กาฬสินธุ์-เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติภูพานสนธิกำลังกับทหารและตชด.ที่ 23 บุกจับแก๊งมอดไม้ขณะกำลังขนย้ายส่งนายทุนต่างชาติ ด้าน หน.อุทยานฯเผยสถิติจับกุมในรอบปีที่ผ่านมาได้ผู้ต้องหา 43 คน ยึดของกลางไม้พะยุูงแปรรูปขนาดใหญ่มากถึง 252 ท่อน มูลค่ากว่า 7 ล้านบาท
เมื่อเวลา 06.30 น.วันนี้( 7 พ.ค.) นายสราวุฒิ บุญเกื้อ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูพาน นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์ป่าอุทยานแห่งชาติภูพาน พร้อมด้วยกำลังทหารค่ายสุรศักดิ์มนตรี จ.อุดรธานี กำลังทหารกรมทหารราบที่ 3 ค่ายกฤษณ์ศิวะรา จ.สกลนคร และตำรวจตระเวนชายแดนที่ 23 ค่ายศรีสกุลวงศ์ จ.สกลนครกว่า 30 นาย พร้อมอาวุธครบมือออกปราบปรามแก๊งลักลอบตัดไม้พะยูงบนอุทยานแห่งชาติภูพาน บริเวณท้ายบ้านกอก ต.ผาเสวย อ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ หลังสืบทราบว่า มีขบวนการมอดไม้กำลังจะลำเลียงไม้พะยูงที่ลักลอบตัดส่งต่อให้กับนายทุนต่างชาติ
โดยที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบรถกระบะยี่ห้อมิตซูบิซิ สีเทา ทะเบียน น-8722 หนองคาย ซึ่งเป็นรถต้องสงสัยกำลังบรรทุกไม้มาเต็มคันรถวิ่งออกมาจากทางขึ้นอุทยานแห่งชาติภูพาน โดยมีชายฉกรรจ์นั่งคุมมาด้วยประมาณ 4-5 คน จึงกระจายกำลังเข้าจับกุม แต่ผู้ต้องสงสัยทั้งหมดมองเห็นเจ้าหน้าที่จึงวิ่งหลบหนีไปได้และจอดรถทิ้งไว้
จากการตรวจค้นพบไม้พะยูงแปรรูปขนาดใหญ่จำนวน 10 ท่อนหรือ 10 เหลี่ยม จึงยึดของกลางทั้งหมดไว้เป็นหลักฐานพร้อมกับนำส่งพนักงานสอบสวนสภ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ เพื่อติดตามตัวเจ้าของรถมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
นายสราวุฒิ บุญเกื้อ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูพาน กล่าวว่า จากนโยบายของอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช พร้อมด้วยนายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เข้มงวดออกปราบปราม เพื่อยับยั้งขบวนการลักลอบตัดไม้บนอุทยานแห่งชาติภูพาน
โดยให้จัดกำลังออกลาดตระเวนในรูปแบบปูพรมทุกพื้นที่ ควบคู่ไปกับการสร้างเครือข่ายชาวบ้านที่อาศัยอยู่ใกล้กับอุทยานแห่งชาติ ให้ตระหนักและมีความหวงแหนทรัพยากรป่าไม้ของตัวเอง พร้อมทั้งช่วยกันแจ้งข่าวสาร ดูแลสอดส่อง เป็นหูเป็นตาให้กับเจ้าหน้าที่ จึงทำให้การปฏิบัติงานเป็นไปด้วยดี
จนกระทั่งสามารถดำเนินการปราบปรามจับกุมผู้กระทำผิดลักลอบตัดไม้พะยูง ในเขตอุทยานแห่งชาติภูพานในพื้นที่จ.กาฬสินธุ์และจ.สกลนคร ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2553 จนถึงปัจจุบันได้มากถึง 50 คดี จับผู้ต้องหาได้ 43 คน ยึดของกลางไม้พะยูงแปรรูปขนาดใหญ่และไม้พะยูงที่ยังไม่ได้แปรรูปจำนวน 252 ท่อน/เหลี่ยม มูลค่าไม่ต่ำกว่า 7 ล้านบาท รถบรรทุก 6 ล้อ 1 คัน รถยนต์กระบะ 4 คัน เลื่อยยนต์ และอุปกรณ์ที่ใช้ในการลักลอบตัดไม้อีกจำนวนมาก
นายสราวุฒิ กล่าวอีกว่า จากสถานการณ์ดังกล่าวทำให้ทราบว่าไม้พะยูงบนอุทยานแห่งชาติภูพาน โดยเฉพาะบริเวณจ.กาฬสินธุ์ กำลังเป็นที่ต้องการของนายทุนต่างชาติ ซึ่งได้ว่าจ้างชาวบ้านในพื้นที่เข้าไปตัดและแปรรูปส่ง แต่พอเจ้าหน้าที่กวดขันและกดดันมากขึ้น ทำให้นายทุนเพิ่มค่าจ้างให้กับชาวบ้านอีก 2 เท่าเพื่อเป็นสิ่งล่อใจที่เข้าไปตัดอีก ดังนั้น จึงอยากฝากชาวบ้านอย่าได้เห็นแก่เงินและประโยชน์ส่วนตัวอย่างเดียว โดยที่ไม่คำนึงถึงผลกระทบที่จะตามมา หากป่าไม้หมดลง เพราะจะเกิดทั้งความแห้งแล้ง ขาดน้ำ และอาจจะเกิดปัญหาอุทกภัยได้