ศูนย์ข่าวศรีราชา - พ่อค้าของชำ ในตลาดโพธิสาร ตำบลนาเกลือ อำเภอบางละมุง ชลบุรี น้ำใจงาม เก็บเงินนับแสนได้ในตู้เอทีเอ็ม สาขาพัทยาเหนือ พร้อมหอบเงินส่งตำรวจเพื่อตามหาเจ้าของ
วันนี้ (5 พ.ค.) นายสมศักดิ์ สติพลัน อายุ 39 ปี พ่อค้าขายของชำ ตลาดโพธิสาร ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี พร้อมด้วย นายวีระ พูลสุข อายุ 50 ปี เจ้าหน้าที่ศูนย์กำจัดและบริหารศัตรูพืช เมืองพัทยา เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี โดยแจ้งให้ทราบว่าสามารถเก็บเงินได้จำนวนเกือบ 1 แสนบาท โดยไม่ทราบว่าผู้ใดเป็นเจ้าของ
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ ขณะที่นำเงินสดจำนวน 6,000 บาท ไปฝากที่ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาโลตัส พัทยาเหนือ ผ่านทางตู้รับฝากเงินอัตโนมัติ หลังจากกดรหัสบัตรและทำตามวิธีการที่ตู้ดังกล่าวบอก กระทั่งถึงขั้นตอนการหย่อนเงินเพื่อฝากเข้าบัญชี ปรากฏว่า พอช่องรับฝากเงินเปิดขึ้นมาต้องตกใจ เพราะภายในมีเงินสดๆ ฉบับละ 1,000 บาท รวมแล้วกว่า 94,000 บาท โดยไม่ทราบว่าเป็นของใคร
หลังจากตั้งสติได้ จึงไปปรึกษานายวีระ ซึ่งเป็นนายจ้างก่อนจะพากันหอบเงินจำนวนดังกล่าวเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อให้ตามหาเจ้าของมารับเงินดังกล่าวคืนไป
เมื่อเจ้าหน้าที่ทำการสอบสวนเบื้องต้นแล้ว ได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน และขอเบอร์โทรศัพท์ของหนุ่มพลเมืองดีนี้ไว้ ก่อนจะได้สืบหาว่าใครเป็นเจ้าของเงินเพื่อมารับติดต่อมารับเงินคืน
วันนี้ (5 พ.ค.) นายสมศักดิ์ สติพลัน อายุ 39 ปี พ่อค้าขายของชำ ตลาดโพธิสาร ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี พร้อมด้วย นายวีระ พูลสุข อายุ 50 ปี เจ้าหน้าที่ศูนย์กำจัดและบริหารศัตรูพืช เมืองพัทยา เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี โดยแจ้งให้ทราบว่าสามารถเก็บเงินได้จำนวนเกือบ 1 แสนบาท โดยไม่ทราบว่าผู้ใดเป็นเจ้าของ
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ ขณะที่นำเงินสดจำนวน 6,000 บาท ไปฝากที่ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาโลตัส พัทยาเหนือ ผ่านทางตู้รับฝากเงินอัตโนมัติ หลังจากกดรหัสบัตรและทำตามวิธีการที่ตู้ดังกล่าวบอก กระทั่งถึงขั้นตอนการหย่อนเงินเพื่อฝากเข้าบัญชี ปรากฏว่า พอช่องรับฝากเงินเปิดขึ้นมาต้องตกใจ เพราะภายในมีเงินสดๆ ฉบับละ 1,000 บาท รวมแล้วกว่า 94,000 บาท โดยไม่ทราบว่าเป็นของใคร
หลังจากตั้งสติได้ จึงไปปรึกษานายวีระ ซึ่งเป็นนายจ้างก่อนจะพากันหอบเงินจำนวนดังกล่าวเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อให้ตามหาเจ้าของมารับเงินดังกล่าวคืนไป
เมื่อเจ้าหน้าที่ทำการสอบสวนเบื้องต้นแล้ว ได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน และขอเบอร์โทรศัพท์ของหนุ่มพลเมืองดีนี้ไว้ ก่อนจะได้สืบหาว่าใครเป็นเจ้าของเงินเพื่อมารับติดต่อมารับเงินคืน
