่สามารถกู้ได้ลดน้อยลง ทำให้กระทบถึงแผนงานโครงการที่วางไว้ตั้งแต่ต้นจาก 13 โครงการก็ต้องลดลงตามไปด้วย โดยเฉพาะโครงการขนาดใหญ่ที่ต้องใช้งบประมาณระหว่าง 50-100 ล้านบาท ต้องชะลอไว้ก่อน จากนั้นจึงพิจารณาโครงการที่จำเป็นเร่งด่วน เช่น โครงการก่อสร้างถนน เส้นทางสัญจรภายในพื้นที่เขต ทม.พะเยา สายต่าง ๆ เพราะประชาชนขอและต้องการใช้มานานกว่า 4 ปีแล้ว
“นอกจากนี้ โครงการใหญ่ 3-4 โครงการ เป็นโครงการที่ได้มีฝ่ายนิติบัญญัติทักท้วง และบางโครงการก็ต้องทำประชาพิจารณ์ เพราะเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม ดังนั้นเมื่องบประมาณไม่เพียงพอจึงเป็นเหตุผลประกอบทำให้ต้องเลื่อนหรือชะลอโครงการใหญ่ไว้ก่อน แต่โครงการขนาดเล็กและเร่งด่วนต้องเดินหน้าต่อ รอเพียงส่วนกลางอนุมัติทาง ทม.พะเยา จะดำเนินการทันที” นายศรายุทธ กล่าว
