บุรีรัมย์ - “รอง มทภ.2” เป็นประธานมอบเงินช่วยเหลือ “สหายบุรีรัมย์” ตามพันธสัญญา 66/23 จำนวน 224 ราย รวม 50 ล้าน เพื่อนำไปลงทุนประกอบอาชีพ พร้อมเผยยังมี ผรท.ที่ไม่ผ่านการคัดกรองเข้ามาร้องเรียนขอรับการช่วยเหลืออีกจำนวนมาก
วันนี้ (3 พ.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น. พล.ต.ชาสร วายโสกา รองแม่ทัพภาคที่ 2 (รอง มทภ.2) และ รองผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 2 (กอ.รมน.ภาค 2) ได้เดินทางมาเป็นประธานพิธี มอบเงินช่วยเหลือค่าประกอบอาชีพ ตามพันธสัญญา 66/23 ให้กับผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย (ผรท.) ในเขตพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ ที่หอประชุมศาลาประชาคมหลังศาลากลางจังหวัดบุรีรัมย์ 224 ราย ที่ผ่านการตรวจคัดกรองคุณสมบัติจากคณะกรรมการดำเนินการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยระดับจังหวัด รายละ 225,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 50,400,000 บาท เพื่อให้สมาชิกผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย ที่เคยร่วมต่อสู้กับผู้ก่อการร้ายในอดีตได้นำเงินดังกล่าวไปเป็นทุนในการประกอบอาชีพ เลี้ยงตนเองและครอบครัว หลังจากที่ได้ต่อสู้เรียกร้องขอความช่วยเหลือจากรัฐบาลมาตั้งแต่ปี 2526
อย่างไรก็ตาม เมื่อปี 2550 ที่ผ่านมา กลุ่มผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยในจังหวัดบุรีรัมย์ก็ได้รับเงินช่วยเหลือค่าประกอบอาชีพจากรัฐบาลในรอบแรกไปแล้ว 120 รายๆ ละ 125,000 บาท สำหรับครั้งนี้เป็นรอบที่สองอีก 224 ราย จากที่ จ.บุรีรัมย์ มีสมาชิกผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยมาลงทะเบียนไว้ทั้งสิ้นกว่า 500 ราย
พล.ต.ชาสร วายโสกา รองแม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวว่า ยังมีสมาชิกผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย ในหลายจังหวัดภาคอีสาน ที่อ้างว่า ทำหน้าที่เป็นฝ่ายธุรการและผู้จัดส่งเสบียงซึ่งไม่ผ่านการคัดกรองจากคณะกรรมการ ได้เข้ามาร้องขอรับความช่วยเหลืออยู่อีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งกรณีดังกล่าวทางกองทัพภาคที่ 2 ก็จะได้ดำเนินการตรวจสอบคุณสมบัติและนำเสนอรัฐบาลเพื่อพิจารณาให้ความช่วยเหลือค่าประกอบอาชีพแก่ ผรท.กลุ่มดังกล่าวตามขั้นตอนต่อไป
พร้อมกันนี้ พล.ต.ชาสร วายโสกา รองแม่ทัพภาคที่ 2 ยังได้ย้ำให้ผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยที่เดินทางมารับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลในครั้งนี้ด้วยว่า ขอให้ ผรท.ทุกคนได้นำเงินดังกล่าวไปใช้ให้เกิดประโยชน์ในการลงทุนประกอบอาชีพเลี้ยงตนเองและครอบครัว เพื่อลดปัญหาความเดือดร้อนและแก้ไขปัญหาความยากจนตามนโยบายของรัฐบาลด้วย
